LOADING

Type to search

แต่งตัวอย่างไรให้ดูดีรับปีใหม่ 10 เทรนด์แฟชั่นเครื่องแต่งกายมาแรงปี 2023

แต่งตัวอย่างไรให้ดูดีรับปีใหม่ 10 เทรนด์แฟชั่นเครื่องแต่งกายมาแรงปี 2023
Share

ปีใหม่หลายคนอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ เช่นเดียวกับวงการแฟชั่นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ซึ่งเปลี่ยนเทรนด์ใหม่ๆ แทบทุกปี

ปี 2023 เทรนด์แฟชั่นเกาหลี จะไม่ได้รับความนิยมแค่ในเอเชีย แต่จะดังไปไกลระดับโลก เช่นเดียวกับแฟชั่น ‘โอเวอร์ไซส์’ ที่ยังคงอยู่ ส่วนเสื้อผ้าโชว์แบรนด์โลโก้ใหญ่ๆ จะตกกระแส โดยแบรนด์ไฮเอนด์ จะเน้นออกแบบเสื้อผ้าให้เรียบง่ายและใส่ได้นานยิ่งขึ้น

Future Trends สรุป 10 เทรนด์แฟชั่นมาแรงปี 2023 จากนิตยสาร The Monocle Forecast มาให้ทราบ ดังนี้

1. แฟชั่นเกาหลีดังไกลระดับโลก

หลังประสบความสำเร็จในการส่งออกวัฒนธรรมอาหาร ดนตรี เทคโนโลยี และศัลยกรรมความงาม จนถูกขนานนามว่า ‘ฮันรยู’ (Korean wave หรือกระแสเกาหลี) เกาหลีใต้ถึงเวลาส่งออก ‘ซอฟต์ เพาเวอร์’ ใหม่ คือ แฟชั่นเสื้อผ้า

การส่งออกแฟชั่นเกาหลีถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากยอดขายที่สวยหรูในประเทศ โดยอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายคิดเป็นตัวเลขเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

ด้วยจุดเด่นด้านการผลิตที่ล้ำสมัย และแรงหนุนจากกระแส ‘ฮันรยู’ ทำให้ปี 2023 หากเดินตามย่านชอปปิ้งชื่อดังทั้งในฮ่องกง และลอนดอน คาดว่า นักชอปจะผ่านตาร้านแบรนด์เสื้อผ้าเกาหลีมากขึ้น และใครอยากซื้อหามาสวมใส่ก็ไม่ต้องบินไปไกลถึงโซล

2. ซ่อนโลโก้ ไม่โชว์แบรนด์หรา

ยุคของเสื้อผ้าปักโลโก้แบรนด์ตัวใหญ่ๆ ให้เห็นได้ชัดแต่ไกลกำลังตกยุค ห้องเสื้อแบรนด์ดังตั้งแต่ในปารีส ถึงโตเกียว ล้วนหันมาออกแบบเสื้อผ้าซ่อนโลโก้ เพื่อความเรียบง่ายและใส่ได้นานมากขึ้น

“เราเห็นความเปลี่ยนแปลงโดยรวมของแบรนด์ที่หันมาซ่อนโลโก้กันมากขึ้น” ทิฟฟานี ชู (Tiffany Hsu) รองประธานฝ่ายจัดซื้อของ Mytheresa เว็บไซต์ขายเสื้อผ้าหรูออนไลน์ กล่าว “นี่คือการทำให้เสื้อผ้าไร้กาลเวลามากขึ้น”

3. ออกสำรวจย่านชอปปิ้งใหม่

โตเกียว ปารีส มิลาน และลอนดอน อาจเป็นจุดหมายหลักของนักชอปทั่วโลก แต่ปี 2023 การออกสำรวจและค้นหาแหล่งชอปปิ้งใหม่ๆ จะกลายเป็นเทรนด์ของสายแฟชั่น

หนึ่งในย่านชอปปิ้งใหม่ที่กำลังมาแรง คือ ถนน Mateus Grou ในนครเซาเปาโล ของบราซิล ซึ่งนอกจากจะเต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าท้องถิ่น ยังเต็มไปด้วยงานศิลปะ เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านแปลกใหม่ด้วย

4. เสื้อผ้ามาพร้อมมาตรฐานสิ่งแวดล้อม

กระแส ‘ฟาสต์ แฟชั่น’ ที่เน้นราคาถูก มาเร็วไปเร็ว อาจถึงคราวตกยุค เมื่อแบรนด์ดังหันมาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมกำหนดมาตรฐานให้ตนเองเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

‘อาดิดาส’ เสื้อผ้ากีฬาชื่อดัง กำลังเลิกใช้เม็ดพลาสติกใหม่ๆ และจับมือกับ Parley for the Ocean องค์กรสิ่งแวดล้อม นำขยะในท้องทะเลกลับมารีไซเคิล ส่วน Asket แบรนด์แฟชั่นสวีเดน จะเริ่มติดป้ายบอกค่าใช้จ่ายในการผลิตและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ตัวเลขการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ผู้บริโภคทราบ

