7 ปรัชญาการทำงานจาก Shigeru Miyamoto ผู้อยู่เบื้องหลังตัวละคร Mario Bros

Shigeru Miyamoto บุคคลที่อยู่เบื้องเกมดังมากมายอย่าง Super Mario Bros มากว่า 40 ปี และยังไม่มีแผนเกษียณเร็ว ๆ นี้ทั้งๆ ที่อายุปาเข้าไปใกล้จะ 70 แล้ว  เขายังคงทำงานอยู่ในฐานะพนักงานคนหนึ่งของ Nintendo

ในวันที่ The Super Mario Bros. Movie เข้าฉายแล้ววันนี้ เราชวนมากดปุ่ม Press Start เรียนรู้ 7 ปรัชญาชีวิตในการทำงานที่คุณ Miyamoto ยึดถือมาตลอดช่วงหลายปีไปด้วยกัน

ภายในใจของผู้ใหญ่มีหัวใจของเด็ก เราแค่ค่อยๆ บอกตัวเองว่าเราต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

ตอนเด็ก เราไม่ค่อยสนใจความคิดเห็นของผู้อื่นมากนัก ตราบใดที่เรามีช่วงเวลาในการทำอะไรก็ได้ที่เราชอบ เราไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นเพราะมันจะทำให้เราร่ำรวยหรือเพราะมันทำให้เราเป็นที่นิยมมากขึ้น Miyamoto เชื่ออย่างแน่วแน่ว่าการเล่น ความสนุกสนาน และความบันเทิงเป็นส่วนหนึ่งของเราโดยธรรมชาติ ที่ซึ่งเรามักจะลืมไปภายใต้ความกดดันในวัยผู้ใหญ่ การเติบโตไม่ได้หมายความว่าคุณต้องละทิ้งสิ่งที่ทำให้รู้สึกดี มันแค่หมายความว่าคุณต้องจัดชีวิตประจำวันและความรับผิดชอบที่ได้รับเพื่อให้คุณเป็นคนที่คุณควรจะเป็น

การเลียนแบบความสำเร็จของผู้อื่นจะทำให้คุณไม่ประสบความสำเร็จ

กุญแจสู่ความสำเร็จคือการพัฒนาสิ่งใหม่ที่เป็นนวัตกรรม เป็นสิ่งที่คนไม่เคยเห็นหรือแม้แต่จินตนาการมาก่อน Miyamoto รู้ดีว่าไม่ใช่แค่การทำเงินและประสบความสำเร็จเท่านั้น มันเกี่ยวกับการเติมพลังให้กับงานด้วยความหลงใหล และด้วยเหตุนี้ เขาจึงสามารถคิดไอเดียและเทคโนโลยีที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมวิดีโอเกมอย่าง Mario และ The Legend Of Zelda สองซีรีย์ของเกมที่ทรงอิทธิพลที่สุดตลอดกาลออกมาได้

มองให้เห็นสิ่งที่ต่างไปจากมุมมองของคนอื่น

ช่วงกลางทศวรรษที่ 2000 Nintendo วุ่นอยู่กับการพัฒนาเครื่องเกมที่สามารถแข่งขันกับ PlayStation 3 ของ Sony และ Xbox 360 ของ Microsoft ตอนนั้นเองที่ Miyamoto  ได้เสนอกลยุทธ์เพื่อเอาชนะคู่แข่ง ไม่ใช้เครื่องของกราฟฟิกที่เหนือกว่า แต่เสนอให้มุ่งเน้นไปที่การขยายกลุ่มเป้าหมาย โดยเปลี่ยนวิธีการเล่นเกมใหม่ ลองเอา Motion control มาใช้ ผลที่ได้คือการกำเนิดขึ้นของ Nintendo Wii เป็นเครื่องเล่นเกมที่เข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย กลายเป็นเครื่องเกมที่ได้รับความนิยม และขายดีกว่าคู่แข่งในเวลานั้น

