LOADING

Type to search

รีวิวหนังสือ ‘เพราะฉันอาจไม่มีวันหายดีฯ’ เรื่องของผู้ป่วยซึมเศร้า จิตวิทยา ทาสแมว และเคยฆ่าตัวตาย!

รีวิวหนังสือ ‘เพราะฉันอาจไม่มีวันหายดีฯ’ เรื่องของผู้ป่วยซึมเศร้า จิตวิทยา ทาสแมว และเคยฆ่าตัวตาย!
Share

“หนังสือเล่มนี้ แนะนำสำหรับคนที่คิดว่า ‘ชาตินี้ตัวเองคงไม่มีวันหายดี’”

อย่าเพิ่งตกใจกับคำนิยมเปิดหนังสือ ‘อย่าบอกให้ฉันสู้อีกได้ไหม เพราะฉันอาจไม่มีวันหายดี’ ที่อาจทำให้รู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้ดูน่ากลัวหรือสร้างความกังวลต่อผู้ที่เป็น ผู้ที่คิดว่าเสี่ยงจะเป็น และผู้ที่มีคนใกล้ชิดที่เป็นโรคซึมเศร้า หรือเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมว่าเมื่อเป็นโรคนี้แล้วจะไม่มีวันหายดี

ตรงกันข้าม หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าได้ตรงไปตรงมาอย่างเข้าใจ และได้ชี้ให้เห็นว่า โรคซึมเศร้าสามารถ ‘หายได้’ อย่างเป็นปก และแม้ว่าจะยังไม่หายก็มีหนทางดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขได้เช่นกัน

เรื่องราวของผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าที่ต้องการเข้าใจตนเองและโรคที่เป็น

เรื่องราวบอกเล่าผ่านชีวิตของ ‘จางหมิ่นจู้’ ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านานกว่า 7 ปี จนหายเป็น ‘คนปกติ’ ในสายตาของสังคม เรียนสาขาจิตวิทยาเพื่อทำความเข้าใจโรคซึมเศร้าของตัวเอง มีแมวคอยเยียวยาจิตใจ ซึ่งได้เขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อต้องการช่วย ‘เพื่อนร่วมโรค’ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคนี้แก่คนทั่วไป

อย่างที่บอกไป การพยายามฆ่าตัวตายของเธอ ‘ไม่ประสบผลสำเร็จ’ ทำให้เธอยังอยู่จะสามารถหายจากโรคได้ เธอได้เล่าถึงอย่างตรงไปตรงมา เปิดเผยให้เห็นว่าเธอผ่านจุดนั้น มาสู่จุดที่ดีกว่าได้อย่างไร และเธอก็หวังให้ผู้ป่วยทุกคนสามารถข้ามผ่านมาได้เช่นเดียวกัน

จางหมิ่นจู้ ได้เล่าเรื่องราวชีวิตตั้งแต่มัธยมปลายที่เริ่มป่วยเป็นโรคซึมเศร้า กระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย กระทั่งเปลี่ยนสาขาวิชาเป็นจิตวิทยา ระหว่างทางผู้อ่านจะได้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการกลั่นแกล้งในห้องเรียน ความไม่เข้าใจของครอบครัว สิ่งที่เธอสนใจ ไปกระทั่งกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัย

เรื่องราวผ่านทั้งความสุขและทุกข์ เป็นการตอกย้ำว่า แม้จะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและความสุขได้ ผ่านการทำความเข้าใจโรคและตนเอง

ตลอดทั้งเรื่องจะมีความรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาที่เป็นประโยชน์แทรกเป็นระยะ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น การยอมรับตัวเองและเข้าใจข้อจำกัดของผู้อื่น ทฤษฎีแรงสนับสนุนทางสังคม และหลักการรักษามิตรภาพ เป็นต้น

เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่กำลังเผชิญกับภาวะซึมเศร้า กำลังป่วยหรือเคยป่วย เพื่อให้เข้าใจตัวเองโดยมองจากมุมจิตวิทยา พร้อมคำแนะนำเล็กน้อยที่สามารถแก้ไขบางปัญหาที่เกิดขึ้นได้ รวมถึง คนใกล้ชิดผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ ก็สามารถทำความเข้าใจผ่านเรื่องราวของผู้เขียนที่เป็นกรณีตัวอย่างของ ผู้ป่วยและผู้เคยป่วย อีกแง่หนึ่งคือ เป็นเกราะป้องกันเพื่อให้คุณได้มีภูมิต้านทางที่จะเป็นโรคดังกล่าว

เนื้อหาอ่านง่าย ไม่น่าเบื่อ และมีสรุปสาระสำคัญเป็นข้อสั้นๆ ท้ายแต่ละบทเพื่อช่วยให้คุณได้เข้าใจแก่นสำคัญในแต่ละบท และใช้เป็นส่วนที่ช่วยทบทวนความจำหลังจากที่ได้อ่านจบไปนานแล้ว

สิ่งที่สำคัญที่สุด

โรคดังกล่าวอาจทำให้คนที่กำลังป่วยรู้สึกว่า ตัวเองไร้ความหมาย ไม่มีตัวตน หรือเสื่อมความสำคัญจนไม่อาจอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้ อาจเกิดจากหลายปัจจัยทั้งทางกายภาพและจินตภาพ แต่จางหมิ่นจู้ ยืนยันอีกครั้งว่า ‘ชีวิต’ นั้นสวยงามและมีคุณค่า คุณเป็นคนที่มีความหมายต่อตนเองและผู้อื่นเสมอ อาจเป็นพ่อแม่ เพื่อน คนรัก หรือหมาแมว

“ฉะนั้นจงใช้ชีวิตต่อไป”

เขียนโดย ภูธิชย์ อรัญพูล

Source: หนังสือ ‘อย่าบอกให้สู้อีกได้ไหม เพราะฉันอาจไม่มีวันหายดี’ เขียนโดย จางหมิ่นจู้ แปลโดย สุภาพิศ โชติธรรมวัฒนา สำนักพิมพ์ Being

Tags::

You Might also Like