Type to search

เมื่อเงินไม่ใด้ตอบโจทย์ทุกอย่างของชีวิต แต่คือ ‘การได้ทำงานที่มีความหมาย’ YOLO เทรนด์การใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่มาจากโควิด

November 12, 2024 By Phoothit Arunphoon

ในอดีต ‘เงิน’ มักเป็นเหตุผลแรก ๆ ที่หลาย ๆ คนเลือกตอบตกลงทำงานที่ใดที่หนึ่งเสมอ ยิ่งเงินมาก ก็ยิ่งไม่ต้องคิดมาก พร้อมตอบตกลงทันที ในทางกลับกัน ยิ่งเงินน้อย ก็ยิ่งต้องคิดเยอะหน่อยว่า เงินค่าจ้างนั้นคุ้มค่ากับหยาดเหงื่อแรงกายที่เราต้องแลกไปเพียงใด

แต่ท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับการมาของโควิด-19 ที่สอนให้ทุกคนรู้ว่า ชีวิตคนเราเปราะบางมากขนาดไหน ส่งผลให้ปัจจุบันคนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสำคัญกับแนวคิด ‘YOLO’ กล้าได้กล้าเสีย กล้าลาออกจากงานที่ไม่ใช่มากยิ่งขึ้น

แล้ว YOLO คืออะไร ตอนนี้ผู้คนกำลังมองหางานแบบไหน? บทความนี้ Future Trends จะพาไปดูกัน

เพราะความสุขใน ‘วันนี้ ตอนนี้’ สำคัญที่สุด YOLO แนวคิดกล้าได้ กล้าเสีย กล้าลาออกจากงานที่ไม่ใช่

YOLO ย่อมาจากคำว่า “You Only Live Once” หมายถึง คนเราเกิดมาเพียงครั้งเดียว ซึ่งแนวคิดกล่าวถือเป็นคติประจำใจของใครหลาย ๆ คน เพราะมันทำให้พวกเขาฉุกคิด เริ่มกลับมาตั้งคำถามถึงชีวิตตนเองโดยให้ความสำคัญกับ ‘ความสุขในวันนี้ ตอนนี้’ เป็นหลัก

ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การใช้จ่ายให้คุ้มค่า และมีความสุขสุดเหวี่ยง หรืออย่างในแวดวงการทำงาน หากพวกเขาพบว่า ตนกำลังไม่มีความสุขกับงานที่ทำ งานนั้นไม่ตอบโจทย์เป้าหมายชีวิต พวกเขาก็เลือกที่จะลาออกเพื่อไปทำงานที่มีความสุขแทน แม้จะต้องแลกกับเงินค่าจ้างที่น้อยลงก็ตาม เพราะคนเรามีชีวิตครั้งเดียว เกิดมาครั้งเดียว ถ้าต้องให้ทน ให้รอต่อไป ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปถึงเมื่อไร ดังนั้น ก็ควรที่จะมีความสุขกับงานตรงหน้าตั้งแต่วันนี้ ตอนนี้ซะเลย

สอดคล้องกับผลสำรวจของไมโครซอฟต์ (Microsoft) ในปี 2021 ที่เผยว่า มนุษย์เงินเดือนทั่วโลกกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ กำลังตัดสินใจลาออกจากงานปัจจุบัน และผลสำรวจของฮาร์วาร์ดบิสซิเนสรีวิว (Harvard Business Review) ที่ระบุว่า แรงงาน 9 ใน 10 เต็มใจจะได้เงินเดือนน้อยลงแลกกับการทำงานที่มีความหมายมากขึ้น เนื่องจากมันทำให้พวกเขามีความสุขมากขึ้น และไม่ต้องเกลียดการไปทำงานอีก นอกจากนี้ยังพบว่า พนักงานที่ค้นพบงานที่มีความหมายมีโอกาสน้อยกว่า 69 เปอร์เซ็นต์ในการวางแผนลาออกอีกด้วย

Make REAL Change การพัฒนาคน เพื่อสร้างงานที่มีคุณค่า มีความหมาย คุณไม่ได้แค่มาทำงานธนาคาร… แต่คุณมาสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย

ttb มุ่งสร้างความแตกต่างผ่านความเชื่อที่ว่า ทุกการเปลี่ยนแปลงของ ttb เริ่มต้นจากการสร้างชีวิตที่ดีให้กับพนักงาน เพื่อส่งต่อการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายให้กับสังคม ตามปรัชญา Make REAL Change จึงเป็นธนาคารที่ไม่หยุดนิ่ง และมีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา เพื่อส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินที่เหนือกว่าแบบครบวงจร

ttb กับภารกิจช่วยเหลือคนไทย “พิชิตหนี้” ได้ไวขึ้น ผ่านการให้ความรู้ควบคู่ไปกับโซลูชันแก้หนี้ที่เหมาะสมและยั่งยืน ttb มีการพัฒนาเครื่องมือวัดระดับหนี้ หรือ ttb financial health check ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ามากว่า 94,000 ราย มาทำแบบทดสอบวัดระดับหนี้ และสามารถเรียนคอร์สออนไลน์เสริมความรู้ในการบริหารจัดการหนี้ได้ฟรี รวมทั้งได้ช่วยลูกค้ามากกว่า 31,000 ราย จัดการหนี้ผ่านโซลูชันรวบหนี้ ที่แบ่งเบาภาระดอกเบี้ยลูกค้าไปแล้วกว่า 1,920 ล้านบาท

ttb all free ช่วยให้คนไทยกว่า 2.1 ล้านราย เข้าถึงประกันอุบัติเหตุฟรี และยังได้รับวงเงินคุ้มครองชีวิต 20 เท่าของเงินฝากสูงสุด 3 ล้านบาท เพียงเปิดบัญชีและคงเงินฝากเงินไว้ 5,000 บาทขึ้นไป จะได้ความคุ้มครองทันที

