5G จะเข้ามาปลดล็อกธุรกิจได้อย่างไร? ชวนดูโซลูชันจาก ทรูบิสิเนส ตอบโจทย์การทรานสฟอร์มไปสู่ธุรกิจในยุคดิจิทัล

ถ้าพูดถึง ‘5G’ หลายคนคงนึกถึงเรื่องความเร็ว แรง ความเสถียรในการรับส่งข้อมูล รวมถึงอุปกรณ์ที่รองรับมากกว่า 4G

และมากกว่านั้น วันนี้ 5G ได้ถูกนำไปผนวกเข้ากับเทคโนโลยีที่หลากหลาย เช่น IoT (Internet of Things), AI (Artificial Intelligence), Cloud, Robotics, Blockchain และ Analytics เป็นต้น  เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจ ทั้งเสริมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เพิ่มผลิตผล และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย  สำหรับในโลกธุรกิจที่ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน บวกกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป 5G จึงเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ  

ธุรกิจวันนี้ ต้องทรานสฟอร์มไปสู่ดิจิทัล และ 5G คือกุญแจสำคัญ

ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ธุรกิจจำเป็นต้องพร้อมรับมือ และความเร็วระดับ 5G จะช่วยให้ธุรกิจปรับตัวและเติบโตได้ ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผล และระบบอัตโนมัติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนต้องอาศัยความสามารถของ 5G

เล่าแบบนี้อาจจะยังเห็นภาพไม่ชัด วันนี้ Future Trends จึงอยากพาไปดูการนำเอาเทคโนโลยี 5G ไปใช้จริงกับธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ ผ่านตัวอย่างของทรูบิสิเนส

ก่อนที่จะพาไปดูตัวอย่างการนำ 5G ไปใช้ เราอยากชวนดูเบื้องหลังโซลูชันต่างๆ ของทรูบิสิเนสที่เขาใช้ในการออกแบบโซลูชันให้กับธุรกิจ ผ่านยุทธศาสตร์ Professional Digital Solutions  ซึ่งมีทั้งหมด 4 ด้าน ดังนี้

1. Perfect Solutions ตอบโจทย์ทั้ง SME และธุรกิจขนาดใหญ่ ในทุกอุตสาหกรรม ด้วยโซลูชันที่หลากหลายกว่า 100 โซลูชัน ครอบคลุม 9 กลุ่มบริการสื่อสารและดิจิทัล 
2. Premium Partners ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ทั้งด้านซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ดีที่สุดสำหรับทุกธุรกิจ
3. Professional Digital Consultants บริการให้คำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรม พร้อมให้คำแนะนำและออกแบบโซลูชันให้กับธุรกิจแบบเฉพาะราย
4. Pleasant Experience   ดูแลเป็นอย่างดีด้วยบริการหลังการขายที่พร้อมช่วยเหลือธุรกิจตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทรูบิสิเนสไอเซอร์วิส (TrueBusiness iService) หรือศูนย์บริการลูกค้าองค์กร 

ทั้ง 4 ข้อนี้ บวกกับจุดแข็งของทรู 5G เครือข่ายอัจฉริยะที่เร็ว ครบ แรงล้ำครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย และระบบนิเวศดิจิทัลครบวงจรของกลุ่มทรู ทำให้สามารถสร้าง 5G โซลูชันที่เหมาะกับทุกธุรกิจ และต่อไปเราจะพาไปดู 3 ตัวอย่าง จาก 3 กลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นว่า 5G จะเข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างไร ผ่านโซลูชันของทรูบิสิเนสกัน

ข้อมูลโซลูชันสำหรับธุรกิจเพิ่มเติม ได้ที่ https://bit.ly/TBSolutionsPR

ตอบโจทย์ ‘สาธารณสุข’ ให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการแพทย์และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วย

‘สาธารณสุข’ เป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่โซลูชันของทรูบิสิเนสเข้ามาตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาทางไกล การช่วยวางแผนการรักษา รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วยของบุคลากรทางการแพทย์ นี่คือประโยชน์จาก 5G ที่จะช่วยยกระดับการรักษาสุขภาพของคนไทย ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์  

ช่วยให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้จากระยะไกล

ด้วย ‘True 5G Smart Tele Ultrasound’ หรือระบบอัลตราซาวด์ทางไกลอัจฉริยะ ช่วยในการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นให้แก่ผู้ป่วยที่ไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล เช่น อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือขณะอยู่ในรถพยาบาล โดยระบบมีการเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านวิดีโอคอล เพื่อปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้เห็นการรักษาได้แบบเรียลไทม์ในขณะที่ทำการอัลตราซาวด์ พร้อมส่งข้อมูลผลการตรวจเพื่อทำการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง

