AMD เปิดตัวชิป AI ใหม่ขนทั้ง Ryzen AIInstinct GPU และ EPYC 9005พร้อมเทคโนโลยี Ultra Internet
‘Lisa Su’ CEO ของ AMD พร้อมลุย ชิงความเป็นเจ้าแห่ง Data Center และ AI ในงาน ‘Advancing AI 2024’ ณ. San Francisco
หลังจากที่ปล่อยให้ค่ายอื่นโดดเด่นด้าน AI สำหรับ Enterprise มานาน งานนี้ AMD เข็นเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเปิดตัวในงาน เพื่อลงสนามการแข่งขันด้าน AI
.
โดยในงานนี้ Future Trends ได้รับเชิญเป็น Exclusive Media จากไทย เพื่อเข้าร่วมงาน AMD Advancing AI 2024 ซึ่งจัดขึ้นที่ Moscone Center @San Francisco
.
ทาง AMD ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลัก 3 ตัว ได้แก่ AMD Ryzen AI PRO 300 Series สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและโน้ตบุ๊ก, AMD Instinct MI325X และ MI355X จีพียูประสิทธิภาพสูงสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ และ AMD EPYC 9005 Series โปรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูล ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่นำเสนอประสิทธิภาพที่เหนือกว่า แต่ยังมุ่งเน้นการประหยัดพลังงานและความคุ้มค่าในการลงทุน
.
นอกจากนี้ AMD ยังได้เปิดตัวเทคโนโลยี Ultra Internet จาก AMD Pensando ซึ่งจะปฏิวัติการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศ AI ของบริษัท
.
Dr. Lisa Su ประธานและซีอีโอของ AMD กล่าวว่า “ศูนย์ข้อมูลและ AI เป็นโอกาสการเติบโตที่สำคัญสำหรับ AMD และเรากำลังสร้างแรงผลักดันอย่างแข็งแกร่งสำหรับโปรเซสเซอร์ EPYC และ AMD Instinct ของเราในกลุ่มลูกค้าที่กำลังขยายตัว” เธอยังเสริมว่า “เรามองว่าตลาดตัวเร่ง AI สำหรับศูนย์ข้อมูลจะเติบโตถึง 500 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบนวัตกรรมแบบเปิดในระดับใหญ่ผ่านโซลูชันซิลิคอน, ซอฟต์แวร์, เครือข่าย และระดับคลัสเตอร์ที่ขยายตัวของเรา”
.
การเปิดตัวสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการคอมพิวเตอร์ ที่ AI จะกลายเป็นส่วนสำคัญในทุกอุปกรณ์ ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์
.
Ryzen AI PRO 300 Series จะทำให้ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอนเทนต์ การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
.
Instinct GPU จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนา AI ขั้นสูง เปิดโอกาสให้นักวิจัยและนักพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนโลก ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและความสามารถในการรองรับโมเดล AI ขนาดใหญ่ Instinct GPU จะช่วยผลักดันขอบเขตของ AI ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น
.
EPYC 9005 Series จะปฏิวัติการประมวลผลในศูนย์ข้อมูลและคลาวด์ ช่วยให้องค์กรสามารถรันแอปพลิเคชันที่ต้องการประสิทธิภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุน นอกจากนี้ยังมีความสามารถด้าน AI ที่โดดเด่น ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วน
.
ส่วน Ultra Internet จะวางรากฐานสำหรับการสื่อสารยุคหน้า รองรับการเติบโตของ AI และ IoT ด้วยการนำเสนอโซลูชันเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงและยืดหยุ่น Ultra Internet จะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่มีประสิทธิภาพและขยายขนาดได้
.
Future Trends พาสำรวจรายละเอียดของแต่ละผลิตภัณฑ์ ว่ามีอะไรน่าสนใจกับหมุดหมายต่อไปของโลก AI ในอนาคตบ้างไปด้วยกันเลย
.
🧠 AMD Ryzen™ AI PRO 300 Series เพื่อคอมพิวเตอร์ PC ในระดับธุรกิจ
.
