จากคนที่ก้าวออกจาก Safe Zone สู่ผู้สร้าง Safe Zone ให้ใครหลายคนทั่วโลก
ทุกวันนี้เรามี Safe Zone ของตัวเองแล้วหรือยัง?
หลายคนคงจะเคยได้ยินเวลาคนพูดถึง Safe Zone (พื้นที่ปลอดภัย) กับ Comfort Zone (พื้นที่ที่รู้สึกสะดวกสบาย) ว่าถ้าอยากให้ไอเดีย หรืองานเราไปไกลขึ้นจะต้องก้าวออกจากโซนดังกล่าว เพื่อไปยังพื้นที่ใหม่ที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน
Future Trends ได้มีโอกาสพูดคุยกับรศ.ดร.ณฐนนท์ ตราชู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวอรีน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถึงการสร้าง Safe Zone ในวันที่ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และใครต่อใครต่างก็อยากให้เรา ห่ า ง กันสักพัก ผ่านเรื่องราวชีวิตที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้ สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้าง Safe Zone ให้กับสาว ๆ หลายคนในวันนี้
พรหมลิขิต ให้ไม่ติดอยู่ใน Safe Zone
รศ.ดร.ณฐนนท์ ตราชู อดีตคือเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งเล่าเรียนมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และสำเร็จการศึกษาจนถึงปริญญาเอกด้วยวัยเพียง 28 ปี ที่ปัจจุบันถึงกับบอกว่า “ผมเนี่ยเป็นคนที่เบื่อการเรียนที่สุดแล้วในโลกนี้!”
รศ.ดร.ณฐนนท์ สำเร็จการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนศาสตร์ (Food Science and Nutrition) ทั้งในระดับ ปริญญาตรี (SWU, Thailand) ปริญญาโท (South Dakota State University, USA) ปริญญาเอก (University of Georgia, USA) และ post doctoral (Massey University, New Zealand) เคยรับราชการเป็นอาจารย์และนักวิจัยในระดับมหาวิทยาลัยมาถึง 19 ปี ก่อนจะมาเริ่มต้นทำบริษัท เวอรีน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เห็นภาพความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่กว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่ง่าย ๆ เลย รศ.ดร.ณฐนนท์ เล่าว่าจังหวะชีวิตที่เรียนจบปริญญาตรี คุณแม่เสียทำให้ไม่มีเงินที่จะเรียนต่อ เพราะยังไม่มีงานหรือธุรกิจเป็นของตัวเองเลย สุดท้ายจึงไม่เรียนต่อและไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย จังหวะชีวิตถึงช่วงจะได้ก้าวเดินต่อจากทุนต่างประเทศ แต่เขาก็เลือกที่จะเสียสละให้กับเพื่อนร่วมงานอีกคน ที่มีสิทธิ์จะได้ไปสอบชิงทุนเช่นเดียวกัน ส่วนตัวเขานั้นก็ตัดสินใจที่จะรอทุนถัดไป และพอมีประกาศสอบชิงทุนเข้ามาเขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะก้าวไป เพราะอนาคตไม่รีรอ เขาไม่มีเงินพอจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยเอง ดังนั้นการสอบชิงทุนเพื่อศึกษาต่อจึงเป็นเป้าหมายที่ต้องคว้าให้ได้! ซึ่งทุนนี้เขาจะต้องสอบแข่งกับผู้คนมากมาย จนสุดท้ายก็ได้ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา
“นั่นแหละที่มาที่ไป เห็นไหมชีวิตผมมันถูกลิขิตไว้แล้วแหละ” รศ.ดร.ณฐนนท์ กล่าวปนหัวเราะ
ก้าวออกจาก Safe Zone ตัวเอง เพื่อสร้าง Safe Zone ให้ผู้อื่น
การที่คน ๆ หนึ่งจะตัดสินใจก้าวออกมาจาก พื้นที่เดิม ๆ ที่คุ้นเคยได้จะมาจากสาเหตุอะไรบ้าง? เวลาที่เราอยากจะเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้น ‘การเปลี่ยนแปลง’ ที่เกิดขึ้น ทำให้เราต้องปรับตัวเองเสียใหม่
รศ.ดร.ณฐนนท์ เริ่มต้นทำธุรกิจนี้เพราะ ‘ภรรยา’ ตั้งครรภ์ ทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เขาจึงอยากจะคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มาช่วยดูแลสุขภาพให้กับภรรยา ที่ดีที่สุดและปลอดภัยมากที่สุด โดยเริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์ประเภทเสริมอาหารบำรุงผิว อาหารเสริมลดน้ำหนักและเพื่อสุขภาพเป็นหลักโดยผลิตภัณฑ์ทุกประเภทได้ผ่านการค้นคว้าวิจัยอย่างครบวงจรตามหลักมาตรฐานสากล คัคสรรวัตถุดิบ จากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9200 และ GMP ซึ่งก่อนหน้าจะมาเป็นผลิตภัณฑ์อย่างทุกวันนี้ต้องบอกเลยว่าผ่านการทดลอง และทดสอบมามากมายเพื่อให้ได้ ‘สิ่งที่ดีที่สุด’ จริง ๆ