ช่วยวางแผนการรักษาได้รวดเร็วและแม่นยำ

‘True 5G MedTech Ambulance’ รถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมเครื่องมือแพทย์อัจฉริยะ เป็นการผสมผสานระหว่าง 5G และเทคโนโลยีขั้นสูงทำให้การสื่อสารทางการแพทย์ราบรื่นมากขึ้น โดยมีอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อช่วยชีวิตในรถพยาบาล แพทย์สามารถสื่อสารให้คำแนะนำการรักษาเบื้องต้นกับผู้ช่วยชีวิตในรถพยาบาลระหว่างพาผู้ป่วยมายังโรงพยาบาล  และยังเตรียมพร้อมอุปกรณ์สำหรับการรักษาได้ก่อนที่ผู้ป่วยจะมาถึงโรงพยาบาล

อีกทั้งรถพยาบาลอัจฉริยะคันนี้ ยังลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุโดยระบบจะมีการแจ้งเตือนเป็นระยะๆ  ช่วยให้การพาผู้ป่วยมายังโรงพยาบาลเป็นไปอย่างรวดเร็วและปลอดภัย

นอกจากนี้ ในแง่ของการช่วยวางแผนการรักษา ยังมีอีกโซลูชัน คือ ‘True 5G Smart Telemed’ แว่นตาฉายภาพทางไกลอัจฉริยะ  แว่นตาจะถ่ายทอดเหตุการณ์ขณะผู้ป่วยอยู่บนรถพยาบาลไปยังแพทย์ปลายทางแบบเรียลไทม์ พร้อมส่งผลการตรวจขึ้น Healthcare Cloud  ทำให้แพทย์สามารถนำข้อมูลมาใช้วินิจฉัยอาการ และเตรียมพร้อมการรักษาไว้ล่วงหน้าก่อนที่ผู้ป่วยจะมาถึงโรงพยาบาล

ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วย

การนำเอา 5G มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วยและช่วยให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยโซลูชัน  ‘True 5G Unmanned Vehicle’ หรือยานยนต์อัจฉริยะไร้คนขับ เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลบนคลาวด์ ช่วยส่งยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ สะดวก รวดเร็วและประหยัดเวลาในการขนส่ง

นอกจากนี้ ยังมีหุ่นยนต์มาให้บริการเพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสและลดการติดเชื้อ อาทิ True 5G DeliveryBot หุ่นยนต์เพื่อการขนส่งอัจฉริยะ ให้บริการขนส่งอาหาร ยา และเอกสารทางการแพทย์ต่างๆ ใช้งานสะดวก สั่งการได้ด้วยเสียง และจดจำใบหน้าของผู้ใช้งานได้  สามารถกำหนดเส้นทางการขนส่ง และขึ้นลิฟต์ได้ด้วยตัวเอง  มีความคล่องตัว ช่วยแบ่งเบางานทำงานของบุคลากรและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการผู้ป่วยได้อีกด้วย

True 5G X Pinto Robot ปิ่นโต หุ่นยนต์ขนส่งและสื่อสารอัจฉริยะ สามารถขนส่งอาหาร ยา และเวชภัณฑ์ โดยมีระบบสื่อสารทางไกล ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์พูดคุยกับผู้ป่วยผ่านวิดีโอคอล ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ใช้งานง่าย และมีความแม่นยำสูง  

True 5G HygenicBot หุ่นยนต์แม่บ้านอัจฉริยะ เปรียบเสมือนแม่บ้านดูแลทำความสะอาด เช่น กวาดพื้น ดูดฝุ่น ล้างทำความสะอาด ถูพื้นด้วยแอลกอฮอล์และพ่นฆ่าเชื้อได้ สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ขึ้นลงลิฟต์ได้เอง พร้อมส่งเสียงเตือนเมื่อมีควันไฟ  และส่งข้อมูลไปยังศูนย์ปฏิบัติการได้ ทั้งยังมีระบบชาร์จไฟด้วยตัวเอง

ช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างพักรักษาในโรงพยาบาล

อีกหนึ่งโซลูชันที่น่าสนใจคือ ‘True 5G Vcare Scan Tech’ ระบบการสื่อสารและบริการอัจฉริยะ แพลตฟอร์มให้บริการที่มาพร้อมกับแท็บเล็ต ช่วยให้ผู้ป่วยวิดีโอคอลกับบุคลากรทางการแพทย์จากห้องพักฟื้น  แจ้งขอแม่บ้านทำความสะอาด สั่งอาหารมายังห้องพัก  ทั้งยังสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์และบริการต่างๆ สร้างประสบการณ์ที่ดีในการเข้าพักรักษาและสร้างความแตกต่างในการให้บริการของโรงพยาบาล  

