“ดิจิทัลคอมเมิร์ซ” กับโลกอนาคตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อัปเดตเทรนด์และแชร์ไอเดียในงาน ‘Brands Future Forum 2021’ โดย Lazada

Share

เมื่อพูดถึงอีคอมเมิร์ซหรือการซื้อขายออนไลน์เชื่อว่า ทุกคนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในยุคโควิด-19 แบบนี้ที่มีประเด็นน่าสนใจเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับทิศทางและการเติบโตของเทรนด์อีคอมเมิร์ซ ‘Lazada’ ในฐานะแพลตฟอร์มยืนหนึ่งเรื่องการซื้อขายออนไลน์ที่ทุกคนรู้จักกันดีก็ได้มีการอัปเดตเทรนด์น่ารู้ต่างๆ ในโลกอีคอมเมิร์ซ และนำมาแลกเปลี่ยนในงาน ‘Brands Future Forum 2021’

สำหรับงาน Brands Future Forum (BFF) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นการจัดงานนี้เป็นครั้งที่ 2 และยังตรงกับวันครบรอบ 3 ปี ของ LazMall ห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บนลาซาด้า ที่รวบรวมแบรนด์สินค้าชั้นนำทั้งแบรนด์ในระดับท้องถิ่นและแบรนด์ดังระดับโลก โดยงาน BFF ครั้งนี้นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของ LazMall ขึ้นไปอีกขั้นด้วยการพาเราไปอัปเดตเทรนด์และร่วมรับฟังไอเดียจากผู้เชี่ยวชาญดีกรีเจ้าของแบรนด์ในระดับแถวหน้าที่ได้มาแลกเปลี่ยนมุมมองในการทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ธีม ‘Rising to the Future: Southeast Asia’s Digital Commerce’

เส้นทางการเติบโตและปรับตัวของ Lazadaในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

ในช่วงปีที่ผ่านมาทุกคนคงรู้กันดีว่า เราต้องเจอความท้าทายกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผู้คนต้องปรับตัวและเรียนรู้เพื่อรับมือกับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น และนั่นส่งผลให้มีการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ โดยลาซาด้านั้นก็มีหมัดเด็ดของความเป็นอีคอมเมิร์ซ ทั้งด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี รวมถึงการสร้างประสบการณ์ซื้อขายให้กับลูกค้าบนแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนในการปรับโฉมของวงการอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง

ในงานเสวนานี้ ลาซาด้าเผยข้อมูลว่า มีลูกค้าหน้าใหม่หลายล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่หันมาช้อปบนแพลตฟอร์มออนไลน์กันมากขึ้น นี่จึงถือเป็นทิศทางใหม่ที่ทำให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซก้าวไปอีกขั้น ซึ่งลาซาด้าเองมีผู้ใช้งานมากกว่า 110 ล้านคนต่อปี และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยจำนวนผู้ใช้เฉลี่ยมากกว่า 150 ล้านคนต่อเดือน โดยผู้ใช้งานยังมีการทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้าเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นับเป็นสัญญาณการเติบโตครั้งใหญ่ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

นอกจากนั้น ยังมีการอ้างอิงถึง Digital Commerce Confidence Index ซึ่งเป็นผลการศึกษาด้านทัศนคติของแบรนด์และผู้ขาย ได้เผยข้อมูลว่ามีผู้ขายของออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 70% ที่มั่นใจว่าแบรนด์จะมีโอกาสเติบโตบนช่องทางออนไลน์ในช่วงสามเดือนข้างหน้า โดยการที่ร้านค้าต่างปรับตัวครั้งใหญ่ขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์เช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์ต่างๆ ต้องตามเทรนด์อีคอมเมิร์ซให้ทันเพื่ออยู่รอดและเติบโตในยุคใหม่

หลัก 3 ข้อของ Lazada ที่ช่วยให้แบรนด์เติบโตมาโดยตลอด

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเส้นทางธุรกิจของลาซาด้าถึงได้พุ่งทะยานขึ้นเรื่อยๆ โดยหลังจากเข้าร่วมงาน BFF 2021 เราก็ได้เข้าใจเบื้องหลังความสำเร็จของลาซาด้าที่ทำให้มีหลายแบรนด์อยากเข้าร่วมและเติบโตไปพร้อมกัน โดยลาซาด้าให้ความสำคัญใน 3 ด้าน ดังนี้

1. ช่วยให้แบรนด์บริหารจัดการการมีส่วนร่วมของลูกค้าบนแอปพลิเคชัน

การเพิ่มประสิทธิภาพระบบแพลตฟอร์มออนไลน์ถือเป็นจุดแข็งที่ลาซาด้าพัฒนามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นความสะดวก ใช้งานง่าย แถมยังช่วยสร้างการเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์เข้ากับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการขายได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์อีกด้วย

