“every new day is another chance to change your life”
ทุกวันใหม่คือโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณ
คุณเคยจินตนาการไหมว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ธุรกิจที่มี งานที่ทำจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไหม? เป็นคำถามที่ตอบได้ยาก และไม่มีอะไรแน่นอนเป็นที่สุด โดยเฉพาะในยุค Digital Disruption ที่ผสานเข้ากับวิกฤตโควิด-19 ที่เจอกันทั่วโลก
จากการวิเคราะห์ในรายงาน seventh edition of the ILO Monitor: COVID-19 and the world of work ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ระบุว่าตลาดแรงงานโลกจากวิกฤตโควิด-19 นั้นจะฟื้นตัวได้ช้าในปี 2564 ในประเทศไทยเองจากผลการสำรวจของธนาคารกลาง ก็เปิดเผยออกมาว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมาตำแหน่งงานของไทยก็หายไปกว่า 700,000 ตำแหน่งเลยทีเดียว
แล้วท่ามกลางวิกฤตที่ดูจะฟื้นตัวไปอย่างช้า ๆ นี้ จะมีโอกาสอะไรให้เราอีกบ้าง?
พลิกวิกฤต ผุดความคิดในอากาศ สู่โอกาสทางธุรกิจ
บางครั้งโอกาสอาจเริ่มต้นจากคนอื่น ๆ ที่สร้างจังหวะเวลานั้นเหล่านั้นให้ วันนี้ Future Trends อยากจะหยิบยก Digital Business หนึ่งมาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกัน ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่เริ่มต้นจากความคิดในอากาศ ก่อนจะเริ่มสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่แค่การทำเพื่อตัวพวกเขาเองเท่านั้น แต่มันยังเป็นการเปิดเส้นทางโอกาสใหม่ให้กับคนธรรมดา ที่อาจไม่ได้มีแสงส่องถึงแต่แท้จริงแล้วพวกเขามีศักยภาพมากกว่านั้นที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น
‘SHOPTER’ หรือถ้าอ่านเป็นภาษาไทยแบบน่ารัก ๆ ก็คือ ‘ช้อปเถอะ’ นั่นเอง SHOPTER เป็นสตาร์ทอัพที่ให้บริการ Ecommerce Solution ทั้งกับธุรกิจและกลุ่มครีเอเตอร์ในรูปแบบ Revenue Sharing (Revenue Sharing คือ กลยุทธ์การขายแบบ Win-Win แบ่งส่วนแบ่งจากยอดขาย)
ถ้าพูดชื่อ SHOPTER หลายคนก็จะเกิดเครื่องหมายคำถามขึ้นมาในหัวว่าคืออะไร งั้นเรามาลองย้อนกลับไปอีกสักหน่อย หลายคนอาจจะรู้จักกับ SOdA PrintinG ที่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2007 โดย “ไอซ์ – ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์” และ “ครีม – ธวัชชัย สหัสสพาศน์” กับสโลแกนที่ว่า “ของขวัญแบบนี้มีชิ้นเดียวในโลก” ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จและปรับตัวในช่วงวิกฤตนี้ได้อย่างดีทีเดียว เพราะนอกจากรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์แล้ว การทำการตลาดผ่าน Influencer หรือเหล่าครีเอเตอร์ของ SOdA PrintinG เองก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ๆ ซึ่งทางไอซ์ และครีมเองก็มองเห็นโอกาสทางธุรกิจนี้จึงขยายธุรกิจออกมาในชื่อ ‘SHOPTER’ นั่นเอง
แต่จุดเริ่มต้นของ SHOPTER ไม่ใช่ตรงนี้ แต่มันมีรายละเอียดที่น่าสนใจมากกว่านั้น
