“ทำอะไรก็ไม่ดี นี่ฉันกำลังเป็นคนไม่มีค่าหรือเปล่า” คุณอาจกำลังถูกปั่นหัวโดยแนวคิด ‘Gaslighting’
“คุณไม่เคยทำอะไรแบบนั้นนะ จำผิดหรือเปล่า ฉันเป็นคนเดียวที่อยู่ข้างคุณนะ ทำไมคุณต้องทำให้เรื่องราวใหญ่โตตลอดเลย คุณทำแบบนั้นเพื่อที่จะทำร้ายฉันใช่ไหม” ในชีวิตประจำวันของคุณเคยพบเจอกับประโยคในลักษณะนี้หรือไม่?
คุณจะคิดทบทวนกับตัวเองว่าเป็นเพราะ ‘ตัวฉันหรอ’ ที่สร้างความเป็นพิษในความสัมพันธ์ ฉันคือคนที่ผิดใช่ไหม ฉันทำร้ายคนอื่นอยู่หรอ ในบางกรณีอาจจะเป็นความผิดของคุณจริงๆ ก็ได้ในการสร้างความเป็นพิษในความสัมพันธ์ให้กับผู้อื่น แต่ในบางกรณีเป็นกรณีส่วนใหญ่เลยด้วยซ้ำมันไม่ใช่เรื่องจริงหรอก กับประโยคเหล่านี้ มันเป็นการปั่นหัวมากกว่า
Gaslighting คือชื่อเรียกที่คนส่วนมากมักจะใช้กัน หากแปลเป็นภาษาไทย คงจะออกแนว ‘การปั่นหัวให้คิดว่าตัวเองผิด’ โดยแนวคิด Gaslighting มีต้นกำเนิดมาจากภาพยนตร์ในปี 1944 เรื่อง ‘Gaslight’ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการบงการทางจิตวิทยา เพื่อล้างสมองคนให้เชื่อว่าพวกเขามีอาการป่วยทางจิต เป็นที่มาของ ‘การปั่นหัวให้คิดว่าตัวเองผิด’ ที่พบเห็นได้จากความสัมพันธ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘คู่รัก’
วันนี้ Future Trends อยากจะนำเสนอรูปแบบของ Gaslighting ที่อาจจะเป็นตัวการที่แท้จริงที่ทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ผิด ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วคุณอาจจะไม่ได้ทำอะไรผิดเลยก็ได้กับ 8 สัญญาณที่บอกได้ว่าไม่ใช่ความผิดของคุณแต่เป็นการปั่นหัวให้รู้สึกผิด
[ 8 สัญญาณที่บอกได้ว่าไม่ใช่ความผิดของคุณแต่เป็นการปั่นหัวให้รู้สึกผิด ]
1.คุณรู้สึกว่าคุณเป็นคนนอกรีตโดยสิ้นเชิง คุณจะมีความรู้สึกว่าฉันไม่เหมาะกับที่ไหนเลย ความรู้สึกนี้จะได้รับการสนับสนุนโดยผู้ที่ปั่นหัวคุณด้วยการเป็นที่พึ่งเดียวของคุณ เป็นคนๆ เดียวที่รู้สึกว่าเข้าได้กับคุณ รู้สึกมีตัวตนเมื่ออยู่กับคนนี้ แหงล่ะก็คุณกำลังโดนปั่นหัวอยู่ไง
2.คุณตั้งคำถามและสงสัยในตัวเอง คุณอาจจะเป็นคนที่มั่นใจมากรู้จักตัวเองดีที่สุด แต่สิ่งเหล่านั้นคือของหวานของเหล่าผู้ปั่นหัว การทำลายความมั่นใจของคุณคือสิ่งที่ถนัด หากคุณเคยเป็นคนที่มั่นใจมากๆ แต่ตอนนี้ไม่มีแม้แต่ความมั่นใจฟันธงได้เลยว่าคุณโดนปั่นหัวแล้ว
3.ความนับถือตนเองของคุณจะลดลงมากตั้งแต่อยู่ในความสัมพันธ์ คุณเคยไหมที่คนนอกจะมาบอกว่าคุณเคยเป็นคนชอบออกไปข้างนอก ชอบเข้าสังคม หรือแม้แต่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในตัวคุณ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้ามาในความสัมพันธ์ ลองสังเกตตัวเองดูว่ากำลังเปลี่ยนไปเพราะตัวคุณเอง หรือใครคนอื่นทำให้คุณเปลี่ยนไป