เช่นเดียวกันกับ ‘True 5G Smart QR’  คิวอาร์โค้ดเพื่อการบริการอัจฉริยะ ผู้ป่วยสามารถใช้มือถือสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มและใช้บริการผ่านทางเว็บ  ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไว้บนมือถือ ช่วยให้เข้าถึงบริการต่างๆ ของโรงพยาบาลได้สะดวกและรวดเร็วภายในห้องพักฟื้น ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของโรงพยาบาลอีกด้วย

ตัวอย่าง Use Case ด้านสาธารณสุข  https://youtu.be/C_ahg3jrwwk

ตอบโจทย์ ‘อุตสาหกรรม’ ด้วยการพลิกโฉมโรงงานอุตสาหกรรมแบบเดิมๆ สู่โรงงานอัจฉริยะ

ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม  เทคโนโลยี 5G สามารถช่วยในการจัดการทรัพยากร รวมถึงเครื่องจักรต่างๆ และต่อไปนี้ คืออัจฉริยภาพของ 5G ที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในโรงงานอุตสาหกรรมยุคใหม่

ควบคุม ดูแลอุปกรณ์และเครื่องจักรให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 

จัดการเครื่องจักรในโรงงานผ่านคอมพิวเตอร์และมือถือด้วย ‘True 5G Automate Machine Tech’ ระบบควบคุมเครื่องจักรอัจฉริยะ โดยใช้ IoT แพลตฟอร์มช่วยบริหารจัดการและประเมินประสิทธิภาพการทำงานแบบองค์รวมแม่นยำ 100% สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับเครื่องจักร อุปกรณ์และระบบต่างๆ พร้อมตรวจสอบ ควบคุม และวิเคราะห์ข้อมูล ดูแลได้ตั้งแต่ระบบจัดการทรัพยากรภายในโรงงาน เช่น ไฟฟ้า น้ำ อุณหภูมิ น้ำเสีย เครื่องจักรกลและหุ่นยนต์ในสายการผลิต พร้อมแสดงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์

พร้อมกับมี ระบบติดตามเครื่องจักรกลอัจฉริยะ ‘True 5G Smart  Machine Tracking’ อีกหนึ่งโซลูชันที่ช่วยในการจัดการและติดตามทรัพย์สินแบบครบวงจร เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยให้โรงงานควบคุมค่าใช้จ่าย ค่าซ่อมบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

เทคโนโลยีเสมือนจริง (AR และ VR) ยกระดับการฝึกอบรม เพิ่มทักษะของพนักงานให้ก้าวล้ำ

ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง ‘True 5G Smart AR Maintenance Kit’ คู่มือการซ่อมบำรุงเสมือนจริงอัจฉริยะ ช่วยให้การซ่อมบำรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆในโรงงาน เป็นเรื่องง่ายมากขึ้น ด้วยการออกแบบคู่มือโดยใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน เพียงใช้มือถือหรือแท็บเล็ตส่องไปที่คู่มือหรือบริเวณที่กำหนด ก็สามารถเรียนรู้ข้อมูลเสมือนกราฟฟิกมีชีวิต เห็นภาพที่ชัดเจน ด้วยความเร็วแรงของเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ทำให้การใช้งานลื่นไหล ไม่สะดุด  ไม่ว่าจะดูข้อมูลเครื่องจักร วิธีการดูแลสายการผลิต การซ่อมบำรุง หรือการแก้ไขปัญหาต่างๆ ก็ทำได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้พนักงานเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และลดต้นทุนในการฝึกอบรมไปได้มากทีเดียว

อีกทั้งยังมีโซลูชันที่ช่วยยกระดับการฝึกอบรม  ‘True 5G Smart VR Blaze Training’ ซึ่งเป็นระบบฝึกอบรมการดับเพลิงเสมือนจริงอัจฉริยะ  โดยการสร้างสภาพแวดล้อมจำลองสถานการณ์เสมือนจริง (VR Solution) ทั้งภาพและเสียง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้สึกเสมือนอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงผ่านการใส่แว่น VR  เช่น การฝึกอบรมพนักงานดับเพลิง การอบรมช่างเทคนิคเฉพาะทาง เหมาะสำหรับใช้เพิ่มความสามารถและความเชี่ยวชาญในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เครื่องมือ และเครื่องจักร ที่สำคัญ สามารถฝึกได้โดยไม่ต้องเสี่ยงอันตรายในสถานการณ์จริง และยังช่วยประหยัดต้นทุนด้านสถานที่ อุปกรณ์ ทีมงาน รวมถึงเวลาในการฝึกอบรมอีกด้วย

ตอบโจทย์ ‘เกษตรกรรม’ ด้วยระบบอัตโนมัติ ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตได้มากกว่า