“วันนึงมีน้องทักมาว่ามีงานอะไรให้ทำไหมงานอะไรก็ได้ ต้องการเงินไปจ่ายค่าเทอม ถ้าจ่ายไม่ทันก็จะหมดโอกาสในการเรียนหนังสือต่อ”
SHOPTER มองเห็นปัญหาจากคนกลุ่มหนึ่งที่ในปัจจุบันไม่มี ‘โอกาส’ และกำลังมองหาโอกาสที่ว่านี้ จึงอยากจะยื่นมือเข้าไปช่วย เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้มี Future Job ใหม่ ๆ ได้ทำอาชีพสุจริตเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง และที่สำคัญยังได้พัฒนาศักยภาพความสามารถบางอย่างไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ที่ผ่านมาภาคธุรกิจมักจะเจอปัญหาว่าอยากขายสินค้าแต่ไม่รู้จะขายสินค้าอย่างไร ส่วนสำคัญคือธุรกิจเหล่านี้ไม่มีทีม Sale ในการช่วยขาย ทางฝั่งครีเอเตอร์เองก็อยากขายสินค้าเช่นกัน แต่ไม่รู้จะขายอะไรดี
จึงเกิดเป็นกลุ่ม Micro Influencer และครีเอเตอร์ที่ช่วยปั้นการตลาดบนโซเชียล ซึ่งคนเหล่านี้สร้างผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างน่าประหลาดใจ อีกทั้งยังได้รับโอกาสในการสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเองร่วมกับ SHOPTER ได้อีกด้วย ปัญหาคือครีเอเตอร์เหล่านี้ไม่รู้ว่าจะขายอะไร ไม่มีต้นทุน ไม่มีระบบการจัดการสินค้า ไม่มีระบบ CRM Support และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่นั่นจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะทาง SHOPTER ก็จัดการระบบเหล่านั้นให้หมดเลย
ความน่าสนใจคือคุณไม่จำเป็นต้องสต๊อคของไว้ก่อน ไม่ต้องกลัวว่าของจะเหลือทิ้ง เพราะทุกชิ้นจะเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ ผลิตตามพรีออเดอร์และจำนวนการสั่งซื้อเท่านั้น
การสร้างโอกาสมันเป็นการสร้างช่องทาง แต่สิ่งที่ SHOPTER ทำคือช่วยให้กลุ่มคนที่มีความสามารถแต่ไม่มีโอกาส มีเพียงความคิดในอากาศให้มี Branding เป็นของตัวเอง และยังสร้างรายได้ด้วยตัวเองได้อีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจ ว่าต่อไปครีเอเตอร์เหล่านี้จะสามารถแปลงสินทรัพย์ออนไลน์ของตัวเองให้เป็นรายได้ต่อไปได้อย่างไรบ้าง แล้วเมื่อ SHOPTER ได้ช่วยสังคมแล้ว SHOPTER จะได้อะไรจากการทำธุรกิจนี้?
WIN-WIN โมเดลธุรกิจ ความสำเร็จก้าวแรกของ SHOPTER
“การทำธุรกิจบางทีจะมีคนได้และคนเจ็บ แต่เราอยากให้ win-win ทั้งหมด”
จากความคิดดังกล่าวจึงนำมาสู่ Business Model ของ SHOPTER ที่แบ่งออกมาเป็น 3 ขาด้วยกัน ได้แก่
นอกจาก Business Model ของ SHOPTER จะเป็นแบบ Revenue Sharing แล้ว ทาง SHOPTER ยังมีการทำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจนี้ด้วย
- Technology Innovation
โดยการนำ Open platform ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Social Media Marketplace และ Platform ต่างๆที่เป็นระบบหลังบ้าน ที่มีในตลาด นำมา Integrate เชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกัน - Data Innovation
นำฐานข้อมูลลูกค้ามาต่อยอดเป็น Data Model เพื่อเชื่อมโยงระบบ CRM และ Upsell
- Business Innovation
มีการใช้ E-commerce platform แบบ end to end ที่ดูแล Creator ให้ในทุกๆกระบวนการ - Operation Innovation
