คนฐานะดีและ LGBTQ+ นิยมรถยนต์ไฟฟ้า คนไทยส่วนใหญ่ยังเลือกใช้ ‘รถสันดาป’ ต่อไปอีก 1-2 ปี
ศูนย์วิจัยของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เผยรายงานล่าสุดเกี่ยวกับเทรนด์การใช้รถยนต์ของคนไทย พบว่า ความต้องการซื้อรถคันใหม่กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด – 19 โดยผู้บริโภค 65 เปอร์เซ็นต์ บอกว่ามีแผนซื้อรถยนต์ส่วนตัวภายใน 1-2 ปีนี้
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2023 ซึ่งขยายตัวจากปีก่อนหน้า 3.9 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถที่เพิ่มขึ้นตามแรงสนับสนุนจากโปรโมชั่นเพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น
SCB EIC ระบุว่า ผลสำรวจพบภาพรวมรถยนต์ที่คนไทยนิยมซื้อสูงที่สุด กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) และรถเก๋งขนาดกลาง โดยรถยนต์ประเภทสันดาป (ใช้น้ำมัน) ยังคงเป็นตัวเลือกหลักในการซื้อรถใหม่ภายในระยะ 1-2 ปีนี้
ประเภทรถยนต์ที่คนวางแผนซื้อมากที่สุด ได้แก่
1. รถ SUV (31.8%)
2. รถเก๋งขนาดกลาง (30.7%)
3. รถเก๋งขนาดใหญ่ (12.3%)
4. รถเก๋งขนาดเล็ก หรือ Eco car (11.4%)
5. รถตู้/ รถแวน (3.0%)
ผลสำรวจยังพบว่า กลุ่มตัวอย่างทั้งเพศชายและหญิงส่วนมากยังคงนิยมรถระบบสันดาป ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV จะเป็นที่นิยมในครอบครัวที่มีรายได้สูง กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว และ LGBTQ+ เนื่องจากรูปลักษณ์ทันสมัย และใช้เทคโนโลยีการขับขี่ยุคใหม่
สาเหตุที่ครอบครัวรายได้น้อย – ปานกลาง ยังคงนิยมรถสันดาป ส่วนหนึ่งคาดว่าจะมาจากราคาขายโดยเฉลี่ยของรถ EV ที่สูงกว่า เช่นเดียวกับปัญหาการหาสถานีชาร์จที่ยังไม่ครอบคลุม และการติดตั้ง EV Charger ในที่พักอาศัยยังค่อนข้างยุ่งยากและมีต้นทุนสูง
รถมือสองได้อานิสงส์จากคนรอซื้อรถ EV
ด้านแนวโน้มตลาดรถยนต์มือสองยังคงสดใส และเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้ระยะยาวยังเสี่ยงได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยผลวิจัยพบว่า รถมือสองเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ เนื่องจากบางส่วนซื้อมาใช้ทำธุรกิจ ทั้งในเรื่องการค้าขาย และรับส่งคนหรือขนสิ่งของ
นอกจากนี้ ผู้บริโภคบางกลุ่มยังวางแผนซื้อรถมือสองไว้ใช้งานชั่วคราว เพื่อรอเปลี่ยนไปใช้รถ EV ในอนาคต
ความเสี่ยงของตลาดรถยนต์มือสอง หลักๆ มาจาก 2 ปัจจัย ดังนี้
1. อุปสงค์เปราะบางเพราะพึ่งพากำลังซื้อจากกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้มีรายได้ไม่มั่นคงเป็นหลัก
2. การเปิดตัวรถ EV รุ่นใหม่ๆ ทำให้รถมือสองตกรุ่นและราคาลดลง
ปัจจัยกระตุ้นตลาด EV คือ สถานีชาร์จ
ผลสำรวจของ SCB EIC ซึ่งสอบถามกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 6,496 คน ระหว่างวันที่ 19 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2023 ยังพบว่า คนไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างตื่นตัวกับกระแสรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนหนึ่งเนื่องจากราคาน้ำมันแพงขึ้น และปัญหาสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนผู้ใช้รถ EV ยังอยู่ในระดับต่ำ และกระจุกตัวในกลุ่มผู้มีรายได้สูงเป็นหลัก
ส่วนแนวโน้มการใช้รถ EV ในระยะถัดไปคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยสะท้อนจากประสบการณ์ตรงผู้ใช้งาน ซึ่งระบุว่า รถ EV ช่วยประหยัดค่าพลังงานและการบำรุงรักษาได้จริง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้ขับได้สะดวกปลอดภัยมากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรายย่อยยังสามารถเกาะกระแสรถ EV เติบโต ด้วยการทำธุรกิจอู่ซ่อมเฉพาะทาง รวมถึงร้านขายอะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่งรถ EV โดยเฉพาะ ขณะที่มาตรการสนับสนุนของรัฐก็มีส่วนช่วยกระตุ้นการใช้ EV
รายงานระบุว่า หากมีการเร่งสร้างสถานีชาร์จให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนเลิกใช้รถยนต์สันดาป และหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
เขียนโดย Phanuwat Auaudomchaisakun