มีเป้าหมาย แต่ไม่มีเงินที่จะทำให้สำเร็จ 5 วิธีที่จะทำให้ ‘เงิน’ ไม่ใช่อุปสรรคในการพิชิตเป้าหมายอีกต่อไป

Share

ชีวิตของเราทุกคนล้วนแต่มีเป้าหมายกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเล็กหรือใหญ่ที่ทำเพื่อตัวเอง ครอบครัว และคนรัก แต่การจะไปให้ถึงเป้าหมายเหล่านั้น กลับไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เพราะต่อให้วางแผนมาดีแค่ไหน ก็หลีกเลี่ยงอุปสรรคที่อาจจะพบเจอไปไม่ได้ และหนึ่งในอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้เราไม่สามารถพิชิตเป้าหมายได้สำเร็จ ก็คือ ‘เงิน’ นั่นเอง

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เครื่องมือสำคัญที่ทำให้เราสามารถพิชิตเป้าหมายได้สำเร็จนั้น หนีไม่พ้นเรื่อง ‘เงิน’ อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่า ในอดีตจะมีคำกล่าวสุดคลาสสิกอย่าง ‘เงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง’ หรือ ‘เงินไม่สามารถซื้อความสุขได้’ แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว ถ้าไม่มีเงินในยุคนี้ คงเป็นทุกข์มากกว่าเป็นสุขแน่ๆ

ส่วนเรื่องการพิชิตเป้าหมายให้สำเร็จ ยิ่งไม่ต้องไปหวังเลย เพราะแค่จะใช้ชีวิตให้รอดในแต่ละวันก็ยากแล้ว และในยามที่เศรษฐกิจเป็นเช่นนี้ การเผชิญหน้ากับภาวะเงินเฟ้อที่ของทุกอย่างราคาพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ค่าแรงเท่าเดิม ยิ่งทำให้การเก็บเงินให้ได้สักก้อน จึงเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก

ถึงแม้ว่า ในอนาคต ทุกคนอาจจะต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ ไปอีกสักพักใหญ่ แต่เราก็ไม่อยากให้ทุกคนยอมแพ้กับการพิชิตเป้าหมายของตนเองไป ดังนั้น เพื่อเป็นการเริ่มต้นที่ดีของทุกคน เราจึงรวบรวม 5 เทคนิคดีๆ ที่จะทำให้ ‘เงิน’ ไม่ใช่อุปสรรคในการพิชิตเป้าหมายอีกต่อไป มาฝากกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. เขียนเป้าหมายออกมาให้ชัดเจน

ก่อนที่จะวางแผนเกี่ยวกับเงินที่ต้องใช้ในการพิชิตเป้าหมาย เราต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนก่อน ซึ่งการตั้งเป้าหมายในที่นี้ ไม่ใช่แค่การคิด และทดเอาไว้ในใจเท่านั้น แต่ต้องเขียนมันออกมา แล้วแปะไว้ในที่ที่ตัวเองมองเห็น เพื่อเตือนใจ และสร้างแรงกระตุ้นให้เรามีวินัยทางการเงินเสมอ

และวิธีนี้ ยังสอดคล้องกับผลการวิจัยที่ทำการสำรวจแนวทางการตั้งเป้าหมาย ของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) อีกด้วย ซึ่งมีนักศึกษาถึง 84 เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน อีก 13 เปอร์เซ็นต์ มีเป้าหมายชัดเจน แต่ไม่ได้เขียนออกมา ส่วน 3 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือ คือกลุ่มที่มีเป้าหมายชัดเจน และเขียนออกมา

เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี นักศึกษากลุ่มนี้ ได้เข้าสู่วัยทำงาน พบว่า กลุ่ม 3 เปอร์เซ็นต์ ที่มีเป้าหมายชัดเจน และเขียนออกมา มีรายได้มากกว่ากลุ่ม 97 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือถึง 10 เท่า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการเขียนเป้าหมายออกมา

2. หลีกเลี่ยงไลฟ์สไตล์ที่ทำให้การเงินสะดุด

วิธีนี้ เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดีว่า ‘ต้องทำ’ แต่จริงๆ แล้ว มันคือสิ่งที่ทำได้ยากที่สุด เพราะความหอมหวานของสิ่งต่างๆ ที่ล่อตาล่อใจ มันช่างเย้ายวนชวนให้เราเสียเงินเสมอ รวมถึงแรงกดดันทางสังคมที่ต้องมีสิ่งนั้น ต้องมีสิ่งนี้ ก็มีผลกระทบกับการใช้จ่ายของเราเช่นกัน