AMD Ryzen AI PRO 300 Series CPUs: Zen 5 คือซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมความสามารถด้าน AI ในตัว เป็นก้าวสำคัญของ AMD ในการนำ AI มาสู่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและโน้ตบุ๊ก โดยมีจุดเด่นที่สำคัญดังนี้
.
- ประสิทธิภาพด้าน AI สูงสุดถึง 55 TOPS (Trillion Operations Per Second) ซึ่งมากกว่าคู่แข่งอย่าง Intel Core Ultra ถึง 5 เท่า
- มีหน่วยประมวลผล NPU (Neural Processing Unit) ในตัว ทำให้สามารถรันโมเดล AI ได้อย่างรวดเร็วและประหยัดพลังงาน
- รองรับ Microsoft Copilot+ ซึ่งเป็น AI assistant รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Microsoft
- ประสิทธิภาพการทำงานทั่วไปสูงขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
- รองรับ RAM DDR5 ความเร็วสูงถึง 6400 MHz
.
Ryzen AI PRO 300 Series มีให้เลือกหลายรุ่น ตั้งแต่ 8 คอร์ไปจนถึง 12 คอร์ โดยรุ่นท็อปสุดอย่าง Ryzen AI 9 HX PRO 375 มีความเร็วสูงสุดถึง 5.1 GHz และมี NPU ประสิทธิภาพ 55 TOPS
.
การทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot+ ทำให้ Ryzen AI สามารถทำให้การทำงานมีความอัจฉริยะมากขึ้น เช่น
.
- ค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วด้วยการพิมพ์เพียงไม่กี่คำ
- แปลภาษาแบบเรียลไทม์มากกว่า 40 ภาษา
- สร้างภาพจากคำอธิบายหรือการวาดด้วยปากกา
.
นอกจากนี้ Ryzen AI ยังรองรับแอปพลิเคชันด้าน AI มากมาย ทั้งในด้านการผลิตสื่อ การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างโค้ด ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
.
AMD ยังได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ซอฟต์แวร์หลายราย เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่รองรับ Ryzen AI โดยเฉพาะ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน AI ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
นอกจากนี้ Ryzen AI PRO 300 Series ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี AMD PRO ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสามารถในการจัดการสำหรับองค์กร เช่น:
- AMD Secure Processor: ช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์
- Cloud Bare Metal Recovery: ช่วยให้ทีมไอทีสามารถกู้คืนระบบผ่านคลาวด์ได้อย่างราบรื่น
- Supply Chain Security: ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของชิปและติดตามการเคลื่อนไหวในห่วงโซ่อุปทาน
Ryzen AI PRO 300 Series จึงเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองสำหรับองค์กรที่ต้องการนำ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดย AMD คาดว่าจะมีคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Ryzen AI PRO มากกว่า 100 รุ่นเปิดตัวภายในปี 2025
.
🚀 AMD Instinct GPU: พลังแห่ง AI ขั้นสูงสุด
.
AMD Instinct MI325X และ MI355X คือจีพียูประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุดจาก AMD ที่ออกแบบมาเพื่องาน AI โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์นี้นับเป็นก้าวสำคัญของ AMD ในการแข่งขันในตลาด AI
.
AMD Instinct MI325X มีจุดเด่นดังนี้
- หน่วยความจำ HBM3E ขนาด 256GB
- ประสิทธิภาพสูงสุด 2.6 PetaFLOPS สำหรับการคำนวณ FP8
- แบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงถึง 6 TB/s
.
ส่วน AMD Instinct MI355X ซึ่งเป็นรุ่นที่จะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025 มีสเปคที่น่าประทับใจยิ่งขึ้น
- หน่วยความจำ HBM3E ขนาด 288GB
- ประสิทธิภาพสูงสุด 74 PetaFLOPS สำหรับการคำนวณ FP4 และ FP6
- แบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงถึง 5.3 TB/s
.