My Car ฟีเจอร์บนแอป ttb touch ที่ช่วยดูแลจัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับรถ ทั้งการจ่ายสินเชื่อ ซื้อ-ต่อประกันรถ ต่อ พ.ร.บ. / ภาษีรถ เติมเงิน-เช็กยอด Easy Pass มอบสิทธิประโยชน์ เพื่อการดูแลรถจากพันธมิตรชั้นนำ รวมถึงยังสามารถเลือกขายรถผ่านลานประมูล เจ้าหน้าที่มาตรวจสภาพรถถึงบ้าน พร้อมขับเข้าลานประมูลให้

เปลี่ยนเพื่อสังคมที่ดีขึ้นทั้งวันนี้และอนาคต ‘Make REAL Change’ กับการจุดประกายเยาวชนและชุมชน

ttb มุ่งสานต่อโครงการแห่งการให้ที่ยั่งยืน จุดประกายเยาวชนและชุมชน ผ่านกิจกรรมจิตอาสาต่าง ๆ ดังนี้

[ จุดประกายเยาวชน ]

  • โครงการศูนย์เรียนรู้ไฟฟ้า : สร้างแหล่งเรียนรู้ศูนย์ไฟฟ้า 5 แห่ง สำหรับเยาวชนในชุมชนอายุ 12-17 ปี ให้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ผ่านการเรียนรู้กิจกรรมสร้างสรรค์เชิงศิลปะ และทักษะชีวิต ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อจุดประกายให้เยาวชนนำสิ่งที่เรียนรู้ไปพัฒนาตนเอง และสังคมให้น่าอยู่ขึ้น อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมผ่านโครงการ ‘Fun for Fin เด็กไฟ-ฟ้า ออมได้ใช้เป็น’ เป็นประจำทุกปี เพื่อปลูกฝังให้เรื่องการใช้ และการออมเงินแก่เยาวชนด้วย ที่ผ่านมามีเยาวชนมากกว่า 13,000 คนแล้วที่ได้รับประโยชน์จากโครงการศูนย์เรียนรู้ไฟฟ้า

[ จุดประกายชุมชน ]

  • กิจกรรมเปลี่ยนชุมชนเพื่อความยั่งยืน : ttb ยังคงมุ่งเน้นให้พนักงานตอบแทนชุมชน ในปีนี้มีอาสาสมัครทีทีบีกว่า 4,000 คน ไม่ว่าจะเป็นทีมบริหารเครือข่ายสาขา ทีมงานขาย และเครือข่ายธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ตลอดจนทีม Talents และทีม Passionate หรือกลุ่มพนักงานที่จับมือกันมาทำโครงการโดยทั้งหมด นำความรู้ความสามารถที่มีมาช่วยเหลือชุมชน และองค์กรสาธารณประโยชน์ทั้งทางตรง และทางอ้อมช่วยจุดประกายชุมชนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

เบื้องหลังความสำเร็จของ ttb มีพนักงานทุกเลเวล เป็นกุญแจสำคัญ กลยุทธ์พัฒนาคน หัวใจของการสร้างธนาคารเพื่อความยั่งยืน

ความสำเร็จเชิงประจักษ์ของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน, โซลูชัน, ฟีเจอร์ ต่าง ๆ ที่ ttb ส่งมอบเพื่อลูกค้า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เบื้องหลังของผลลัพธ์เหล่านั้น เกิดจากพนักงานทุกคน ทุกเลเวลที่ธนาคารให้ความสำคัญ อย่างเท่าเทียม

Junior Speak First – ปลดล็อกศักยภาพคนรุ่นใหม่ เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น ปลุกพลังผู้นำแห่งอนาคต เพื่อขับเคลื่อนสิ่งใหม่ และสร้างความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงาน ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรม I CARE แนวทางการทำงานที่ไม่ปิดกั้น เปิดรับทุกไอเดีย เปิดโอกาสให้คุณกล้าทำในสิ่งที่แตกต่าง และกล้าท้าทายสิ่งที่เป็นอยู่ ได้คิด ได้ทดลอง และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างเต็มที่ เพื่อมอบประสบการณ์ทางการเงินที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

I – ปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์ เป็นมืออาชีพ
C – กล้าทําในสิ่งที่แตกต่างและท้าทายสิ่งที่เป็นอยู่
A – มองไปข้างหน้า ปรับตัวและเรียนรู้
R – เคารพความแตกต่าง รับฟังทุกความเห็น
E – วางแผนอย่างเข้าใจ ส่งมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ttb ทำให้คุณเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุดในทุกวัน เพราะทักษะและศักยภาพ จะได้รับการฝึกฝนและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่กลัวความล้มเหลว พร้อมที่จะเรียนรู้ และปรับตัว เพื่อก้าวนำการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

การทำงานที่ ttb จึงไม่ได้มุ่งมั่นแค่เป้าหมาย และผลลัพธ์สู่การเป็นที่ 1 เท่านั้น แต่พนักงานทุกคนจะได้เข้ามาทำงานที่ใช่ที่จะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายให้กับชีวิตตนเอง และสังคม ภายใต้ปรัชญา ‘Make REAL Change เปลี่ยน…เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น’ และใช้ชีวิตตามสไตล์ YOLO ได้อย่างเต็มที่ เหมือนกับวลีละตินที่ว่า “Carpe Diem จงฉกฉวยวันเวลาดี ๆ ในชีวิตเอาไว้” นั่นเอง

FutureTrends #ttbpeople #ttb #MakeREALChange #เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น