Capcut หลบไป! รู้จัก ‘VEED.IO’ แพลตฟอร์มตัดคลิปวีดีโอน้องใหม่ ผสานพลังของ AI ที่เข้าใจคนทำงานมากกว่าเดิม
หากเอ่ยถึงแพลตฟอร์มที่เราใช้ตัดคลิปวิดีโอได้โดยไม่ต้องมีพื้นฐานเยอะก็คงจะมีอยู่ไม่กี่อย่าง แน่นอนว่า หนึ่งในนั้นก็คงจะหนีไม่พ้น Capcut โปรแกรมตัดต่อคู่กายของติ๊กต็อก (TikTok), iMovie โปรแกรมตัดต่อในตำนาน และ Canva แพลตฟอร์มสารพัดนึกที่เสกทุกอย่างได้ภายในพริบตา
แต่นอกเหนือจากแพลตฟอร์มข้างต้นที่เรากล่าวไปแล้ว ก็ยังมีแพลตฟอร์มอื่นที่ล้ำกว่า และน่าสนใจกว่าด้วย ซึ่งนั่นก็คือ ‘VEED.IO’ แล้วมันคืออะไร ดีงามอย่างไร และทำอะไรได้บ้าง? บทความนี้ Future Trends จะพาไปรู้จักกัน
VEED.IO คืออะไร?
VEED.IO คือแพลตฟอร์มสัญชาติอังกฤษที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2018 มีความสามารถในการตัดต่อ และสร้างคลิปวิดีโอด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ไม่ว่าจะเป็นอัดคลิปวิดีโอส่วนตัวเพื่อนำเสนองาน และสร้างสรรค์คอนเทนต์ เทมเพลตการตัดต่อคลิปที่สวยงาม หรือแม้กระทั่งขนาดของคลิปที่หลากหลาย ทำให้เราสามารถจบงานได้ในครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องนำเข้า ส่งออกหลายๆ ทอดอีกต่อไป
VEED.IO ดีตรงไหน?
1. ‘Insert ตัวเองได้แบบสวยๆ’ ไม่ต้องง้อ Capcut
ถ้าใครต้องอัดคลิปนำเสนองานอยู่บ่อยๆ หรือเป็นติ๊กต็อกเกอร์ (TikToker) น่าจะเข้าใจกันเป็นอย่างดีว่า การนำตัวเองมา Insert กับสไลด์หรือคลิปนั้นๆ ต้องใช้เวลาในการตัดต่อพอสมควร แถมบางทีก็อาจจะตัดต่อตัวเราลงไปได้ไม่เนียนด้วย
แต่เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ VEED.IO อย่างแน่นอน เพราะเขามีฟีเจอร์ให้เรากดอัดคลิปวิดีโอ โดยสามารถเลือกได้หลากหลายแบบ ทั้งแบบแชร์แค่เสียงอย่างเดียว แชร์แค่กล้องอย่างเดียว แชร์แค่จออย่างเดียว แชร์แค่สไลด์อย่างเดียว แชร์จอพร้อมกับกล้อง และแชร์สไลด์พร้อมกับกล้อง
นอกจากนี้ก็ยังปรับเปลี่ยนพื้นหลังในกล้องได้ แบบเดียวกับเวลาที่เราประชุมออนไลน์ผ่านกูเกิลมีต (Google Meet) หรือซูม (Zoom) และสามารถปรับเปลี่ยนขนาดของจอให้เหมาะสมกับทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ ไม่จำเป็นต้องนั่งวางเลเยอร์ซ้อนกันแบบใน Capcut หรือ iMovie แต่อย่างใด
2. พรายตะโกนที่ว่าแน่ ก็ต้องแพ้ ‘สคริปต์ตะโกน’
การลืมบทพูดหรือสคริปต์ที่เตรียมมาถือเป็นหนึ่งในปัญหาคลาสสิกของมนุษย์ออฟฟิศอย่างเราๆ แต่ถ้าลองเปลี่ยนมาใช้ VEED.IO อัดคลิป เราสามารถนำสคริปต์ใส่ลงไปใน ‘Prompter’ เพื่อเป็นโพยในการพูดได้ โดยที่สามารถเลือกจัดวางตำแหน่งให้เหมาะกับระดับสายตา และมีฟีเจอร์เลื่อนตัวอักษรลงให้อัตโนมัติ ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า แม้จะต้องดูโพย แต่ตาเราก็จะมองกล้อง สื่อสารกับผู้ชมได้เป็นอย่างดีอยู่ดี
3. อยากเปลี่ยนอีกกี่ร้อยแบบ ก็จัดไปเลยครับ
ตามปกติแล้ว เวลาที่เราอัดคลิปเสร็จก็จะไม่สามารถปรับแก้ส่วนของ Layout ได้อีก แต่ VEED.IO ไม่ได้เป็นแบบนั้น เนื่องจาก ต่อให้จะอัดเสร็จแล้วก็ตาม เราก็ยังสามารถปรับเปลี่ยน Layout ได้อยู่ เช่น การเลื่อนกล้องที่ถ่ายตัวเองจากมุมขวาไปมุมซ้าย การปรับกรอบของจอการนำเสนอให้มีความโค้งหม่น และการปรับเปลี่ยนพื้นหลังในกล้องได้อีกครั้งหนึ่ง เป็นต้น
4. เยอะสิ่งแค่ไหนก็เอาอยู่!
อีกหนึ่งความล้ำที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ‘ฟีเจอร์ที่ครบครัน’ ไม่ว่าการใส่ Sound Effect, การใส่ Voice Over การตัดเสียงรบกวน การใส่องค์ประกอบต่างๆ เพิ่ม การใส่ซับไตเติ้ล การลบพื้นหลัง หรือแม้กระทั่งการใส่ Green Screen ก็เช่นกัน
5. สวยงามตามท้องเรื่องด้วย ‘เทมเพลตสุดปัง’
อันที่จริงฟีเจอร์นี้คล้ายกับ Canva ที่มีเทมเพลตสวยๆ ให้เราเลือกได้ตามใจชอบ อย่างไรก็ตาม Canva ก็ยังมีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถแยก Layer ได้แบบละเอียด เหมือนกับการใช้ Capcut หรือ iMovie ตัดต่อ ซึ่งถ้าเปลี่ยนมาใช้ VEED.IO แทน เราจะสามารถเลือกเทมเพลตสวยๆ ได้เหมือนเดิม แต่ในขณะเดียวกัน เราก็สามารถแก้ไข Layer แยกย่อยได้แบบละเอียดด้วย
และทั้งหมดนี้ก็คือความน่าสนใจของ VEED.IO ที่เรานำมาฝากกัน หากใครสนใจก็สามารถเข้าไปลองใช้กันได้ที่ https://www.veed.io/ ส่วนจะเวิร์กหรือไม่เวิร์กยังไง? ก็อย่าลืมมาคอมเมนต์เล่าสู่กันฟังด้วยล่ะ