AMD บอกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง NVIDIA H200 แล้ว AMD Instinct MI325X มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอย่าง ชัดเจน ในเรื่องของ
.
- มีหน่วยความจำมากกว่าถึง 1.8 เท่า (256GB vs 141GB)
- มีแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงกว่า 1.3 เท่า (6 TB/s vs 4.8 TB/s)
- มีประสิทธิภาพการคำนวณ FP16 และ FP8 สูงกว่า 1.3 เท่า
.
ในการทดสอบประสิทธิภาพจริง AMD Instinct MI325X แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นในการรันโมเดล AI ขนาดใหญ่
- เร็วกว่า 1.3 เท่าในการรัน Mistral 7B ที่ FP16
- เร็วกว่า 1.2 เท่าในการรัน Llama 3.1 70B ที่ FP8
- เร็วกว่า 1.4 เท่าในการรัน Mixtral 8x7B ที่ FP16
.
นอกจากฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลัง AMD ยังได้พัฒนาซอฟต์แวร์ ROCm เพื่อรองรับการทำงานของ Instinct GPU โดยเฉพาะ โดย ROCm 6.2 รุ่นล่าสุดสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างน่าประทับใจ
.
- เพิ่มประสิทธิภาพการ inference สูงถึง 2.4 เท่า
- เพิ่มประสิทธิภาพการ training สูงถึง 1.8 เท่า
- รองรับโมเดล AI มากกว่า 1 ล้านโมเดลแบบ out-of-the-box
- รองรับโมเดลยอดนิยมอย่าง Stable Diffusion 3, Meta Llama 3, 3.1 และ 3.2
.
ตัวอย่างการใช้งาน AMD Instinct GPU ในงาน AI ที่ซับซ้อน
- การฝึกฝนโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) เช่น GPT-4 หรือ Llama 3
- การสร้างภาพและวิดีโอด้วย AI เช่น Stable Diffusion XL
- การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
- การจำลองสภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
.
AMD ยังได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำในวงการ AI เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มและโซลูชันที่ใช้ประโยชน์จาก Instinct GPU อย่างเต็มที่ เช่น
.
- Google Cloud ใช้ AMD Instinct ในบริการ AI Hypercomputer
- Microsoft Azure ใช้ MI300X ในการรัน GPT workloads และวางแผนที่จะใช้ MI350 series ในอนาคต
- Meta ใช้ MI300X ในการรัน Llama 405B สำหรับการให้บริการแบบ live traffic
- Databricks รายงานว่า MI300X ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรันโมเดล Llama และโมเดลเฉพาะของ Databricks ได้มากกว่า 50%
.
AMD มีแผนที่จะพัฒนา Instinct GPU รุ่นต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดย AMD Instinct MI400 Series ที่ใช้สถาปัตยกรรม CDNA Next มีกำหนดเปิดตัวในปี 2026
.
💪 AMD EPYC 9005 โปรเซสเซอร์เซิร์ฟเวอร์ที่ยังคงทรงพลัง และยังมี Market แชร์ที่โตทุกปี
.
AMD EPYC 9005 Series คือโปรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ล่าสุดจาก AMD ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Zen 5 ซึ่งนำเสนอประสิทธิภาพที่เหนือชั้นสำหรับงานประมวลผลระดับองค์กร
.
