จาก Bing สู่ New Bing ผ่านมุมมองอดีตพนักงาน Microsoft ชาวไทย

Future Trends ได้รับเกียรติจาก โสภณ ศุภมั่งมี บรรณาธิการเพจ aomMoney ซึ่งเคยเป็นพนักงาน Microsoft ฝ่ายพัฒนา search engine ที่ชื่อว่า Bing มาร่วมแชร์มุมมองและประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้งาน Bing เวอร์ชันใหม่

ต่อไปนี้ คือ ความเห็นของโสภณ ที่มีต่อระบบค้นหาแบบใหม่ในสไตล์แชตบอตของ Microsoft

เมื่อเช้าเห็นข่าว Microsoft เปิดตัว New Bing (http://bit.ly/3DTdGXg) แล้วส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้นด้วยหลายๆ เหตุผล

อย่างแรกเลยส่วนตัวครั้งหนึ่งผมเคยมีโอกาสได้ทำงานที่ Microsoft ในส่วนของ Bing ช่วงเริ่มต้น แต่ตอนนั้น (2006) ถ้าเทียบเคียงกับ Google แล้วถือว่าเล็กมากๆ ส่วนแบ่งของตลาดคือ Google ราวๆ 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วน Bing อยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเราก็เล็กมากๆ 

แต่ผ่านมาถึงตรงนี้ปี 2023 บทใหม่ของ Bing กำลังจะเริ่มขึ้น และน่าตื่นเต้นแทนบริษัท Microsoft และทีมที่ทำ Bing อยู่ตอนนี้ด้วย เพราะนี่เป็นครั้งแรก (เท่าที่รู้) ที่เราได้เห็น ‘Waiting List’ ของการเข้าไปใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ Bing ซึ่งเอาพลังของ ChatGPT เข้ามาเสริมด้วย

สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้ ChatGPT สามารถเข้าไปอ่านเต็มๆ ได้ที่ลิ้งค์นี้ https://bit.ly/40RIp15

แต่ให้อธิบายสั้นๆ มันคือแชตบอตที่สามารถเขียนบทความ เขียนเพลง สร้างอีเมล ทำสคริปต์สำหรับถ่ายวิดีโอ วางแผนการเดินทาง เขียนการเสนอรายงาน ฯลฯ คือมันเป็นแชตบอตที่ฉลาดพอสมควร ฉลาดถึงขั้นทำให้ Google อยู่เฉยไม่ได้อีกต่อไป (ตอนนี้ก็เริ่มมีข่าวว่ากำลังจะปล่อยแชตบอตของตัวเองเช่นเดียวกัน) 

แล้ว Bing ของ Microsoft เข้าไปมีส่วนอย่างไร? 

สตาร์ตอัป OpenAI ที่สร้าง ChatGPT นั้นได้รับเงินลงทุนจาก Microsoft ในช่วงพัฒนา และล่าสุดก็เพิ่งประกาศทุ่มงบ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับ OpenAI เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ท่ามกลางการวิเคราะห์ว่า Microsoft จะพัฒนาระบบค้นหาใหม่เพื่อมาท้าทายเจ้าตลาด search engine อย่าง Google และตอนนี้ Bing ก็ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของตัวเองมา ให้คนใช้กันแล้ว (ซึ่งตอนนี้ถ้าเข้าไปในในเว็บไซต์ Bing.com จะมี Waiting List เพื่อเข้าไปลองใช้งานแล้ว) แน่นอนว่า การค้นหาข้อมูลต่างๆ ก็ยังเหมือนเดิมแบบที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ใน New Bing จะมีอะไรใหม่บ้าง? 

คำตอบที่สรุปให้เลย : สมมุติว่าอยากหาวิธีการทำเค้กโดยไม่ใช้ไข่ แทนที่จะต้องเข้าเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อหา ตอนนี้ Bing จะสรุปขั้นตอนมาให้เลยว่า อบเค้กแบบไม่ใช้ไข่ทำอย่างไรบ้าง โดยที่เราไม่ต้องเลื่อนหาเลย 

แชตบอต : สมมุติว่าผมอยากซื้อทีวีเครื่องใหม่ ทีนี้ค้นหา ‘ทีวีขนาด 45 นิ้ว LCD ของ Sony รุ่นไหนดี’ คำตอบที่กลับมาก็อาจเป็นลิสต์ของรุ่นต่างๆ เราก็แชตตอบกลับไปว่า ‘อยากได้ราคาไม่เกิน 30,000 บาท’ ตัวแชตบอตก็จะตอบกลับมาว่ามีรุ่นไหนบ้าง ระหว่างทางเราอาจเปลี่ยนใจ ‘ที่จริงแล้วขอเป็นยี่ห้อ Samsung ดีกว่า’ มันก็จะส่งข้อมูลใหม่มาให้อีก ซึ่งแทนที่จะเป็นการค้นหาทั่วไป ก็จะเป็นประสบการณ์แชตแทน 

ให้คำแนะนำ : อันนี้ส่วนตัวชอบมาก เช่น อยากขอคำแนะนำให้เขียนจดหมายสมัครงานให้หน่อย หรือขอแผนการเดินทางไปญี่ปุ่น ช่วงเดือนตุลาคม 5 วัน ตัว AI หลังบ้านก็จะไปค้นหาข้อมูลแล้วเสนอมา ให้เลยว่า อีเมลแบบนี้ หรือเที่ยวตามนี้ได้เลยนะ แถมยังมีแหล่งที่มาของข้อมูลที่อ้างอิงไว้ด้วย

ตัว Browser ของ Microsoft Edge ก็ได้รับการอัปเกรด 2 ฟีเจอร์ Chat และ Compose ด้วย (อันนี้ก็เริ่มปล่อยให้ผู้ใช้งานบางส่วนทดลองใช้ ซึ่งน่าปล่อยเต็มๆ อีกสักพัก) ตรงด้านข้างที่เรียกว่า ‘sidebar’ เราจะสามารถบอกให้ฟีเจอร์ใหม่ๆ นี้ทำงานได้ เช่น ใช้สรุปรายงานการเงินที่ยาวๆ ให้อ่านได้ (หรือบทความอย่างอื่น) หรือให้เขียนอีเมล บทความ โพสต์ต่างๆ ตามแบบที่เราต้องการได้ตรงนั้นเลย ปรับโทนเสียง ความยาว รูปแบบ (อีเมล, บล็อก ฯลฯ) ซึ่งจะช่วยย่นเวลาในการทำงานได้อย่างมาก

ทั้งหมดนี้ก็มาจากการที่หลังบ้านของ Bing และ Microsoft Edge เริ่มนำ ChatGPT มาใช้แล้ว และที่สำคัญคือ AI มันฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนผู้ใช้งานที่เข้ามา ยิ่งมีคนใช้เยอะ ยิ่งทำให้หาข้อมูลได้ถูกต้อง และตรงตามที่ผู้ใช้งานต้องการมากขึ้นด้วย นี่เป็นเหตุผลที่ตอนนี้ Bing เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก

ผมยังจำได้ครั้งหนึ่ง Yahoo! เคยยิ่งใหญ่ แล้วจู่ๆ โลกก็หันไปหา Google เพราะมันตอบโจทย์มากกว่า เมื่อก่อน Bing อาจจะเล็กและไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร ตอนนี้ดูจากเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นแล้ว Google ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน ก็ดูท่าจะนิ่งนอนใจไม่ได้ซะแล้ว 

เขียนโดย Sopon Supamangmee