ทาง SHOPTER เน้นการจัดการแบบ Real time management ที่มี economy of speed & Scale ซึ่งเมื่อมีคำสั่งซื้อเกิดขึ้น ทาง SHOPTER จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลมาที่ระบบหลังบ้านเพื่อส่งคำสั่งซื้อ และคำสั่งผลิต ไปให้กับ Partner ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะใช้เวลาจัดส่งถึงมือลูกค้า ภายใน 2-3 วันทำการ
‘SHOPTER’ กับบริการที่อยากให้ทุกคน ‘ชอบ’ จริง ๆ
อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้น ว่า SHOPTER เป็น Ecommerce Solution ทั้งกับธุรกิจและกลุ่มครีเอเตอร์ ในรูปแบบ Revenue Sharing และจากความสำเร็จของ SOdA PrintinG ก็ทำให้ SHOPTER นำจุดแข็งต่าง ๆ ที่มีมากใช้ในการให้บริการทั้งกับกลุ่มธุรกิจและครีเอเตอร์
- Stores and channels
- Operational Service
- Integrated Best of Breed Software
- Proprietary Platform
ทาง SHOPTER จะมีช่องทางอีคอมเมิร์ซ และ WEBSHOP ให้แบบครบวงจร พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการขายต่าง ๆ ให้ด้วย ซึ่งในปัจจุบันก็มีทั้งเหล่าครีเอเตอร์ และ KOLs มาร่วมออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยมากมาย และยังมี AI Chatbot มาช่วยปิดการขายให้ง่ายมากยิ่งขึ้น และยังมี Live chat และ After sale support เพื่อช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า และยังช่วยให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการขายให้เติบโตยิ่งขึ้น พร้อม Complete Performance Marketing Solution แบบครบวงจร
นอกจากนี้ Innovation ทั้งหมด ที่ทาง SHOPTER ทำ จะมีการใช้เทคโนโลยีแบบแบบ Open Platform โดยนำ Open Platform ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในระบบ นำมา Integrate เข้าไว้ด้วยกัน และนำ Data ที่มีอยู่แล้วมาต่อยอดเป็น Model เพื่อสร้างยอดขายให้เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจ และครีเอเตอร์ โดยการสร้างแพลตฟอร์ม ให้บริการแบบ end to end ตั้งแต่ระบบคำสั่งซื้อ การชำระเงิน การผลิต การแพ็คสินค้า การจัดส่ง การตลาด และการบริหารข้อมูลสินค้า และระบบ CRM แบบ Real time management เพื่อให้เกิด Economy of Speed & Scale
ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือ แต่อยากข้ามอุปสรรคไปด้วยกัน
จากความมุ่งมั่นที่อยากจะสร้างโอกาสให้กับภาคธุรกิจและครีเอเตอร์ จึงนำมาสู่เป้าหมายครั้งใหญ่ของ SHOPTER ที่ต้องการช่วยแก้ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในภาคธุรกิจ และภาคบุคคลทั่วไปที่มีสินทรัพย์ออนไลน์ ให้เกิดเป็นทุน โดย SHOPTER จะเป็นตัวกลางที่ช่วยผสานระหว่างภาคธุรกิจกับครีเอเตอร์โดยที่น้องๆ Creator เหล่านี้จะขายสินค้าให้กับภาคธุรกิจแล้วได้รับค่า Incentive ซึ่งทำให้ทุกภาคส่วนสามารถเดินก้าวข้ามอุปสรรค และปัญหาต่างๆ ได้อย่างพร้อมกัน