2. แบรนด์ต่างๆ สามารถบริหารจัดการและเติบโตบนช่องทางอีคอมเมิร์ซของลาซาด้า

ลาซาด้าได้เดินหน้าพัฒนาโซลูชันการขายแบบองค์รวม โดยใช้หลากหลายโมเดลของอีคอมเมิร์ซที่คัดสรรมาให้เหมาะกับแบรนด์สินค้าแต่ละประเภท ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถจัดการหรือร่วมพัฒนาหน้าร้านไปกับพาร์ทเนอร์ของลาซาด้าได้ หรือจะเลือกใช้ประโยชน์จากเครื่องมือต่างๆ เช่น การโปรโมทผ่านพาร์ทเนอร์ (Sponsored Affiliates) การโปรโมทผ่านลาซาด้า (Sponsored Discovery) การจัดวางสินค้าตามลำดับความสำคัญ และอัลกอริทึมอัจฉริยะที่ช่วยให้แต่ละแคมเปญมีสินค้าในราคาที่เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นตามความต้องการของธุรกิจ

3. สร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า

ประสบการณ์ของลูกค้าในช่วงการตัดสินใจซื้อถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อก่อนนักช้อปอาจตัดสินใจซื้อจากราคาสินค้าที่ไม่แพงเป็นหลัก แต่ปัจจุบันผู้ใช้บริการต้องการอะไรมากกว่าเรื่องของราคาสินค้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งลาซาด้าก็พิสูจน์ให้เห็นว่าแบรนด์สามารถมัดใจลูกค้าได้ทั้งในด้านการบริการ ความสะดวกในการซื้อ และการจัดส่งของที่ถูกต้องแม่นยำ เมื่อขายสินค้าบนลาซาด้า

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า ลาซาด้าใส่ใจกับคุณภาพการให้บริการทั้งกับลูกค้าและแบรนด์พาร์ทเนอร์ จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมลาซาด้าถึงได้ขึ้นแท่นเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซลำดับต้นๆ ของภูมิภาคมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

ไม่มีโซลูชันสำเร็จรูปที่แก้ไขได้ทุกปัญหา” อีคอมเมิร์ซกับทิศทางอนาคตในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน

หนึ่งในประเด็นน่าสนใจในหัวข้อการเสวนาครั้งนี้คือการตั้งคำถามว่า การเติบโตของอีคอมเมิร์ซจะเป็นอย่างไรต่อไปหากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ้นสุดลง? และยอดขายที่ดีบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในช่วงนี้จะยังดีอยู่หรือไม่หากเราต้องกลับไปซื้อขายออฟไลน์แบบเดิม

คำตอบที่เราได้จากการเสวนาครั้งนี้คือ “ไม่มีโซลูชันสำเร็จรูปที่แก้ไขได้ทุกปัญหา” เพราะไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนทุกคนต่างอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนกันอยู่แล้ว ปัญหาโควิด-19 จึงไม่ใช่แรงเสียดทานเดียวที่ผู้ประกอบการต้องพบเจอ เพราะในเส้นทางธุรกิจเราต่างอยู่ในกระแสน้ำเชี่ยวที่มีทั้งปัญหาด้านการบริหารงบ การใช้ทรัพยากร การสรรหาบุคลากร และอื่นๆ อีกมากมายที่คงไม่มีสูตรสำเร็จใดมาช่วยแก้ปัญหา ดังนั้นการมีวิชั่นและชั่วโมงบินจึงถือเป็นฐานสำคัญในการฝ่าฟันปัญหาต่างๆ

สำหรับปี 2022 ที่จะมาถึงนี้ ลาซาด้าก็จะฉลองครบรอบ 10 ปี ซึ่งทางลาซาด้าก็มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะสามารถก้าวไปข้างหน้าร่วมกันกับแบรนด์พาร์ทเนอร์โดยการใช้องค์ความรู้และเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้นด้วยเหตุผลดังนี้

ธุรกิจค้าปลีกจะเติบโตขึ้น

แม้ว่าเราจะเห็นการชะลอตัวเล็กน้อยจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มีการเติบโตของ GDP ที่สูงขึ้น ซึ่งการเติบโตดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้คนมีกำลังในการจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น และแน่นอนว่าจะทำให้การค้าปลีกโดยรวมเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน โดยลาซาด้ายังเสริมความมั่นใจอีกว่า การค้าปลีกจะเติบโตทะลุเป้าอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโต 5% ต่อปี ไปจนถึงปี 2025 อย่างแน่นอน

แบรนด์ชั้นนำจะเติบโตขึ้นด้วย

เศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคมีความรู้ด้านดิจิทัลและให้ความสำคัญต่อแบรนด์มากขึ้นตามไปด้วย สัดส่วนของธุรกิจการค้าปลีกก็จะมีแบรนด์ชั้นนำเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยตอนนี้แม้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีร้านค้าปลีกที่เป็นแบรนด์ดังเพียงครึ่งหนึ่งของอุตสาหกรรมสินค้า แต่แนวโน้มในอนาคตก็จะมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากแบรนด์ต่างๆ ที่เริ่มมองเห็นโอกาสและมาเข้าร่วมกับลาซาด้า