“ภรรยาชอบบอกว่าผมเป็นคน Perfectionist กว่าจะตัดสินใจเลือกอะไรจะช้า เพราะเราอยากให้มั่นใจว่ามันจะออกมาดีจริง ๆ มันอาจจะเสียเวลาช่วงแรก แต่ถ้ามันออกมาดีก็ถือว่าดีกับผู้บริโภคด้วย”
สำหรับ รศ.ดร.ณฐนนท์ สิ่งนี้เหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นับจากวันที่ตัดสินใจออกจากอาชีพอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มั่นคง ไปสู่การสอบชิงทุนเรียนต่อ และการเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเองจากศาสตร์ความรู้ที่มีมันไม่ใช่เรื่องง่าย
ทำทุกที่ให้เป็น Safe Zone แม้อยู่ในบ้านก็ตาม
ในสถานการณ์ COVID-19 เป็นช่วงที่ทุกคนอาศัยอยู่บ้าน แม้เราจะรู้สึกปลอดภัยแค่ไหนก็ตาม แต่ในความปลอดภัยนั้นคุณอาจจะลืมไปว่ายังมีภัยรอบตัวอื่น ๆ เกิดขึ้นอีก
เว็บไซต์ thriveglobal ได้กล่าวไว้ว่าการสร้าง Safe Zone ภายในบ้าน สามารถเริ่มได้จาก
- การกำหนดพื้นที่ปลอดภัยในบ้าน เช่น ห้องนอนไว้นอน ไม่ใช่ดูซีรีส์
- การตกแต่งบ้านด้วยสไตล์ที่เราผ่อนคลาย เช่น วางเทียนหอมกลิ่นที่ชอบ เป็นต้น
- การสร้างความปลอดภัยทางกายภาพ เช่น ตัวบ้าน โครงสร้างต่าง ๆ
- การสร้างความรู้สึกปลอดภัยทางอารมณ์ เช่น กำจัดความเครียด ความกังวลผ่านกิจกรรม
ซึ่งทาง รศ.ดร.ณฐนนท์ ก็มองว่าสถานการณ์ปัจจุบันการที่คนกักตัวอยู่แต่ในบ้านอาจไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป ถึงเราจะปลอดภัยจาก COVID-19 แต่ในบ้านเราเองก็มีภัยแฝงอยู่แบบไม่รู้ตัว อาทิ ภัยจากความเครียด ภัยจากแสงไฟ/แสงจากจอคอมฯ หรือแม้แต่แสงจากมือถือ
ทางบริษัท เวอรีน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เองก็มีผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้สาว ๆ ทุกคนได้ปกป้องผิวจากภัยใกล้ตัว อย่างแสงไฟนีออน แสงจากจอมือถือ หรือ จอคอมฯ ที่ทำร้ายผิวโดยที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ เป็นเหมือนเกราะอีกหนึ่งชั้นให้กับสาว ๆ ได้มีสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก
Nutroxsun เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ประกอบด้วย สารสกัด Nutroxsun ที่สกัดจากพืชตระกลูส้มและโรสแมรี่ ที่มีผลงานวิจัยสนับสนุนประสิทธิภาพว่าช่วยลดการอักเสบและแสบไหม้จากแสงแดดและยังมีคอลลาเจนไตรเปปไทด์มากถึง 10,000 มิลลิกรัม ซึ่งช่วยในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ใช่แค่กันแสงไฟเพียงอย่างเดียว อาทิ สารสกัดทับทิม (ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ), สารสกัดจากซีตรัส (ช่วยเพิ่มประสิทธิของระบบการไหลเวียนโลหิต), Alpha Lipoic Acid (รักษาสุขภาพตา), สารสกัดจากมะขามป้อม (ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย)
“บางคนทำงาน 8 ชั่วโมง แสงจากจอ และจากไฟต่าง ๆ มันไปกระตุ้นให้เกิด ‘Oxidative stress’ (ภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชัน คือการที่อนุมูลอิสระเข้าไปทำลายระบบต่างๆ ภายในเซลล์ของสิ่งที่มีชีวิต) ซึ่งอาหารเสริมเหล่านี้จะเข้าไปช่วยดูแลได้” รศ.ดร.ณฐนนท์ กล่าว
และล่าสุด NUTROXSUN ได้รับรางวัล International Innovation Award 2019 จากงานประชุมสัมมนา International Innovation Summit 2019 ประเทศสิงคโปร์ หนึ่งในรางวัลระดับโลกที่ทรงคุณค่าที่สุด ซึ่งมอบเพื่อเป็นการยกย่องนวัตกรรมที่เป็นที่สุดในหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ การบริการ และองค์กรและวัฒนธรรม
นอกจากนี้ทางบริษัท เวอรีน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังสร้าง Safe Zone เพิ่มให้กับทุกคนด้วยอีกด้วยการออกผลิตภัณฑ์สำหรับสถานการณ์ COVID-19 ไม่ว่าจะเป็นสเปรย์แอลกอฮอล์, Hand Gel และ Hand Spray อีกด้วย
เราทุกคนควรออกจาก Safe Zone เดิม เพื่อริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ ในขณะเดียวก็ควรจะค้นหา Safe Zone ใหม่ ไว้สำหรับความปลอดภัย ในอนาคตที่อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
รศ.ดร.ณฐนนท์ ได้ออกจาก Safe Zone และเริ่มต้นหลายสิ่งจาก 0 แต่ก็เสี่ยงที่จะทำแม้ว่าไม่รู้ว่าเทรนด์ หรืออนาคตจะเป็นอย่างไร และนั่นทำให้เขาได้ส่งต่อ Safe Zone ใหม่ให้กับสาว ๆ หลายคนในวันนี้