หลายคนอาจรู้สึกว่า ‘เป้าหมาย’ คือปลายทาง แต่ในบางครั้งเป้าหมายนั้นกลับกลายเป็น ‘จุดเริ่มต้น’ ที่ทำให้เราได้พบเป้าหมาย หรือเส้นทางใหม่ๆ ที่ต่างไปจากเดิม
Infographic Thailand คือแบรนด์หนึ่งในไทยที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการทำอินโฟกราฟิก สื่อสารออกมาในรูปแบบต่างๆ มานานกว่า 8 ปี นอกจากนี้ยังพัฒนาต่อยอดไปสู่การทำคอร์สเรียนออนไลน์ และการนำเทคโนโลยีอย่าง VR มาใช้ในการเทรนนิ่งอีกด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ทาง Infographic Thailand ก็ได้รับรางวัล ‘Bronze Winner’ สาขา Branded Content – Craft 2D Animation จากงาน The Telly Awards ครั้งที่ 42 ซึ่งเป็นหนึ่งในหนึ่งในรางวัลที่เป็นที่น่าจับตาในวงการสื่อVDOทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตัดสินโดยสมาชิกของ Telly Awards Judging Council ซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำในอุตสาหกรรม แบ่งรางวัลเป็นระดับ Gold, Silver และ Bronze ตามระดับคะแนน
และก่อนหน้านี้ยังได้รับรางวัล Award of Distinction ประเภท Commercials สาขา Craft Categories – Use of Animation จาก The Communicator Awards เป็นรางวัลยกย่องความเป็นเลิศ และนวัตกรรมในทุกด้านของการสื่อสารระดับนานาชาติ ตัดสินโดย Academy of Interactive & Visual Arts (AIVA) ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าจากสื่อการสื่อสารการโฆษณาที่มีชื่อเสียง เช่น Amazon, Big Spaceship, Disney, IBM, The Nation of Artists, Spotify, Time
“จากความพยายามตลอด 8 ปี สู่จุดเริ่มต้นของฝันครั้งยิ่งใหญ่ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?”
วันนี้ Future Trends เลยถือโอกาสชวนคุณกมลทิพย์ ปิ่นนิล หรือคุณนก Motion Director Infographic Thailand มาร่วมพูดคุยกันถึงเบื้องหลังการทำงานด้านการสื่อสาร รวมไปถึงเทคนิคการทำอินโฟกราฟิกที่ผู้อ่านสามารถหยิบไปลองใช้กับงานของตัวเองเพิ่มเติมได้อีกด้วย
อะไรเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การคว้ารางวัลระดับโลก
ต้องเล่าก่อนว่าที่ Infographic Thailand เราทำงานกันมาหลายรูปแบบทั้งงาน Always-on และงานที่ทำให้กับลูกค้า คือไม่ใช่แค่มอบหมายชิ้นงานแต่ยังเปนที่ปรึกษาในการหาแนวทางแก้ปัญหา (solution) ที่ตอบโจทย์กับการสื่อสารที่สุดด้วย
ทีนี้ทุกการทำงานของทีมจะมีการตั้ง ‘OKR’ หรือ objective key result ขึ้นมา หนึ่งในนั้นคือทีมอยากที่จะให้งานได้เป็นที่ยอมรับระดับโลก เราก็เลยมองหาเวทีประกวดดูเพื่อพิสูจน์ว่าเราสามารถไปได้ไกลขึ้น ทำงานในระดับโลกได้ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย และฝันครั้งใหญ่ของเราก็เข้าใกล้มากขึ้นเมื่อได้ส่งผลงานไปประกวดในงาน The Telly Awards และงาน The Communicator Awards ที่คนในวงการก็ต่างให้กันยอมรับกับสองรางวัลนี้
