บ้านเย็นอย่างยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีใหม่ AEROTECT ผสานวัสดุแห่งอนาคต ในสีเบเยอร์คูล

ประเทศไทยไม่ว่าจะฤดูไหน ก็ร้อนระอุ และมีแนวโน้มที่จะอากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี ผลกระทบจาก “ภาวะโลกเดือด” (Global Boiling) ขั้นกว่าของภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่สภาพภูมิอากาศของโลก มีอุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงจุดวิกฤตจากหลายๆ ปัจจัย  แต่ส่วนใหญ่มาจากภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ปัจจุบันหลายองค์กรจึงหันมาใส่ใจเรื่องนี้มากขึ้น โดยใช้หลักด้านความยั่งยืน SDG (Sustainable Development Goals) ประกอบไปด้วย Environment (สิ่งแวดล้อม), Social (สังคม) และ Goverment (บรรษัทภิบาล)

เบเยอร์ เชื่อว่า “นวัตกรรมสร้างความสะดวกสบาย และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับชีวิต” สีเบเยอร์คูล AEROTECH ใหม่! ผสานวัสดุแห่งอนาคต (Meta Material)  ที่ทำงานแบบ Double Cool Double Protect ช่วยให้บ้านเย็นขึ้น ทนกว่า

[แอโรเทค (AEROTECH TECHNOLOGY) เย็นขึ้น…ทนกว่า ยังไง?]

แอโรเทค (AeroTech) เป็นเทคโนโลยีจากวัสดุแห่งอนาคต (Meta Material) ที่มีลักษณะคล้ายฟองน้ำเนื้อแข็ง อัดแน่นด้วยโพรงอากาศกว่า 99% โดยเป็นฉนวนกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง ด้วยรูพรุนเล็กระดับนาโนเมตร ทำให้อากาศและความร้อนไม่สามารถเดินทางผ่านพื้นผิววัสดุได้ ป้องกันการถ่ายเทความร้อนผ่านวัสดุ สะท้อนความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ได้ดีมาก ปัจจุบันจึงถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของวัสดุกันร้อนต่าง ๆ มากมาย เช่น ยานสำรวจ NASA ฉนวนกันความร้อนหลังคา ฟิล์มกันแดดรถยนต์ กระจกกันความร้อน และพิเศษสุดเฉพาะในสีทาบ้านเบเยอร์คูล

❄️ [สีทาบ้านเบเยอร์คูล เย็นขึ้น]

AeroTech ช่วยยกระดับการปกป้องผนังจากความร้อนและการเสื่อมสภาพขั้นกว่า ยิ่งผสานกับสุดยอดเทคโนโลยีในสีเบเยอร์คูลอย่าง Ceramic Cooling จนกลายเป็นการทำงานแบบ Double Cool, Double Protection ด้วยการสะท้อนความร้อนออกทันที สูงสุดกว่า 97.5%* รวมถึงสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และแผ่ความร้อนในรูปแบบรังสีอินฟราเรด (IR) ความยาวคลื่น 8–13 ไมครอน ออกทะลุชั้นบรรยากาศสู่อวกาศทันที โดยไม่ถูกดูดซับและสะท้อนกลับมาที่ตัวบ้าน ไม่เกิดการสะสมความร้อนบนพื้นผิวผนัง อุณหภูมิพื้นผิวจึงเย็นขึ้น โลกเย็นขึ้น

ซึ่งปกติแล้วความยาวคลื่นของรังสีในบางช่วงจะถูกดูดซับในชั้นบรรยากาศที่ประกอบด้วยสสารอย่างไอน้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ และโอโซน เป็นผลให้ความร้อนสะสมและถูกสะท้อนกลับมายังพื้นโลก หรือที่เรียกกันว่า ปรากฎการณ์โดมความร้อน (Heat Dome) คล้ายมีโดมครอบจนส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น นำไปสู่ปัญหาภาวะโลกร้อน บ้านร้อน และการใช้พลังงานปริมาณมากนั่นเอง    

นวัตกรรม AeroTech ที่ผสานเทคโนโลยี Ceramic Cooling จาก NASA ทำงานแบบ REI (อาร์ อี ไอ)

R – Reflection สะท้อนร้อนความร้อน 97.5%

E – Emission คายความร้อนได้สูงสุดในสีทาบ้าน จึงช่วยลดการสะสมความร้อนบนผนัง 

I – Insulation ทำหน้าที่เสมือนเป็นฉนวนกันร้อน ช่วยสกัดกั้นความร้อนไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้าน

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเสมือนฉนวนกันร้อนได้ดีตั้งแต่ระดับที่อยู่อาศัยไปจนถึงระดับอุตสาหกรรม ช่วยลดการสะสมความร้อนหรืออุณหภูมิสูงบนผนังอย่างมีประสิทธิภาพ เพียงสัมผัสก็รู้สึกได้ว่าเย็นกว่า ลดอุณหภูมิสะสมภายในบ้านสูงสุด 2-6 องศาเซลเซียส** และช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟกว่า 32%***  ในทุกเฉดสี ไม่ว่าจะสีอ่อน สีเข้ม หรือสีเข้มมากที่มักดูดซับความร้อนสูงก็ยังเย็นขึ้นได้จริง

💪🏻[สีทาบ้านเบเยอร์คูล ทนกว่า]

