“ถ้าอยากรวย จงคบเพื่อนที่รวยกว่า” เมื่อจุด Start ชีวิตของเราไม่เท่ากัน

Share

“โตขึ้นอยากเป็นอะไร อยากทำอะไร?”

คือหนึ่งในคำถามที่คุณครูมักจะถามเราตอนเด็กๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

และแน่นอนว่า หากคำตอบไม่ใช่อาชีพตามพิมพ์เขียวที่ระบบการศึกษา Shape มา อย่างเช่น การอยากเป็นแชมป์แกะสลักน้ำแข็ง หรือการหาเงินจากการอัดวิดีโอเที่ยวรอบโลก เราก็อาจจะถูก Freeze ด้วยคำพูดทำนองว่า เป็นไปไม่ได้ ต้องขยัน ต้องตั้งใจเรียน ต้องทำอาชีพที่จับต้องได้ เพื่อก้าวไปสู่ชีวิตที่ดี การมีอิสรภาพทางการเงิน หรือขึ้นชื่อว่า ‘เป็นคนรวย’

แต่ในความเป็นจริง ท่ามกลางสังคมที่เราทุกคนมีจุด Start ไม่เท่ากัน มีต้นทุนชีวิตที่แตกต่างกัน ลำพังแค่ความมุมานะบากบั่นในการเรียน และการทำงานก็อาจไม่ใช่คำตอบที่เพียงพออีกต่อไป เพราะถ้าว่ากันตามตรง ลึกๆ แล้ว ในสมการแห่งความสำเร็จก็มีตัวแปรอย่าง ‘การคบเพื่อนที่รวยกว่า’ เข้ามาเกี่ยวด้วย

Image by drobotdean on Freepik

มีงานวิจัยหนึ่งของราจ เซ็ตตี้ (Raj Chetty) นักเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ระบุว่า เด็กที่มีภูมิหลังจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ แต่อาศัยอยู่ในชุมชนที่กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ มีภูมิหลังจากครอบครัวที่มีรายได้สูง เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาจะมีรายได้มากกว่าคนรุ่นเดียวกันเฉลี่ยถึง 20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

โดยจากการศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียเฟซบุ๊ก (Facebook)​ ที่มีอายุ 25-44 ปี จำนวน 72.2 ล้านคน ผ่านการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกมีการเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจของคนที่มีรายได้ต่ำกับคนที่มีรายได้สูง (Economic Connectedness) กลุ่มที่ 2 มีการเชื่อมต่อผ่านการมีเพื่อนที่รู้จัก (Mutual Friends) หรือสังคมร่วมกัน (Social Position) และกลุ่มที่ 3 มีการเชื่อมต่อกันผ่านการมีส่วนร่วมของการเป็นพลเมือง (Civic Engagement) อย่างเช่น การเป็นอาสาสมัครกิจกรรม

ผลปรากฏว่า หนทางเดียวที่จะสะสมทุนทางสังคม (Social Capital) ไปสู่การเลื่อนชนชั้นทางสังคม มีฐานะที่ดีกว่าเดิม นั่นก็คือการคบเพื่อนที่รวยกว่าแบบเดียวกับความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวอย่างกลุ่มแรกเท่านั้น

เพราะนอกจากจะได้แรงบันดาลใจในการสร้างเนื้อสร้างตัวแล้ว ก็ยังพ่วงมาด้วยโอกาสในการหางาน และ Connection ดีๆ แถมก็อาจจะเหมารวมได้ว่า บางทีการศึกษา และหน้าที่การงานก็ไม่อาจทำให้ชีวิตคนคนหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้มากเท่ากับการคบเพื่อนที่รวยกว่า

Image by YuliiaKa on Freepik

สอดคล้องกับผลการศึกษาของทอม คอร์ลีย์ (Thomas Corley) ผู้แต่งหนังสือ Rich Habits: The Daily Success Habits of Wealthy Individuals ที่ใช้เวลาราว 5 ปีในการศึกษากิจกรรมของคนรวย ผ่านกลุ่มตัวอย่าง Self-made Millionaires จำนวน 177 คน