ปัจจุบัน SHOPTER มีครีเอเตอร์ร่วมอยู่ประมาณ 35 แบรนด์ มีจำนวนสินค้าอยู่กว่า 500 SKU มีฐานกว่า 400,000 รายชื่อ ซึ่งภายในปีนี้ SHOPTER มองอัตราการเติบโตมากกว่า 2X เพราะว่า SHOPTER มีแบรนด์ที่เตรียมทำร่วมกับเราอีกประมาณ 70 แบรนด์ ส่งผลให้เพิ่มมาเป็น 100 จำนวน SKU เพิ่มขึ้นมาเป็น 1,000 ฐานเพิ่มขึ้นอีก 50,000 รายชื่อ ส่งผลให้ User เพิ่มขึ้น Revenues เพิ่มขึ้น
เมื่อมาลงรายละเอียดด้านของ Business Model และ Revenues Model ก็คือทางฝั่งของภาคธุรกิจ ที่จะได้รับยอดขายและช่องทางการขายที่มากขึ้น แต่ส่วนสำคัญคือภาคธุรกิจจะได้กองทัพทีม Sale และเหล่าครีเอเตอร์ และ KOLs ซึ่งจะช่วยขายของให้ภาคธุรกิจเปลี่ยนจาก Brand Like ให้เป็น Brand Love
ซึ่งปัจจุบัน SHOPTER ก็ได้เข้าร่วมโครงการของ AIS The StartUp ที่จะช่วยขยายการเติบโตทางธุรกิจ และโอกาสการเกิด Business และ Partnership ซึ่งช่วยในการตั้งเข็มทิศเข็มธุรกิจให้มุ่งหน้าไปในทิศทางที่เติบโตทั้งภายในและนอกประเทศ
อีกหนึ่งโอกาสทางความคิดจาก AIS The StartUp
ก่อนหน้านี้ SHOPTER อาจจะไม่มี Business Model และ Scope การทำงานที่ชัดเจน มีเพียงเป้าหมายที่ต้องการช่วยเหลือสังคมและภาคธุรกิจให้รอดวิกฤตนี้ไปด้วยกัน ดังนั้นการมาเข้าร่วมกับ AIS The StartUp จึงเป็นเหมือนโอกาสหนึ่งที่ SHOPTER ได้รับ และได้พัฒนาความคิดทางอากาศ ให้กลายเป็นโอกาสใหม่ ๆ ของตัวเอง
หลังจากได้เข้ามาร่วมกับ AIS The StartUp จะมีทีม mentor เข้ามาให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Business Model ทั้งในเรื่องการทำงาน และการสื่อสาร ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นและเข้ามาช่วยส่งเสริม เติมเต็มในเรื่องต่างๆ อีกทั้งยังช่วยมองหาโอกาสใหม่ๆให้กับธุรกิจเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทาง SHOPTER ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมโครงการ AIS The StartUp ได้ที่ https://www.ais.th/thestartup/index.htm
- SHOPTER เป็นสตาร์ทอัพไทย ที่ให้บริการ Ecommerce Solution ทั้งกับธุรกิจและกลุ่ม KOLs ในรูปแบบ Revenue Sharing
- จุดเริ่มต้นมาจากการมองเห็นปัญหาของกลุ่ม Micro Influencer จึงต้องการมอบโอกาส และให้คนกลุ่มนี้ได้สร้างอาชีพ เปลี่ยนสินทรัพย์ออนไลน์ให้กลายเป็นรายได้ที่มั่นคงมากขึ้น
- Business Model ของ SHOPTER คือต้องการให้ทุกฝ่าย WIN-WIN ทั้งฝั้งภาคธุรกิจ, KOLs และ SHOPTER เอง
- ปัจจุบัน SHOPTER ได้นำ Open Innovation เดิมที่มีอยู่มาต่อยอดทั้งการนำ Data Model ที่มีอยู่แล้วมาต่อยอด หรือแม้แต่การเอา Open platform ต่างๆในตลาด นำมา Integrate
- เป้าหมายสำคัญคือการแก้ Pain Point ของทั้งภาคธุรกิจและครีเอเตอร์ คือธุรกิจไม่มีทีม Sale ในการช่วยขาย ทางฝั่งครีเอเตอร์เองก็อยากขายสินค้าเช่นกัน แต่ไม่รู้จะขายอะไรดี
- การเข้ามาร่วมกับ AIS The StartUp ทำให้ภาพของ Business Model ทั้งในเรื่องการทำงาน และการสื่อสาร ให้ชัดเจน และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
sources:
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/924153
https://prachatai.com/journal/2021/02/91582