เมื่อ AeroTech ช่วยให้บ้านเย็นขึ้น ฟิล์มสีก็ทนกว่า ทวีคูณความทนทานด้วยซิลิกาชนิดพิเศษ (Advance Silicate Technology) เฉพาะในสีเบเยอร์คูล ทำให้ฟิล์มสีแข็งแกร่งเหนือกว่า ทนทานต่อรังสี UV ตัวการบ้านเสื่อมสภาพ สีซีดจาง ในทุกช่วงคลื่นตั้งแต่ 100-400 นาโนเมตร ไม่ว่าจะ UVA, UVB และ UVC ต่างจากสีทั่วไปที่มักป้องกันได้เพียงรังสี UVA เท่านั้น จึงช่วยเสริมเกาะป้องกันฟิล์มสีจากการถูกทำลายของอุณหภูมิและความร้อนสะสมได้เป็นอย่างดี 

ประสิทธิภาพของซิลิกาสูตรพิเศษยังมีส่วนช่วยคงความสวยสดของฟิล์มสี ป้องกันคราบน้ำ ทนต่อคราบสกปรกเกาะติด และดักจับอนุภาคสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ด้วย ทำให้บ้านสวยทนเหมือนเพิ่งทาใหม่ จนลืมเรื่องรีโนเวทไปได้เลย ด้วยหลัก Double Cool, Double Protection จึงยืดอายุการใช้งานยาวนานกว่า 15 ปี จะปัญหาสีบ้านเสื่อมสภาพ ซีดจาง ลอกล่อน หรือฝุ่นชอล์กก็ไม่มีกลัว

นวัตกรรม AeroTech และ Ceramic Cooling ในสีเบเยอร์คูลสำคัญไม่เพียงแค่การทาสีผนังหรืองานปูนเท่านั้น แต่ยังจำเป็นต่อทุกส่วนของบ้าน ไม่ว่าจะงานไม้ งานเหล็ก งานฝ้าเพดาน และงานหลังคา ดังนั้น หากเราทาสีเย็นครบทั้งระบบก็จะเป็นการปกป้องบ้านอย่างมีประสิทธิภาพขั้นสุด เพราะยิ่งบ้านเย็นมากเท่าไหร่ บ้านเรายิ่งทนมากเท่านั้น จะเปลี่ยนกี่ฤดูไหนก็มั่นใจว่าบ้านยังสวยทนยาวนาน

🌈♻️[เบเยอร์คูลกับเทคโนโลยีสีที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน]

สีเบเยอร์คูลไม่เพียงมีเทคโนโลยีสุดล้ำที่ดีต่อผู้บริโภค แต่ยังดีต่อโลกและสิ่งแวดล้อม ด้วยกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยคาร์บอน ทำให้เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนในการช่วยรักษาโลกของเรา ซึ่งเป็นสีทาบ้านรายแรกที่ได้รับการรับรอง ฉลากลดโลกร้อน จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกประเทศไทย ซึ่งยืนยันว่าสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อนได้จริง

นับตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบัน สีเบเยอร์คูลได้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปแล้วกว่า 350,000,000 กิโลกรัมคาร์บอนเทียบเท่า ซึ่งเทียบได้กับการปลูกต้นไม้เพื่อดูดซับคาร์บอนมากกว่า 5,600,000 ต้น

ในขณะนี้ที่เรากำลังเผชิญกับภาวะโลกเดือด แม้จะยังไม่ก้าวขาออกจากบ้าน ก็สามารถสัมผัสความร้อนระอุทะลุเข้าบ้าน ดูได้จากค่าไฟที่พุ่งสูงขึ้น แล้วถามว่าในวันนี้เราจะมีวิธีรับมือลดความร้อนให้บ้านอย่างยั่งยืนได้อย่างไร วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟัง

🏡[ รับมือโลกร้อนเริ่มต้นที่ ‘บ้าน’ ]

ในฐานะผู้ที่ได้รับผลกระทบในชีวิตประจำวันจาก “ภาวะโลกเดือด” นี้เราจะรับมือในขณะที่ไม่เพิ่มภาระให้โลกร้อนขึ้นได้อย่างไร ? เราจึงขอเสนอ 5 เทคนิคลดความร้อนให้บ้านง่ายๆ แถมยังช่วยโลกได้อีกด้วย

1.ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาภายในบ้าน เป็นวิธีที่ช่วยให้บ้านเย็นแถมเพิ่มพื้นที่สีเขียวรอบๆ บ้าน นอกจากนี้ต้นไม้ยังดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเพิ่มออกซิเจน ช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย

2.เลือกใช้ผ้าม่านทึบแสง เพื่อกันแดด และความร้อนเข้าบ้านในช่วงเวลากลางวัน ป้องกันความร้อนที่เข้ามาผ่านทางหน้าต่างที่จะพุ่งเข้าสู่บ้านโดยตรง

3.เปิดพัดลม เพื่อกระจายความร้อนในบ้าน และอย่าลืมเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสัญลักษณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อประหยัดค่าไฟ อีกทั้งยังประหยัดการใช้พลังงาน

4.เปิดหน้าต่างระบายอากาศ ในช่วงเช้า และเย็น เพื่อให้อากาศถ่ายเท ลดความร้อนภายในบ้าน

5.เลือกสีทาบ้านที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนและลดการปล่อยคาร์บอน ปัจจุบันมีเทคโนโลยีสีทาบ้านกันร้อนที่ช่วยลดอุณหภูมิให้บ้านได้สูงสุดถึง 6 องศาเซลเซียส อย่างสีเบเยอร์คูล นั่นเอง

คุณก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลกได้ เริ่มต้นที่บ้านของคุณ เลือก Beger Cool AeroTech  เลือกบ้านเย็นสบาย คงทน ดีต่อโลก ร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

#FutureTrends #FutureTrendsTechnology #สีเบเยอร์ #BegerCool #AEROTECH #สีรักษ์โลก