“อย่าเสียใจกับสิ่งที่เลือก จงมองกระจกหลังเป็นเพียงบทเรียน” รู้จักแนวคิดมูฟออน ‘ไม่เป็นวงกลม’ ของชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ในหนึ่งวัน ชีวิตเราต้องพัวพันกับสิ่งต่างๆ มากมาย มีเ่รื่องราวนับสิบ นับร้อยให้ตัดสินใจตั้งแต่ตื่นนอนจนหัวลงหมอนอีกครั้ง แถมเรื่องราวที่ว่าก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ซะด้วย แต่บางครั้งเวลาที่ตัดสินใจลงไป ไม่ว่าเรื่องนั้นจะสำคัญมากหรือน้อยก็ตาม เรามักจะเกิดความคิดย้อนหรือความรู้สึกเสียดายว่า “หากเลือกอีกเส้นทาง ชีวิตก็คงจะดีกว่าตอนนี้” หรือ “น่าจะทำอย่างงั้นตั้งแต่แรก”
ในบทความต่างประเทศได้พูดถึงประเด็นนี้ไว้ว่า มีสถิติบอกว่าในแต่ละวันคนเราคิดถึงสิ่งต่างๆ โดยเฉลี่ยประมาณ 50,000-60,000 ความคิด ซึ่งกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของความคิดเหล่านี้ ก็คล้ายกับความคิดของเราในเมื่อวาน หรือวันก่อนหน้านั้น
ทั้งที่ชีวิตดูจะทะยานไปข้างหน้าแท้ๆ แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลกเหมือนกันว่า ในความเป็นจริง ความคิดในหัวกลับ ‘มูฟออนเป็นวงกลม’ คิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงอดีตที่ผ่านมาอย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้ชีวิตหลายๆ คนนั้นไปไม่ถึงไหน โดยทางจิตวิทยามีคำอธิบายเฉพาะเรียกสิ่งนี้ว่า ‘อาการกระจกมองหลัง’ (Rearview mirror syndrome)
ทว่า หากหันมาดูที่ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ คนล่าสุด เจ้าของฉายา ‘ชายที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี’ แล้ว จะพบว่า ชีวิต และความคิดของเขานั้นมีแต่จะเดินหน้าอยู่เสมอ
เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ชัชชาติเคยให้สัมภาษณ์ในรายการพาเธอกลับบ้านเกี่ยวกับความคิดในการตัดสินใจลงเล่นการเมืองไว้ว่า เขาโอเคกับสิ่งที่ตัดสินใจลงไป ไม่รู้สึกผิด และเสียใจกับมันเลยสักนิด โดยได้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับการขับรถว่า เวลาขับรถ เราสามารถมองกระจกหลังได้นิดหน่อย เพราะถ้ามองมากไปก็ขับไม่ได้ ดังนั้น ให้มองไว้เตือนสติ เป็นบทเรียนว่า ข้างหลังมีอะไรบ้าง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องมองไปข้างหน้าด้วย ชัชชาติทิ้งท้ายคำตอบของคำถามนี้ไว้ว่า ให้เชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ ไม่ต้องจดจ่ออดีต หรือจมอยู่กับความเสียใจ
เพราะถึงที่สุดแล้ว การที่เราจดอยู่แต่กับความคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เอาแต่กังวล ตั้งเงื่อนไขให้ชีวิตเยอะเกิน จำกัดตัวเองไว้เหมือนนกน้อยในกรงทองก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา โฟกัสกับปัจจุบัน ไม่ต้องเก็บอดีตมารั้งตัวเอง พึงระลึกเอาไว้เสมอว่า เราในวันนี้เก่งขึ้นกว่าเมื่อวานอยู่แล้ว และเก่งยิ่งกว่านี้ต่อไปเรื่อยๆ …
เนลสัน แมนเดลา (Nelson Mandela) ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ชัชชาติชื่นชอบ และติดตามความเคลื่อนไหวเคยกล่าวว่า “I am the master of my fate. I am the captain of my soul.” เราเป็นเจ้านายชะตาชีวิตของตัวเอง และเราก็เป็นกัปตันของจิตวิญญาณตัวเอง
“สิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างไม่ว่าจะโชคร้ายหรือโชคดี เราทำให้มันดีได้ เพราะเราคือเจ้านายชีวิตตัวเอง” นี่คือหนึ่งในประโยคเด็ดที่ชัชชาติเคยให้สัมภาษณ์กับเพจเกลา นิสัยอันตรายไว้เมื่อ 2 ปีก่อน
Sources: https://bit.ly/3xhyfsD
https://bit.ly/3z84yg6
https://bit.ly/3z2GlYt
https://bit.ly/3NGGB3p