มากกว่าการเป็นห้างค้าปลีก ‘โลตัส’ สร้างแพลตฟอร์มแห่งโอกาส สนับสนุน SME และเกษตรกรให้เติบโตอย่างยั่งยืน

SME และเกษตรกรถือเป็นกำลังสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ แต่กลับไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ผลิตเหล่านี้จะเติบโตและแข็งแกร่งได้ ด้วยข้อจำกัดด้านความรู้ และทรัพยากร ทำให้ SME จำนวนมากต้องเจอกับปัญหาด้านการจัดการ มาตรฐานการผลิต และเทคโนโลยีที่มีจำกัด ส่วนภาคการเกษตรของไทยก็มักจะเจอปัญหาเรื่องการควบคุมคุณภาพผลผลิต และการถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง 

ปัญหาที่เล่ามา ดูเหมือนจะเป็นแค่เรื่องของคนกลุ่มหนึ่ง แต่ทว่าพวกเขากลับเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้น การสนับสนนุน SME และเกษตรกรไทยจึงเกี่ยวข้องกับทุกคน ทุกภาคส่วน และหนึ่งในตัวอย่างของภาคเอกชนที่ใช้ทรัพยากรและความถนัดของตัวเองในการช่วยเหลือผู้ผลิตรายย่อย คือ ห้างค้าปลีกชั้นนำอย่าง ‘โลตัส’ 

บทบาทใหม่กับการเป็น ‘แพลตฟอร์มแห่งโอกาส’

‘โลตัส’ ห้างค้าปลีกชั้นนำที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน นอกจากการเป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าสู่ผู้บริโภค บทบาทที่สำคัญอีกด้านก็คือ การเป็น ‘แพลตฟอร์มแห่งโอกาส’ เปิดพื้นที่กว้างมอบโอกาสในการพัฒนาและเติบโตให้กับผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรรายย่อย

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น เราจะพาไปดูการทำงานของโลตัสในปี 2564 ที่ผ่านมา ว่าแพลตฟอร์มแห่งโอกาสนี้ ได้เปิดโอกาสด้านไหนให้กับเหล่า SME และเกษตรกรไทยบ้าง

เปิดพื้นที่ช่องทางการจำหน่ายให้ได้เข้าถึงลูกค้า

โลตัสสนับสนุนผู้ประกอบการระดับทุกระดับ โดยให้พื้นที่บนศูนย์การค้าฟรี ๆ ในการเปิดบูธขายของทดลองตลาด พร้อมทั้งจัดอบรมความรู้เบื้องต้นให้กับผู้ประกอบการระดับเริ่มต้นกว่า 1,670 ราย

ส่วนผู้ประกอบการระดับกลาง โลตัสก็มีส่วนช่วยในการเตรียมความพร้อมด้านการสร้างมาตรฐานการผลิต สร้างองค์ความรู้ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ยกระดับคุณภาพสินค้าให้พร้อมวางจำหน่าย และท้ายสุดคือ ผู้ประกอบการที่มีความพร้อมสูง โลตัสได้ให้พื้นที่ในการวางขายสินค้าในกว่า 2,100 สาขา และบนช่องทางออนไลน์ ช่วยให้สินค้าเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมกับโอกาสในการส่งออกสินค้า

นอกจากนี้ เพื่อให้พวกเขายังคงก้าวต่อไปได้ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในช่วงโควิด-19 โลตัสได้เปิดพื้นที่ให้ SME กว่า 1,600 ราย ได้เข้าอบรมเพื่อพัฒนาความสามารถ และยังทำการลดค่าเช่าให้กับผู้ประกอบการกว่า 1,500 ราย 

เปิดพื้นที่เจรจาธุรกิจที่เข้าถึงง่าย

เพื่อให้ SME เข้าใกล้โอกาสมากขึ้น โดยตลอดทั้งปี โลตัสได้จัดกิจกรรม ‘Online Business Matching’ เปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการนำสินค้ามาเสนอต่อทีมจัดซื้อของโลตัสได้โดยตรง และจากการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในปีที่ผ่านมา พบว่าสามารถเปิดพื้นที่และพัฒนาศักยภาพให้กับ SME ได้ถึง 724 ราย และเพิ่มสินค้าคุณภาพวางขายจำนวน 1,125 รายการ 

เปิดโอกาสรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรง

อีกหนึ่งสิ่งที่โลตัสทำมาอย่างต่อเนื่อง คือการรับซื้อผลผลิตโดยตรงกับเกษตรกร (Direct Sourcing) โดยปีที่ผ่านมา เกษตรกรกว่า 1,400 ครัวเรือน ใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้ส่งต่อสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ถึงมือผู้บริโภคแล้วกว่า 1,820 ตัน  

และไม่ใช่แค่การรับซื้อ แต่โลตัสยังทำให้เกษตรกรเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยช่วยเหลือด้านการวางแผนเพาะปลูก การควบคุมคุณภาพการผลิต การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงการขนส่งเลยทีเดียว 

ตลอดปีที่ผ่านมา โลตัสได้สนับสนุนผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทยไปเกือบ 7,000 ราย อีกทั้งมุ่งมั่นต่อไป ด้วยการเพิ่มการรับซื้อสินค้าอย่างน้อย 10% ทุกปี เป็นระยะเวลา 5 ปี และนอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือกับภาคส่วนอื่น ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนอีกด้วย

ทั้ง SME และเกษตรกรต่างก็มีฝีมือ มีไอเดีย และมีความสามารถกันอยู่แล้ว แต่เมื่อมีปัจจัยเรื่อง ‘โอกาส’ เพิ่มเข้ามา มันเป็นเหมือนกับประตูบานใหญ่ที่ทำให้พวกเขาได้ก้าวไปสู่การพัฒนาขึ้นอีกขั้น สินค้ามีมาตรฐานมากขึ้น ได้เข้าถึงผู้คนมากขึ้น และมีรายได้ที่มั่นคง ช่วยให้พวกเขาเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ยิ่งไปกว่านั้น ในด้านผู้บริโภค เราเองยังได้เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ ในราคาเข้าถึงง่าย และยังได้สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกรไทยไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย

Source: softbankthai, siamrath