สำหรับภาคเกษตรกรรม การควบคุมปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ อุณหภูมิ และการติดตามปศุสัตว์เป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อผลผลิต ดังนั้น การนำ 5G และเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้เกษตรจะต้องสามารถตอบโจทย์นี้ได้ อย่างโซลูชันดังต่อไปนี้

ช่วยวิเคราะห์และวางแผนการเกษตรได้อย่างแม่นยำ

ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกับ ‘True 5G Smart Agri-Drone’ โดรนเพื่อการเกษตรอัจฉริยะ  โดยใช้โดรนบินสำรวจพื้นที่  ถ่ายภาพและเก็บข้อมูล เพื่อนำมาคาดการณ์และวางแผนจัดการแปลงพืช พร้อมสามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับระบบแผนที่เพื่อกำหนดพิกัดแปลงพืช และให้โดรนบินเข้าไปทำงานอัตโนมัติ ดูการปลูกพืชในขอบเขตที่กำหนด ช่วยวิเคราะห์ความชุ่มชื้นของดิน  ประเมินความสมบูรณ์ของพืช และตรวจสอบศัตรูพืช ช่วยประหยัดเวลาในการดูแลพื้นที่การเกษตร ลดต้นทุน เพิ่มโอกาสได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณมากยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งโซลูชันที่จะช่วยให้เกษตรกรวางแผนเพาะปลูกได้แม่นยำ และเพิ่มผลผลิต คือ ‘True 5G x Netafim Net Beat’ ระบบจัดการน้ำอัจฉริยะ  โดยติดอุปกรณ์เซ็นเซอร์ภายในพื้นที่เพาะปลูก  ให้ช่วยติดตามข้อมูลสภาพอากาศ ความชื้น ปริมาณน้ำฝน ความเข้มของแสง อุณหภูมิ ความเร็วทิศทางลม และคุณภาพของดิน โดยเกษตรกรสามารถดูข้อมูลเหล่านี้ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถวางแผนการใช้น้ำ ใส่ปุ๋ย และปรับปรุงดินให้เหมาะสมได้ 

ดูแลปศุสัตว์แบบครบวงจร ด้วยระบบอัจฉริยะ 

สำหรับการทำปศุสัตว์ก็มีโซลูชันที่น่าสนใจอย่าง ‘True Digital Cow’ ระบบจัดการปศุสัตว์อัจฉริยะ ด้วยการติด Tag ที่มีชิปฝังไว้ที่หูของวัวนม  เพื่อตรวจจับพฤติกรรมและความผิดปกติต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์  ช่วยให้เจ้าของฟาร์มสามารถดูแลวัวนมได้อย่างทั่วถึง สามารถบอกช่วงเวลาสำหรับผสมพันธุ์ได้อย่างแม่นยำ  มีการแจ้งเตือนเมื่อวัวมีอาการป่วย ช่วยลดความเสียหายจากผลผลิตที่ลดลง เป็นต้น อีกทั้งยังประหยัดต้นทุนและเวลา เนื่องจากเกษตรกรไม่ต้องอยู่หน้าฟาร์มด้วยตัวเองตลอดเวลา

เช่นเดียวกับระบบคุณภาพน้ำที่เกษตรกรสามารถตรวจเช็คได้ทันทีด้วย ‘True 5G x True Digital Shrimp Master’ ระบบจัดการคุณภาพน้ำเพื่อการปศุสัตว์อัจฉริยะ  โดยติดตั้งเซ็นเซอร์อัตโนมัติไว้ที่บ่อเลี้ยงกุ้ง เพื่อช่วยตรวจสอบคุณภาพน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการวัดออกซิเจน วัดค่าความเป็นกรด-ด่าง และอุณหภูมิ พร้อมทั้งแจ้งเตือนผ่านทางแอปพลิเคชันบนมือถือ เมื่อมีเหตุการณ์ต้องเฝ้าระวัง  และสรุปผลหลังจบรอบการเลี้ยง เพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหาและปรับปรุงการเลี้ยงในรอบถัดไปได้  เพิ่มประสิทธิภาพในการเลี้ยง ช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิต เพิ่มกำไร โดยที่ใช้ต้นทุนลดลงอีกด้วย

จากตัวอย่างโซลูชันของทรูบิสิเนสที่เล่ามาทั้งหมด เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะเห็นภาพของการนำ 5G มาใช้ประโยชน์ในธุรกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่า 5G มีความสำคัญมากกับการยกระดับธุรกิจไทยให้สามารถเติบโตได้ทันโลกได้

และไม่ว่าธุรกิจของคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมไหน 5G โซลูชันจากทรูบิสิเนส สามารถทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตและพร้อมที่จะแข่งขันได้ในโลกดิจิทัลอย่างแน่นอน