ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีได้เข้ามาดิสรัปชันในทุกวงการไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมการเงินการลงทุนทำให้คนยุคใหม่หันมาลงทุนในหุ้นกันมากขึ้น แต่ด้วยการแข่งขันอันดุเดือดก็ทำให้รายได้ของบริษัทหลักทรัพย์หรือผู้ประกอบการโบรกเกอร์กลับปรับตัวลดลง เนื่องจากต้องฟาดฟันกันด้วยค่าธรรมเนียมเพื่อที่จะดึงดูดใจนักลงทุนให้เข้ามาใช้บริการ แต่ความน่าสนใจก็คือยังมีหนึ่งโบรกเกอร์ที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์นี้
เขาคือใคร และเพราะอะไรจึงสามารถเติบโตสวนทางกระแสตลาดได้ วันนี้ Future Trends จะพาไปทำความรู้จัก พร้อมถอดรหัสความสำเร็จ เรียนรู้มุมมองที่ทั้งคนทำธุรกิจและคนทำงานสามารถนำไปปรับใช้ได้กับการพัฒนางานและพัฒนาตัวเอง
ทำความรู้จัก บล. Zcom โบรกเกอร์ออนไลน์ที่เติบโตอย่างน่าจับตามอง
‘บล. Zcom’ หรือชื่อเต็มคือ บริษัท หลักทรัพย์ จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2559 เป็นบริษัทในเครือจีเอ็มโอ อินเทอร์เน็ต อิ๊งค์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ซึ่งถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ต และบริการธุรกรรมการเงินบนอินเทอร์เน็ต ด้วยประสบการณ์ด้านออนไลน์โบรกเกอร์มากกว่า 10 ปี ทำให้ได้รับการยอมรับไปทั่วภูมิภาคเอเชีย
บริการของ บล. Zcom หลักๆ คือการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านทางออนไลน์ โดยแบ่งบริการออกเป็น 2 ประเภทบัญชี ได้แก่
‘บัญชีแคชบาลานซ์’ ที่ลูกค้าสามารถซื้อหลักทรัพย์ได้เมื่อวางเงินสดเต็มจำนวนเป็นหลักประกัน จากนั้น จึงจะมีอำนาจซื้อหลักทรัพย์ตามมูลค่าเงินประกันที่วางไว้ และอีกประเภทคือ ‘บัญชีเครดิตบาลานซ์’ หรือบัญชีมาร์จิ้น บัญชีประเภทนี้ลูกค้าสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้ โดยวางเงินหรือหลักทรัพย์ประกันส่วนหนึ่งตามที่บริษัทฯ กำหนด เหมือนกับการกู้เงินเพื่อไปลงทุนโดยไม่มีอัตราขั้นต่ำในการกู้ยืมนั่นเอง
จุดเด่นของ บล. Zcom นอกจากการเป็น Pure Online Broker 100% ที่ลูกค้าสามารถซื้อขายหลักทรัพย์เสร็จผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกรวดเร็วแล้ว ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์คือ จำนวนหุ้นที่สามารถซื้อได้ในบัญชีมาร์จิ้นที่มีมากกว่า 790 ตัว (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 2565) ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะครอบคลุมทั้งหมดในตลาดเลยทีเดียว
หลังจากรู้จักกันมาบ้างแล้ว ต่อไปเราจะพาไปถอดบทเรียนกันว่า อะไรทำให้โบรกเกอร์ออนไลน์แห่งนี้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
4 ปัจจัยที่ บล. Zcom ครองใจนักลงทุนยุคใหม่
1. มองเห็นโอกาสที่แตกต่างออกไป
จริงๆ แล้วจุดเริ่มต้นของบล. Zcom แห่งนี้ เกิดจากการที่บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นมองเห็นว่า บริษัทหลักทรัพย์ในไทยยังไม่มีใครที่โฟกัสการให้บริการบัญชีมาร์จิ้นเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่มักแข่งขันกันที่ค่าธรรมเนียมมากกว่า ตรงนี้เองที่เป็นช่องว่างแห่งโอกาสและการเติบโต ด้วยเหตุนี้ทำให้ บล. Zcom มีแนวทางที่ชัดเจนในการเน้นบริการประเภทบัญชีมาร์จิ้น และมีเป้าหมายมุ่งป็นอันดับหนึ่งของผู้ให้บริการด้านบัญชีมาร์จิ้นในธุรกิจหลักทรัพย์ของไทย
และเมื่อมาดูที่โครงสร้างรายได้ของบริษัทก็จะเห็นว่าแตกต่างจากบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ ในไทย โดย 90% ของรายได้มาจากดอกเบี้ยให้กู้ยืมสำหรับลูกค้าบัญชีมาร์จิ้น และอีก 10% มาจากค่าธรรมเนียม การมองให้ต่างและสร้างเป็นโอกาส ทำให้บล. Zcom สามารถขยายฐานลูกค้าบัญชีมาร์จิ้นได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมียอดกู้ยืมเพื่อซื้อสินทรัพย์คงค้าง (Margin Loan Outstanding) สูงถึง 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 83.6% ในรอบปีที่ผ่านมา
2. ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทุกกลุ่ม
ไม่ใช่แค่ลูกค้าประเภทบัญชีมาร์จิ้นเท่านั้น แต่บล. Zcom ยังตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ด้วยความที่เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ 100% ทำให้ได้เปรียบในด้านต้นทุน ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมถูกลง รวมถึงลูกค้ามาร์จิ้นก็ยังได้รับอัตราดอกเบี้ยที่น่าพึงพอใจ แถมยังไม่มีการปรับเพิ่มแม้ไม่มีการเทรดอีกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ได้ทั้งนักลงทุนระยะสั้นและระยะยาวเลยทีเดียว
และอย่างที่เล่าไปก่อนหน้าว่า ด้วยความที่บริษัทเน้นรายได้จากบัญชีมาร์จิ้นเป็นหลัก ทำให้แม้ว่าค่าธรรมเนียมจะถูก แต่บริษัทก็ยังสามารถเติบโตได้ ในขณะเดียวกันลูกค้าก็แฮปปี้ ทั้งยังมีบริการให้ความรู้ด้านการลงทุน และมีการจัดอบรมสัมมนาให้กับลูกค้าอยู่ตลอด
3. ระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ
อีกหนึ่งจุดแข็งของเขา คือการมีบริษัทแม่ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านธุรกรรมการเงินบนอินเทอร์เน็ต ทำให้บล. Zcom ใช้ระบบเทคโนโลยีที่พัฒนาจากประเทศญี่ปุ่น และนำมาปรับให้เข้ากับบริบทการลงทุนในไทย อย่างระบบคัดเลือกเกรดหุ้นในบัญชีมาร์จิ้น ที่ออกแบบระบบให้สามารถประเมินเลือกหุ้นได้ด้วยปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค
อีกทั้งยังมีแนวทางการวิเคราะห์รูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ อย่าง ‘Auditor’s Opinion’ หรือการให้ความเห็นโดยผู้ตรวจสอบบัญชี และมีการประเมินหุ้นแบบรายวัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก แต่ทว่าการประเมินรายวันนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนแต่อย่างใด
4.รากฐานที่แข็งแรงและความน่าเชื่อถือ
ข้อสุดท้าย เป็นเรื่องของพื้นฐานที่แข็งแรง ซึ่งสำคัญมากกับการเป็นบริษัทหลักทรัพย์ เพราะความแข็งแรงส่งผลต่อความเชื่อมั่นและไว้วางใจของเหล่านักลงทุน แน่นอนว่า จากชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น บวกกับความสามารถในการดำเนินงาน ทำให้บล. Zcom ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี ทั้งจากบริษัทแม่และธนาคารพันธมิตรในไทย ทำให้บริษัทมีฐานทุนที่แข็งแรง และมีความสามารถในการขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
และนอกจากทั้ง 4 ปัจจัยที่กล่าวมาแล้ว เราอยากพาไปดูต่อว่า จากมุมของโบรกเกอร์ เขามองเทรนด์การลงทุนยังไง และปรับตัวอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
อนาคตการลงทุนจากมุมมองบล. Zcom นักลงทุนยุคใหม่พร้อมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น
ด้วยค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อ ลำพังผลตอบแทนจากการฝากเงินหรือการลงทุนในพันธบัตร อาจไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณอีกต่อไป ทำให้ผู้คนต้องมองหาทางเลือกใหม่ๆ ในการลงทุนเพื่อให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น โดยส่วนมากนักลงทุนหน้าใหม่ที่อายุยังน้อย คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มรับความเสี่ยงได้สูง (Risk Lover) ตรงจุดนี้ทำให้บล. Zcom มองว่า เทรนด์การลงทุนในไทยนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะพร้อมรับความเสี่ยงที่สูงมากขึ้น
เพื่อให้เติบโตได้ในระยะยาว บล. Zcom จะปรับตัวและรับมืออย่างไร?
เมื่อเทรนด์การลงทุนมีทิศทางเปลี่ยนไปเช่นนี้ ทางบล. Zcom ก็ได้มีการเตรียมพร้อมปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุน ด้วยการใช้จุดแข็งด้านระบบเทคโนโลยี และทีมงานที่พร้อมพัฒนาคุณภาพบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนอยู่เสมอ รวมถึงการเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ ทำให้ตอบโจทย์นักลงทุนรุ่นใหม่ที่เน้นการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านทางออนไลน์เป็นหลักได้ ซึ่งถือเป็นอีกจุดสำคัญที่ทำให้เขามีความมั่นใจว่า บริษัทจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ บล. Zcom ก็ยังคงมุ่งมั่นทำตามเป้าหมายในการเป็นอันดับหนึ่งของผู้ให้บริการด้านบัญชีมาร์จิ้นในไทย ด้วยการตอบสนองความต้องการของลูกค้าบัญชีมาร์จิ้นอยู่ตลอด และเพื่อการเติบโตขึ้นไปอีกขั้น บริษัทยังได้วางแผนเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดุมทุนและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันเพื่อขยายฐานลูกค้าบัญชีมาร์จิ้นให้กว้างไกลขึ้นไปอีก
แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจุดแข็งในด้านต่างๆ หรือการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว เหนือสิ่งอื่นใด ในการเติบโตของบริษัทสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งบล. Zcom เองก็ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการทำสิ่งนี้ให้ดีเสมอมา
เรื่องราวทางธุรกิจที่เรานำมาเล่าในวันนี้ ทำให้เห็นได้ว่าการมองหาโอกาส การมีแนวทางหรือเป้าหมายที่ชัดเจน และการใส่ใจกับเรื่องระบบและโครงสร้าง เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างพื้นฐานให้แข็งแรง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตไปในขั้นต่อๆ ไป ซึ่งไม่ได้ใช้ได้แค่กับการทำธุรกิจเท่านั้น แต่การพัฒนาตัวเองในโลกแห่งเทคโนโลยีดิสรัปชันก็ต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
หากอยากทำความรู้จักกับบล. Zcom และบริการของเขาเพิ่มเติมสามารถคลิกได้ที่ https://bit.ly/3H62J3i หรือสนใจเปิดบัญชีหลักทรัพย์ออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/3gYMr1R