จุดเด่นของ AMD EPYC 9005 Series มีดังนี้
- จำนวนคอร์สูงสุดถึง 192 คอร์ และ 384 เทรด
- ความเร็วสูงสุดถึง 5GHz
- รองรับ AVX512 แบบเต็มรูปแบบ
- ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 17% ต่อคอร์เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
- รองรับ DDR5 ความเร็วสูงถึง 6400 MHz
- รองรับ PCIe 5.0 และ CXL 2.0
เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Intel Xeon แล้ว AMD EPYC 9005 มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน:
- ประสิทธิภาพ SPEC CPU สูงกว่า 2.7 เท่า
- ประสิทธิภาพ HPC สูงกว่าถึง 3.9 เท่า
- ประสิทธิภาพ AI บน CPU สูงกว่า 3.8 เท่า
- ประสิทธิภาพการทำงานทั่วไปสูงกว่า 4.0 เท่า
นอกจากนี้ EPYC 9005 ยังมีความสามารถด้าน AI บน CPU ที่น่าประทับใจ สามารถรันโมเดล AI อย่าง Llama 3.1 8B ได้เร็วกว่า Intel Xeon ถึง 3.8 เท่า ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการทำ AI inference บนเซิร์ฟเวอร์
ตัวอย่างการใช้งาน AMD EPYC 9005 ในศูนย์ข้อมูลและคลาวด์:
- การประมวลผลฐานข้อมูลขนาดใหญ่
- การรันเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก
- การประมวลผล AI และ Machine Learning
- การจำลองทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม
AMD EPYC 9005 ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลได้อย่างมาก โดยสามารถทดแทนเซิร์ฟเวอร์รุ่นเก่าได้ถึง 7 ต่อ 1 ช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 68% และลดค่าใช้จ่ายรวม 3 ปีได้ถึง 67% ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับองค์กรที่ต้องการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ AMD ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัย โดย EPYC 9005 มาพร้อมเทคโนโลยี AMD Infinity Guard ที่ช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรจากภัยคุกคามทางไซเบอร์
ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือชั้นและความคุ้มค่าในการลงทุน AMD EPYC 9005 จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเพื่อรองรับทุกความท้าทายในยุคดิจิทัล
.
🌐 Ultra Internet อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงยุคใหม่พร้อมพลังของ AMD Pensando
.
AMD Pensando ได้พัฒนาเทคโนโลยี Ultra Internet ที่จะปฏิวัติการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยมีจุดเด่นดังนี้
.
- รองรับ 5G และเทคโนโลยีไร้สายยุคใหม่
- ใช้ AI ในการจัดการทราฟฟิกและความปลอดภัย
- ลดความหน่วงและเพิ่มเสถียรภาพในการเชื่อมต่อ
- รองรับการทำงานร่วมกับ Edge Computing
.
โดย AMD ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สองตัวเพื่อรองรับ Ultra Internet คือ
.
- AMD Pensando Salina DPU: เป็น DPU (Data Processing Unit) รุ่นที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถโปรแกรมได้มากที่สุดในโลก มีประสิทธิภาพ แบนด์วิดท์ และความสามารถในการขยายขนาดสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า รองรับ throughput 400G สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง
.
- AMD Pensando Pollara 400: เป็น NIC (Network Interface Card) ตัวแรกของอุตสาหกรรมที่พร้อมสำหรับ Ultra Ethernet Consortium (UEC) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ AMD P4 Programmable รองรับซอฟต์แวร์ RDMA รุ่นถัดไป และได้รับการสนับสนุนจากระบบนิเวศเปิดด้านเครือข่าย
.
ผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการเครือข่าย AI ทั้ง Front-End และ Back-end อีกทั้งช่วยให้ CPU และ GPU สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในโครงสร้างพื้นฐาน AI
.
โดย Ultra Internet ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในยุค AI และ IoT โดยเฉพาะในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม
.
ตัวอย่างการใช้งาน Ultra Internet:
- การสตรีมมิ่งวิดีโอคุณภาพสูงแบบ real-time
- การควบคุมหุ่นยนต์และเครื่องจักรในโรงงานอัจฉริยะ
- การรองรับ AR/VR ในงานด้านการแพทย์ทางไกล
- การเชื่อมต่อยานพาหนะไร้คนขับ
เทคโนโลยี Ultra Internet จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศ AI ของ AMD โดยการมอบโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่รวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการประมวลผล AI แบบกระจายศูนย์
.
AMD Pensando Salina DPU และ Pollara 400 กำลังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบกับลูกค้าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 และมีกำหนดจะพร้อมใช้งานในครึ่งแรกของปี 2025