ผลงานที่ได้จาก The Telly Awards มีที่มาที่ไปอย่างไร
รางวัลที่เราได้รับคือรางวัลระดับ Bronze ในหมวด Branded Content – Craft 2D Animation ทีมได้ส่งงานของ ‘คาเฟ่ อเมซอน’ เป็นรูปแบบ Video Wall ความยาว 7 เมตรที่เปิดในคาเฟ่ อเมซอนสาขาสามย่าน โดยงานชิ้นนี้ต้องการที่จะนำเสนอว่าในคาเฟ่ อเมซอนนั้นมีการนำวัสดุเหลือใช้ มาใช้ในการตกแต่งร้าน ทั้งในส่วนของผนัง เพดาน หรือจุดประดับตกแต่งต่างๆ โดยเล่าเรื่องผ่านขบวนพาเหรดน้องสัตว์จากคาเฟ่ อเมซอน
เหตุผลที่ทีมเลือกส่งผลงานนี้เพราะมองว่าเรื่องสิ่งแวดล้อม หรือ Ecosystem มันเป็นเมกะเทรนด์ ที่ไม่ใช่แค่คนไทยรู้จัก แต่ต่างชาติก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เหมือนกัน สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่างานของเราแตกต่างก็คืองานของเราเป็น Video Wall ที่ผลงานที่ออกมาการสื่อสารต่างๆ มัน Related กับการใช้งานจริงๆ
เรารู้สึกว่างานนี้มันเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นความตั้งใจทีมที่อยากจะเติบโตไปในระดับโลกมากขึ้น อยากจะขยายการทำงานอินโฟกราฟิกนี้ออกไป อยากจะเห็นงานที่เป็น Master Piece มากขึ้นไปอีก
กว่าจะมาเป็นงานนี้ ผ่านกระบวนการอะไรมาบ้าง
“Educate เกี่ยวกับวัสดุและกระบวนการ Recycle รวมถึงพลาสติกทางเลือก (Bio) โดยต้องเข้าใจง่าย และเข้าถึงได้ง่าย” อันนี้คือหนึ่งในเป้าหมายที่ได้รับมา ต้องเล่าก่อนว่าทางคาเฟ่ อเมซอนเองก็มีความตั้งใจที่อยากจะชูในเรื่องของการพัฒนาเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ภายใต้สโลแกน “Taste of Nature”
อันที่ได้เห็นก็ไม่ใช่ไอเดียแรกที่ได้กันมา แต่มันผ่านครีเอทมาแล้วมากมายร่วมกับเอเจนซี่อีกแห่งหนึ่งด้วย ไม่ว่าจะเป็นไอเดีย Circular of living, REBORN หรือ Discovered 7 wonders ในที่สุดก็มาจบที่การ Amazon Carnival เป็นการเฉลิมฉลองที่คาเฟ่ อเมซอนที่เปลี่ยนวัสดุให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แล้วแทรกความ Celebrate เข้าไป เพื่อเพิ่มความสนุก ความครึกครื้นมากกว่า เพราะถ้าพูดเรื่อง Recycle อย่างเดียวมันก็จะน่าเบื่อ ซึ่งพอผ่านกระบวนการครีเอทีฟต่างๆ มาแล้วก็จะนำมาสู่วางสตอรี่บอร์ด และสร้างโมชั่นกราฟิกออกมา ร่วมเดือนกว่างานจะเสร็จสิ้นออกมาจนเป็นผลลัพธ์อย่างที่เราตั้งใจไว้
แล้วสำหรับงานของฝั่ง The Communicator Awards แตกต่างจาก Amazon อย่างไรบ้าง
แตกต่างหมดเลย แต่กระบวนการทำงานเหมือนกัน สำหรับทีมความยากของงานแต่ละชิ้นมันคือการย่อยข้อมูลยากให้เข้าใจง่าย และมองหารูปแบบการนำเสนอที่จะตอบโจทย์ลูกค้า สื่อสารออกไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด
งานนี้เป็นงานสื่อสารผลิตภัณฑ์กันลื่น ลดอุบัติเหตุของจระเข้ เราก็เลยสื่อสารว่าการอยู่ในบ้านก็สามารถที่จะเกิดอุบัติเหตุได้นะไม่ว่าคุณจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ นอกจากนั้นยังนำคล้องจองมาเล่นเพื่อให้เนื้อหามันดูสนุกมากขึ้น คือคำว่า Rock, Jog, Watch, Vlog ของคนสี่วัย คือไม่ใช่แค่ขายผลิตภัณฑ์อย่างเดียว แต่เราพยายามเข้าใจ Insight ของกลุ่มเป้าหมายด้วย
ความยากของงานชิ้นนี้คือการครีเอทีฟในทุกๆ ขั้นตอน เพราะว่านอกจากการคิดคำคล้องจองที่ว่ามาแล้ว การออกแบบภาพ และการเคลื่อนไหวให้ดู Flow ก็สำคัญไม่แพ้กัน
การจะปั้นอินโฟกราฟิกสักชิ้นต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
การทำอินโฟกราฟิกต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง ต้องรู้จักผู้ฟัง ผู้ดูของเราด้วย เพราะการสื่อสารมันต้องมีทั้งคนพูดและคนฟัง ถ้าเราบอกข้อมูลของเราฝ่ายเดียวการสื่อสารที่ออกไปมันก็จะไม่มีประสิทธิภาพ
“หัวใจของการทำงานคือต้องเข้าใจคนดู ทำเรื่องให้ใกล้ตัวเพื่อสื่อสารเรื่องยากให้เข้าใจง่าย”
เทคนิคในการทำอินโฟกราฟิกให้มีประสิทธิภาพคืออะไร
เราในฐานะคนทำอินโฟกราฟิกก็หา insight หรือทำความเข้าใจว่าผู้ฟังนั้นมีความสนใจเรื่องอะไร ชอบอะไร มีประสบการณ์ร่วมกับอะไรบ้าง แล้วค่อยใส่ข้อมูลที่เราอยากสื่อสารเข้าไปโดยการสื่อสารด้วยภาพ และตัวอักษร ซึ่งทั้งหมดก็ต้องออกแบบให้เข้าใจง่าย มี Mood&Tone ที่สื่อความหมายได้ชัดเจน
เทคนิคที่แนะนำมี 2 ข้อหลักๆ
1. ทำเรื่องที่ใกล้ตัว หา Insight ของคนดูคนฟังให้เจอ
2. เลือกภาพ กราฟิก ฟอร์แมตต่างๆ ที่เหมาะกับการสื่อสารในเรื่องนั้นๆ ที่สื่อสารได้อย่างชัดเจน
ก้าวต่อไปของอินโฟกราฟิกในโลกยุคใหม่ จะเป็นอย่างไร
ต้องบอกว่าอินโฟกราฟิกได้รับความนิยมมากในปัจจุบันทั้งในวงการการตลาด และวงการสื่อสารต่างๆ เพราะอินโฟกราฟิกเป็นเหมือนรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้การสื่อสารเรื่องยากเข้าใจง่ายมากขึ้น เปลี่ยนข้อมูลที่ดูไม่น่าสนใจให้สวยงามเกิดการเรียนรู้ที่รวดเร็วมากขึ้น
“เราอยู่ในยุคที่ข้อมูลเยอะ เวลาคนก็เร่งรีบการจะอ่านอะไรยาวๆ เป็นเรื่องยาก การย่อยข้อมูลให้ง่ายจึงสำคัญมากกับการทำอินโฟกราฟิก”
อินโฟกราฟิกจะเข้ามามีบทบาทในอนาคตมากขึ้น เพราะคนชอบอะไรที่ง่ายๆ เข้าใจเร็ว ดูแล้วสนุกได้ความรู้ และในอนาคตอินโฟกราฟิกยังสามารถพัฒนานำหลักการของอินโฟกราฟิกไปใช้กับเทคโนโลยีการสื่อสารอื่นๆ ในอนาคตได้อีก เช่น VR/AR Training ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นอีกแน่นอน
ดูผลงานเพิ่มเติมของ Infographic Thailand ได้ที่ FB Infogrpahic Thailand Production
ติดต่อผลิต Motion Infographic คุณภาพเเบบนี้ได้ที่่ : https://bit.ly/infothcontactrewardar