ถึงแม้ว่า การหักห้ามใจจากสิ่งเหล่านี้ จะเป็นเรื่องยาก แต่หากเราอยากพิชิตเป้าหมายที่ใฝ่ฝันมานานให้สำเร็จ ก็ต้องอดทนต่อสิ่งล่อตาล่อใจ และตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปให้ได้มากที่สุด

3. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เป็นวิธีพื้นฐานที่มีความสำคัญมาก เพราะมันจะทำให้เราเห็นภาพรวมสภาพทางการเงินของตัวเองว่า สามารถแบ่งเงินเพื่อใช้สำหรับเป้าหมายของตัวเองได้เท่าไร รวมถึงรายรับสัมพันธ์กับรายจ่ายหรือไม่ หากไม่สัมพันธ์กัน จะได้หาทางแก้ไขอย่างทันท่วงที อย่างการตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น หรือหารายได้เพิ่มจากการทำงานนอกเหนือจากงานประจำ

4. แบ่งเงินเป็นสัดส่วนตามหลักการ JARS System

JARS System เป็นหลักการที่คิดค้นโดย ที ฮาร์ฟ เอเคอร์ (T. Harv Eker) นักธุรกิจและนักเขียนเจ้าของหนังสือ ‘ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน’ (Secrets of the Millionaire Mind) ที่ใครหลายๆ คน น่าจะมีอยู่ในครอบครอง

โดยหลักการนี้ จะแบ่งเงินจากรายได้ออกเป็น 6 ส่วน ตามความสำคัญในการดำเนินชีวิต เหมือนการใส่ไว้ในโหล 6 ใบ และแบ่งแต่ละส่วนเป็นดังนี้

ส่วนที่ 1 : เงินสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน คิดเป็น 55 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ทั้งหมด

ส่วนที่ 2 : เงินออมเพื่อเป้าหมายสำคัญในชีวิต คิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ทั้งหมด

ส่วนที่ 3 : เงินสำหรับของขวัญเพื่อตนเองและครอบครัว คิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ทั้งหมด

ส่วนที่ 4 : เงินสำหรับการเพิ่มพูนความรู้ คิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ทั้งหมด

ส่วนที่ 5 : เงินสำหรับการลงทุน คิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ทั้งหมด

ส่วนที่ 6 : เงินสำหรับการทำบุญหรือการบริจาค คิดเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ทั้งหมด

5. วางแผนการลงทุนระยะยาว

การออมเงินอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 0.25-1.50 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี ซึ่งมีมูลค่าน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ เช่น พันธบัตร กองทุนรวม หุ้น เป็นต้น

ดังนั้น การลงทุนจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น โดยเราสามารถเลือกลงทุนตามความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ และหากใครที่ยังคิดไม่ออกว่า จะเริ่มลงทุนในอุตสาหกรรมอะไรดี อาจจะเริ่มจากการติดข่าวสารเกี่ยวกับเมกะเทรนด์ (Mega Trend) มาแรงอย่าง ESG แนวคิดการทำธุรกิจเพื่อสังคมที่หลายๆ บริษัทเริ่มนำไปใช้ในบริษัทของตนเองมากขึ้นก็ได้

แต่การลงทุนทุกรูปแบบ ล้วนมีความเสี่ยง เพราะฉะนั้น การศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

5 วิธีที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เป็นแค่แนวทางที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถพิชิตเป้าหมายได้สำเร็จ แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อลงมือทำแล้วเท่านั้น เหมือนที่ปาโบล ปิกัสโซ (Pablo Picasso) จิตรกรเอกของโลก ได้กล่าวว่า “เป้าหมายของเราจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมีการวางแผน เราต้องเชื่อมั่นและทำมันอย่างจริงจัง ซึ่งนี่เป็นทางเดียวที่จะนำทางไปสู่ความสำเร็จได้”

Sources: https://bit.ly/3jXhcp9

https://bit.ly/38apozH

https://bit.ly/3vvIys8