ยอดขายออนไลน์จะยังคงเพิ่มขึ้น

การขายสินค้าออนไลน์จะมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แม้ในปัจจุบันสัดส่วนของการค้าปลีกออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีเพียง 7% เท่านั้น แต่เราเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตจากประเทศจีนซึ่งมีธุรกิจค้าปลีกครองสัดส่วนอยู่ที่ 26% นั่นแปลว่า มีสินค้าอุปโภคบริโภคหลักในประเทศจีนมากกว่า 50% ที่ขายอยู่บนช่องทางออนไลน์ จึงเห็นได้ชัดว่าสินค้าที่ขายผ่านออนไลน์ไม่ได้มีแนวโน้มลดลงเลย

การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้นไม่ได้เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เทรนด์การขายของทางแพลตฟอร์มออนไลน์เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งและหายไป แต่มันเป็นเชื้อไฟที่ทำให้เกิดการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์เร็วขึ้นต่างหาก ซึ่งเมื่อเกิดการเริ่มต้นที่เร็วขึ้น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซก็มีการพัฒนาที่เร็วขึ้นตามไปด้วย

‘Lazada’s LazMall BFF Awards 2021’ การให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่เข้าร่วมเพื่อเติบโตไปพร้อมกัน

อีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน Brands Future Forum 2021 คือ การมอบรางวัลสุดยอดแบรนด์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในชื่อ ‘Lazada’s LazMall BFF Awards 2021’ ซึ่งมอบรางวัลยอดเยี่ยมในด้านต่างๆ ให้กับแบรนด์ที่แสดงความสามารถในการปรับตัว ประยุกต์ใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจ รวมถึงการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการจัดกิจกรรม และสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ให้กับลูกค้า ซึ่งผู้ได้รับรางวัลในปีนี้ ก็ได้แก่

  • LazMall Brand of the Year: รางวัลสุดยอดแบรนด์แห่งปี นั่นคือ Estée Lauder
  • LazMall Rising Star Award: รางวัลแบรนด์ LazMall มาแรง ที่แบรนด์กระเป๋าผู้หญิงอย่าง Coach ได้ไปครอง
  • Best New Brand Launch Award: รางวัลแบรนด์ใหม่ยอดเยี่ยม ตกเป็นของ Nike
  • Best Brand Partnership Award: รางวัลแบรนด์พันธมิตรยอดเยี่ยม ได้แก่ Samsung
  • Best New Product Launch Award: รางวัลผลิตภัณฑ์ใหม่ยอดเยี่ยม ที่แบรนด์ Lancôme ได้รับจากสินค้า Lancôme Advanced Génifique Youth Activating Concentrate สกินแคร์ยอดนิยมของสาวๆ ทุกวัย
  • LazMall Marketing Excellence Award: รางวัลกิจกรรมการตลาดยอดเยี่ยมกับแบรนด์ Shiseido
  • LazMall Innovation Excellence Award: รางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยม ที่แบรนด์ Starbucks ได้ไป
  • Lazada Partner Award: รางวัลพาร์ทเนอร์ดีเด่นกับ Synagie
  • Best Use of Lazada Sponsored Solution Award: รางวัลการใช้เครื่องมือโปรโมทสินค้ายอดเยี่ยม ที่แบรนด์ L’Oréal ได้รับในการใช้ L’Oréal Consumer Products Division

ส่วนประเทศไทยเราเองก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน เพราะเราได้จัดให้มีการมอบรางวัลแบรนด์ขวัญใจมหาชนหรือ The LazMall People’s Choice! ประจำปี 2021 โดยแบรนด์ที่ได้รับการโหวตสูงสุดสำหรับประเทศไทย แบ่งรางวัลเป็นหมวดหมู่ได้ดังนี้

  • หมวดผลิตภัณฑ์ความงาม ได้แก่ LISTERINE
  • หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ TCL
  • หมวดแฟชั่น ได้แก่ FITFLOP
  • หมวดบ้านและไลฟ์สไตล์ ได้แก่ LocknLock
  • หมวดสินค้าแม่และเด็ก ได้แก่ Hi-Q1 Plus

สำหรับงาน Brands Future Forum 2021 นอกจากเราจะได้อัปเดตเทรนด์ของอีคอมเมิร์ซและไอเดียด้านธุรกิจแล้ว การจัดงานมอบรางวัลให้กับแบรนด์ต่างๆ ก็ถือเป็นการสร้างความแน่นแฟ้นระหว่างลาซาด้ากับแบรนด์พาร์ทเนอร์ ซึ่งนับเป็นอีกพันธกิจสำคัญของการจัดงานนี้

ทั้งนี้ทางลาซาด้าเองก็มีการวางแผนที่จะขยายความร่วมมือทางธุรกิจในปี 2022 ที่จะเริ่มขึ้นเร็วๆ นี้ นี่ยิ่งเป็นการตอกย้ำพันธกิจของลาซาด้าในการให้ความสำคัญกับแบรนด์ต่างๆ พร้อมเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงแบรนด์ให้ใกล้ชิดนักช้อปยิ่งขึ้น พร้อมจับมือเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งไปพร้อมกัน