ยินดีกับความสำเร็จของเพื่อนร่วมงาน

เรามักให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของส่วนตัวมากเกินไป จนลืมไปว่าเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ดังนั้น ในความเป็นทีม ชัยชนะของหนึ่งคน คือชัยชนะของทั้งหมด Miyamoto ได้ร่วมงานกับผู้คนมากมายที่กลายเป็นคนมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมวิดีโอเกม ตัวอย่างคือ Takashi Tezuka ที่เข้าร่วม Nintendo ในปี 1984 และเริ่มทำงานโดยตรงภายใต้การดูแลของ Miyamoto พวกเขาร่วมมือกันพัฒนาวิดีโอเกมหลายเกม โดยในที่สุดเทะสึกะก็ได้รับหน้าที่กำกับให้กับเกม Super Mario Bros และ The Legend Of Zelda สองแฟรนไชส์นี้สร้างโดยคุณ Miyamoto

“มันคงเป็นเรื่องน่ายินดีถ้าคนที่ร่วมงานกัน ได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ผมชอบเห็นผู้คนประสบความสำเร็จ มันทำให้ผมมีความคิดที่ว่าผมก็สามารถทำได้ถ้ามีใจที่จะมุ่งมั่นเพื่อเป้าหมาย” Miyamoto กล่าว

อย่าเร่งทำงานแค่ให้เสร็จทันเวลา ช้าๆ แต่สำเร็จอย่างงดงาม ดีกว่าเร่งรีบแต่ผลงานออกมาไม่ดี

เรามักพบในหลายๆ ครั้งว่าตัวเองเร่งรีบทำงานให้เสร็จเพียงเพื่อให้คนอื่นประทับใจในผลงาน โดยมักลืมนึกถึงคุณภาพโดยรวมของสินค้า ย้อนกลับไปในช่วงกลางทศวรรษที่ 90 Miyamoto เลื่อนการเปิดตัว Nintendo 64 เพื่อให้ทีมของเขาเล่นเกมให้จบหนึ่งเกม และให้คุณภาพออกมาตรงตามมาตรฐานที่เข้มงวดของ Nintendo เขาไม่สนใจเกี่ยวกับการกำหนดเส้นตาย สิ่งที่สำคัญสำหรับเขาคือการบรรลุความคาดหวังของผู้เล่น

“เกมที่ล่าช้านั้นจะดีในที่สุด แต่เกมที่เร่งรีบนั้นแย่ตลอดไป” Miyamoto กล่าว

พร้อมรับความท้าทายและสนุกกับมันจริงๆ

นี่คือสิ่งที่ Miyamoto ทำตลอดหลายปีที่ผ่านมา ปรัชญาของ Nintendo นั้นไม่เคยง่าย มีความท้าทายรออยู่ข้างหน้าเสมอ ในการพัฒนา Super Mario Bros. 3 เขาและทีมงานเพียงสิบคน ใช้เวลาสองปีเต็มในการสร้างด้วยงบประมาณที่สูงถึง 800,000 ดอลลาร์ในขณะนั้นในการปรับปรุงแทบทุกด้านของเกม Super Mario Bros พิสูจน์ให้โลกได้เห็นถึงผลงานนี้ และกลายเป็นหนึ่งในวิดีโอเกมที่มีคะแนนสูงสุดตลอดกาล

เน้นที่ผลลัพธ์สุดท้ายของความพยายาม มากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวที่จะได้รับจากสิ่งนั้น

แม้ Miyamoto จะมีประสบการณ์และความรู้ด้านเทคนิคมายาวนานในการก่อตั้งบริษัทวิดีโอเกม แต่เขาก็พอใจที่จะอยู่ที่ Nintendo ในฐานะพนักงาน Miyamoto ไม่สนใจสถานะของเขา แต่สนใจว่าเขาสามารถนำอะไรมาสู่บริษัทที่เขาอยู่ได้ แม้ว่าการเป็นคนทะเยอทะยานจะไม่มีอะไรผิดปกติ แต่งานที่ทำได้ดีมักจะนำมาซึ่งชื่อเสียงและรายได้สูงสุด ปัจจุบัน Miyamoto ยังคงทำงานของเขาในฐานะพนักงาน ไม่ใช่ในฐานะคนดังที่เกมเมอร์ทั่วโลกมอบให้

เขียนโดย Pakanut Tariyawong

Source: http://bit.ly/3MdA2rD