4.คุณซึมเศร้า แน่นอนถ้าโดนปั่นหัวหนักๆ ก็ต้องซึมเศร้าอยู่แล้ว แต่ประเด็นคือ อาจจะเป็นเพราะร่างกายคุณเอง หรือ คนอื่นทำให้คุณซึมเศร้าก็ได้ ถ้าคุณซึมเศร้าเพราะประโยค เช่น ทำไมคุณต้องทำให้เรื่องราวใหญ่โตตลอดเลย คุณทำแบบนั้นเพื่อที่จะทำร้ายฉันใช่ไหม คุณมีโอกาสที่จะซึมเศร้าเพราะถูกปั่นหัวจากคนรอบตัว
5.รู้สึกผิดแล้ว รู้สึกผิดอยู่ และรู้สึกผิดต่อ ถ้าคุณรู้สึกผิดในเรื่องที่คุณทำผิดอันนั้นเป็นเพราะตัวคุณเอง แต่ถ้าคุณรู้สึกผิดจากสิ่งที่ไม่ได้ทำ และมันดูแปลกประหลาดมาก นั้นมาจากการปั่นหัวที่บิดเบือนความจริง โยนความผิดให้กับคุณ คุณอาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหานั้นเลยก็ได้แต่ผู้ปั่นหัวจะยืนกรานจนกว่าคุณจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตของคุณ
6.การที่คุณปล่อยให้พวกเขาผิดหวังบ่อยๆ หากคุณผิดสัญญาด้วยตัวเองอันนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการถูกปั่นหัว แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำผิดสัญญาคุณทำตามทุกอย่างแต่อีกฝ่ายนั่นแหละที่ทำผิด พวกผู้ปั่นหัวจะโยนความผิดให้คุณ อ้างสารพัดสิ่งและจบด้วยคุณคือคนที่ทำให้พวกเขาผิดหวัง
7.ใช้ประโยชน์จากความกลัวของคุณ คนที่ดีในชีวิตคุณเขาจะไม่ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่คุณกลัวหรอก ดังนั้น คนที่ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่คุณกลัวในการควบคุมคุณเขาคือผู้ปั่นหัวแบบ 100 เปอร์เซ็นต์
8.คุณเริ่มที่จะโดดเดี่ยว จะเริ่มจากการมีความสัมพันธ์กับใครคนหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปคุณเริ่มรู้ตัวว่ามีแค่คนนั้นคนเดียวที่อยู่ข้างตัวคุณ สมบูรณ์แบบแล้วคุณกำลังโดยปั่นหัว แต่ถ้าคุณเริ่มที่จะโดดเดี่ยวเพราะการแยกย้ายไปเติบโตนั่นไม่ใช่การปั่นหัว เป็นเพียงก้าวเล็กๆ ของการเติบโต
ทั้งหมด 8 สัญญาณนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญให้คุณกลับมาทบทวนตัวเองว่าในขณะนี้คุณกำลังทำความผิดด้วยตัวเอง หรือ กำลังถูกทำให้เข้าใจว่าทำผิดกันแน่ ผู้ปั่นหัวมีหลากหลายรูปแบบจงระวังและมั่นใจในตัวเองเข้าไว้ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือการทำลายมัน
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเพศหญิงจะเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำมากกว่าเพศชาย แต่ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่จะเป็นเช่นนั้น โชคร้ายหน่อยที่ ‘Toxic Masculinity’ หรือ ‘ความเป็นชายเป็นพิษ’ มักให้ความสำคัญกับการเป็นผู้บงการ เป็นเหตุที่ในปัจจุบันยังมีกลุ่มคนที่เชื่อว่า Gaslighting การปั่นหัวให้รู้สึกผิดเพื่อที่จะควบคุมได้เป็นเรื่องที่ดีและถูกต้อง
เขียนโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
Source: https://www.youtube.com/watch?v=BuSSuuUkrNI&ab_channel=Psych2Go