โดยเขาพบว่า เบื้องลึกเบื้องหลังของบรรดา Self-made Millionaires ล้วนมาจากการพยายามสร้างความสัมพันธ์กับคนที่ตัวเองอยากจะเป็น ซึ่งในที่นี้ก็คือ คนรวย และคนที่ประสบความสำเร็จ

ทอมเสริมว่า ตามปกติ คนทั่วไปมักจะชอบคบเพื่อนที่ตัวเองคุ้นเคย และเข้าถึงง่ายโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน หรือสมาชิกในครอบครัว นี่จึงทำให้พวกเขารายล้อมไปด้วยคนที่คล้ายกัน แต่ในทางตรงกันข้าม คนรวยจะไม่มีปัญหาในการย้ายไปอยู่นอกเครือข่ายสังคมเดิม และสามารถผูกมิตรกลายเป็นเพื่อนกับคนที่พวกเขาต้องการเลียนแบบได้อย่างง่ายดาย

เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมพ่อแม่บางคนถึงยอมลงทุนส่งลูกไปเรียนโรงเรียนดีๆ ค่าเทอมแพงๆ ที่เต็มไปด้วยลูกคนที่มีฐานะ และอาจจะเป็นที่มาคำพูดฮิตติดปากอย่างยุคนี้ Know How ไม่สำคัญเท่า Know Who ก็เป็นได้

นอกจากนี้ ราจ และคณะยังอธิบายผลการวิจัยเพิ่มเติมว่า การจะคบเพื่อนที่รวยกว่าในอเมริกาถือเป็นเรื่องยาก เนื่องจาก คนที่มีภูมิหลังมาจากครอบครัวที่มีรายได้สูงมักอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน สามารถไปมาหาสู่กันโดยง่าย และมักจะเข้าเรียนในโรงเรียนเดียวกัน ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงที่ทำให้ฐานะทางเศรษฐกิจของแต่ละกลุ่มคนยิ่งถากออกมากขึ้นไปอีก

สิ่งเหล่านี้ทำให้ Gap ระหว่างคนจนกับคนรวยมีมากขึ้นเรื่อยๆ กล่าวคือ คนจนก็จะยิ่งจน ส่วนคนรวยก็จะยิ่งรวย รวมไปถึงอคติในการคบเพื่อน (Friendship Bias) ก็ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แต่เกิดจากโครงสร้างของสถาบันการศึกษาที่คอยผลักให้คนรวยระดับเดียวกันหรือมากกว่ามาเจอกัน

‘คิดมาก’ นักเขียนชื่อดังเคยบอกเล่าใจความหนึ่งในหนังสือ ‘โตขึ้นมาเป็นความสุข’ เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า การตอบคำถามว่า โตขึ้นมาอยากเป็นอะไร? ตอนเด็กๆ เรามักตอบคำถามนี้ตามความคิด หรือจินตนาการ แต่พอโตขึ้นมา ท่ามกลางคำตอบของความฝันที่มากมาย ตนพบว่า สุดท้ายแล้ว คำตอบที่อยู่เบื้องหลังของทุกความฝันก็คือ “เราอยากโตขึ้นมาเป็นคนที่มีความสุข” เท่านั้นเอง…

แล้วคุณล่ะคิดยังไงกับเรื่องนี้ คิดว่าการคบเพื่อนที่รวยกว่าจะทำให้เรารวยขึ้นจริงไหม เห็นด้วยกับมุมมองของคิดมากรึเปล่า มองเรื่องนี้ยังไงบ้าง? มาแชร์ในคอมเมนต์กัน!

Sources: https://bit.ly/3eCzehA

https://cbsn.ws/3Cux9fy

https://bit.ly/3ELvIfy

https://cnb.cx/3TozRKf

https://bit.ly/3eDKOJl