5. รองเท้าหนังกลับมานิยมมากกว่ารองเท้ากีฬา

รองเท้าหนังแบบสวมไม่ผูกเชือกสไตล์ ‘โลฟเฟอร์’ (Loafer) กำลังมาแรงแซงหน้ารองเท้ากีฬา โดยในปี 2022 รองเท้ากีฬามียอดขายลดลง 11 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรองเท้าหนังยอดขายเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์

นักวิเคราะห์มองว่า ปี 2023 ยอดขายรองเท้าหนังน่าจะแซงรองเท้ากีฬาเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี โดยรองเท้าหนังแบบโลฟเฟอร์จะกลายเป็นเทรนด์มาแรงที่ใส่ได้ทั้งไปออฟฟิศ หรือพักผ่อนในวันหยุด

6. ชุดสูทกลับมาได้รับความนิยม

การกลับมาทำงานเข้าออฟฟิศเต็มตัวหลังยุคโควิด – 19 ทำให้การเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ และการประชุมแบบพบหน้ากลับมาตามเดิม ดังนั้น ความต้องการแต่งกายด้วยชุดสูทแบบเป็นทางการจะกลับมาด้วยเช่นกัน

ผู้ผลิตเครื่องแต่งกายชายแบรนด์ดังอย่าง Valstar ไปจนถึง Herno และ Dunhill ล้วนพัฒนาสูทรุ่นใหม่ที่ใช้วัสดุสังเคราะห์ผสมกับวัตถุดิบจากธรรมชาติ เพื่อให้ยับยาก และสามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกล

7. แบรนด์รุ่นเก๋าปฏิวัติตัวเอง

Ferragamo แบรนด์เก่าแก่ของอิตาลี จะกลายเป็นชื่อที่ได้ยินบ่อยขึ้นในปี 2023 เนื่องจากได้ ‘มักซิมิเลียน เดวิส’ (Maximilian Davis) ดีไซเนอร์คนรุ่นใหม่ชาวอังกฤษ เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟ และมีแผนปัดฝุ่นภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่หมดทั้งโลโก้ การออกแบบร้าน ตลอดจนดีไซน์เสื้อผ้าคอลเลกชั่นใหม่ที่จะเปิดตัวตั้งแต่ต้นปี

8. ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ได้รับการสนับสนุน

คนรุ่นใหม่จะเข้าสู่วงการแฟชั่น และช่วยปรับภาพลักษณ์วงการให้มีชีวิตชีวามากขึ้น หนึ่งในแบรนด์มาแรงของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ คือ Sunflower จากเดนมาร์ก ซึ่งก่อตั้งโดย ‘อุลริก เพเดอร์เซน’ (Ulrik Pedersen)

จุดเด่นของ Sunflower คือ แบรนด์ที่เน้นความ ‘มินิมอล’ ใช้วัสดุคุณภาพสูงผสมผสานกับงานออกแบบอย่างมีศิลปะสวยงาม ช่วยทำให้วงการแฟชั่นมีความน่าสนใจมากขึ้น

9. ร้านตัดเสื้อแบบจองคิว

ความต้องการเสื้อผ้าแบบตัดเย็บเฉพาะตัวที่ทนทานและใช้งานได้นานขึ้นกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ร้านส่วนใหญ่นอกจากจะเปิดขายปลีกออนไลน์ และมีหน้าร้าน ยังให้บริการตัดเย็บตามความต้องการของแต่ละบุคคล นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ร้านตัดเสื้อยุคใหม่ ต้องเปิดรับจองคิวลูกค้าล่วงหน้า เพื่อเข้ามารับบริการตัดเย็บเสื้อผ้า หรือขอคำปรึกษาส่วนตัว

10. ยีนส์ ‘โอเวอร์ไซส์’ ยังไม่ตกยุค

แม้กระแสเสื้อผ้าตัวใหญ่จะได้รับความนิยมมาพักใหญ่แล้ว แต่ปี 2023 กระแสนี้ก็ยังไม่หายไปไหน โดยเฉพาะกางเกงยีนส์ ‘โอเวอร์ไซส์’ จะวางขายตามร้านหรูหลากหลายแบรนด์มากขึ้น

เทรนด์กางเกงยีนส์ทรงหลวมๆ ได้แรงบันดาลใจมาจากนางแบบและนายแบบบนรันเวย์ทั่วโลก ตั้งแต่แบรนด์ Loewe จนถึง Bottega Veneta และ Acne Studios ของสวีเดน ใครมีเสื้อผ้าตัวใหญ่เก็บไว้ในตู้ ยังคงเอาออกมาใส่ได้ไม่ตกเทรนด์

Source: The Monocle Forecast 2023