บอกลาการคุยงานใน Line! รู้จัก ‘Slack’ แพลตฟอร์มที่เป็นได้มากกว่าการคุยงาน
ในวันที่อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีทลายเส้นแบ่งของการติดต่อสื่อสาร การคุยกันกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่เพียงแค่การคุยเล่นกันตามประสาคนสนิทชิดเชื้อเท่านั้น แต่ยังหมายรวมไปถึงการคุยงานกันภายใจออฟฟิศผ่านไลน์ (Line) แน่นอนว่า หลายๆ ครั้งมันก็ทำให้เรารู้สึกถูกรบกวนชีวิตส่วนตัวเป็นอย่างมาก และก่อให้เกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว
แล้วเราพอจะมีตัวช่วยอะไรอีกบ้าง? บทความนี้จะพาไปรู้จักกับสแล็ค (Slack) แพลตฟอร์มที่เป็นได้มากกว่าการคุยงานกัน
Slack คืออะไร?
Slack หรือ Searchable Log of All Conversation and Knowledge คือแพลตฟอร์มที่ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน โดยสจ๊วต บัตเตอร์ฟิลด์ (Stewart Butterfield) ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์แชร์ภาพถ่ายฟลิคเกอร์ (Flickr) และมหาเศรษฐีชาวแคนาดา
มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้การติดต่อสื่อสารมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานเป็นทีมที่ต้องอาศัยการสอดประสานซึ่งกันและกัน อีกทั้งก็ยังแก้ Pain Point เดิมๆ สามารถแยกงานกับชีวิตส่วนตัวออกจากกันได้เป็นอย่างดีด้วย
Slack ดีตรงไหน?
1. ‘อ่านง่าย’ เหมือนใช้ Docs คุยกัน
ตามปกติแล้ว เราจะเคยชินกับแอปพลิเคชันทั่วไปที่สามารถพิมพ์ข้อความได้เท่านั้น แต่การมาของสแล็คนั้นทำให้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจาก มีฟีเจอร์ให้เราสามารถปรับแต่งข้อความได้ตามลำดับความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นตัวหนา ตัวเอียง การขีดฆ่า การทำสีแดง และการจัดหน้ากระดาษ ทั้งกึ่งกลาง ชิดซ้าย ชิดขวา หรือแม้กระทั่งการใส่เลขข้อ การใส่ Bullet Point ก็ด้วย
2. แยก Agenda ได้ชัดเจน
นอกเหนือจากความอ่านง่าย เหมาะกับพฤติกรรมการทำงานแล้ว สแล็คก็ยังสามารถแยก Agenda ย่อยที่จะคุยในทีมได้ด้วย คล้ายกับดิสคอร์ด (Discord) ที่มีการแบ่งเรื่องต่างๆ อย่างชัดเจน โดยสามารถตั้งค่าให้มีแค่คนที่เกี่ยวข้องใน Agenda นั้นๆ แต่ขณะเดียวกัน คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็สามารถอ่านประวัติการคุยกันได้ผ่านการค้นหา
3. จัดประเภทข้อความได้เหมือน Facebook
อีกหนึ่งความดีงามของสแล็คก็คงหนีไม่พ้นการจัดประเภทข้อความที่เหมือนกับเวลาตอบกลับคอมเมนต์เพื่อนๆ บนเฟซบุ๊ก (Facebook) โดยเราเรียกฟีเจอร์นี้ว่า ‘Reply in Thread’ ซึ่งช่วยให้เราแยกข้อความต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และป้องกันความสับสนที่อาจเกิดจากการปะปนกับข้อความเรื่องอื่นๆ
4. ‘Do not Disturb’ แบบนี้ชาวออฟฟิศรักตายเลย!
หากพูดกันตามตรง แม้จะเลิกงานแล้ว น่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่มักจะถูกรบกวนจากแชตงานอยู่บ่อยๆ แถมหลายๆ ครั้งก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ด่วนขนาดนั้นด้วย แต่ปัญหานี้จะหมดไป! เพราะสแล็คมีฟีเจอร์ให้เราตัดขาดจากงานนอกเวลางานได้ สามารถตั้งเวลาเข้างาน และเลิกงาน โดยหลังเวลาเลิกงานก็จะไม่มีการเด้งแจ้งเตือนมารบกวนเราอีก
นอกจากนี้ ถ้าเราเกิดค้างคา มีประเด็นไหนที่อยากจะพิมพ์ทิ้งไว้ก็สามารถบันทึกดราฟต์ และตั้งเวลาในการส่งล่วงหน้าได้ เรียกได้ว่า นอกจากจะสะดวกชีวิตเราแล้ว ก็ยังไม่ไปรบกวนชีวิตคนอื่นด้วย
5. อ่านค้างไว้ ไม่ต้องกลัวลืม!
ในแต่ละวัน มีสิ่งต่างๆ ที่เราต้องทำ และจัดการเป็นจำนวนมาก การอ่านข้อความไม่จบ อ่านค้างไว้เป็นหนึ่งในปัญหาที่คนส่วนใหญ่ประสบ เนื่องจาก ต้องใช้เวลาไปทำสิ่งที่สำคัญ และเร่งด่วนมากกว่า
ดังนั้น พอเรากลับมาอ่านต่ออีกที ก็อาจจะหลงลืมไปว่า อ่านถึงตรงไหน? ต้องมานั่งไล่อ่านตั้งแต่แรก รวมไปถึงบางทีก็ลืมอ่านข้อความนั้นไปซะดื้อๆ แต่ถ้าเราเปลี่ยนมาใช้สแล็ค มันมีฟีเจอร์ ‘Mark Unread’ ทำให้เราสามารถกดคั่นข้อความที่ยังไม่อ่านไว้ได้ และตั้งค่าการแจ้งเตือนกันลืม เรียกให้เรากลับมาอ่านต่อในระยะเวลาที่กำหนดแบบอัตโนมัติ
สแล็คเป็นอีกตัวช่วยการสื่อสารที่น่าสนใจ ไม่เพียงแค่มนุษย์ออฟฟิศอย่างเราๆ เท่านั้น แต่ทางพรรคก้าวไกลเองก็เคยมองไว้เป็นเครื่องมือในการติดตามผล และแสดงรายละเอียดความคืบหน้าของ 300 นโยบายก้าวไกล แม้ถึงที่สุดแล้วจะมีการย้ายบ้านไปยังดิสคอร์ด เนื่องด้วย เรตราคาที่แปรผันตามปริมาณคนเข้าร่วมก็ตาม