Tinder X Central ส่องแคมเปญ LOVE destiNATION สุดยอดไอเดียการตลาดเกาะแสเดือนคลั่งรัก

Share

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทินเดอร์​ (Tinder) แอปพลิเคชันหาคู่ระดับโลก และเซ็นทรัล (Central) ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ในไทยได้ปล่อยแคมเปญ “LOVE destiNATION” แคมเปญสร้างประสบการณ์สุดล้ำ และช่วงเวลาสุดพิเศษเพื่อต้อนรับวันแห่งความรัก (วันที่ 14 กุมภาพันธ์)

โดยงานนี้ทางผู้จัดเขาก็ได้จัดมาทั้ง Meta-Luck กิจกรรมการวาร์ปไหว้ขอพรพระตรีมูรติแบบ 4.0 ผ่านร่างอวทาร์ (Avatar) ตามกระแสเมตาเวิร์ส (Metaverse) กิจกรรมเซลฟี่ (Selfie) โพสท่าถ่ายรูปสุดคูลกับโฟโต้บูธ (Photobooth) โฟโต้สปอต (Photo Spot) รวมไปถึง Pray for love กิจกรรมไหว้ขอพรพระตรีมูรติที่สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ ณ ลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิร์ล (Central World) ก็ด้วย

แล้วเจ้าแคมเปญนี้มีกลยุทธ์เจ๋งๆ อะไรบ้าง? วันนี้ Future Trends จะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ

ผลสำรวจอินไซท์ผู้บริโภคจากงานสัมมนา ‘Marketing in the Uncertain World การตลาดของคนอยู่เป็น’ โดยวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า ในช่วงวิกฤตการระบาดใหญ่ สถานการณ์ที่ตึงเครียดทั้งจากเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมที่ไม่แน่นอนส่งผลให้คนไทยกว่า 52 ล้านคนหรือ 80 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดหันไปเชื่อเรื่องโชคลาง และสิ่งเหนือธรรมชาติมากขึ้น โดย 3 เรื่องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ เงิน งาน และ ‘ความรัก’

เมื่อทางผู้จัดเล็งเห็นถึงโอกาสทองนี้ จึงจัดกิจกรรม Pray for love แจกชุดไหว้พระตรีมูรติฟรีจำนวน 100 ชุดต่อวัน รวมทั้งสิ้น 4 วัน โดยมีเงื่อนไขว่า จะแจกให้เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนใช้งานแอปพลิเคชันทินเดอร์แล้วเท่านั้น หากพูดกันตามตรง นี่ถือเป็นอีกหนึ่งการโฆษณาแฝงสินค้า (Tie-in) ไปในตัวเพื่อขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้รู้จักธุรกิจ ซึ่งโดยปกติ แอปพลิเคชันนี้จะให้บริการฟรี (Freemium) หากใช้บริการแล้วเกิดติดใจก็สามารถอัปเกรดฟีเจอร์พิเศษแบบเสียค่าบริการรายเดือนได้ทันที

กลับมาต่อกันที่การไหว้ ในช่วงเทศกาลแห่งความรักนี้ คิวการไหว้สักการะก็ย่อมที่จะย่อมยาวเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งถ้าเกิดรอนานๆ แล้วไม่รู้จะทำอะไร ก็สามารถหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปัดซ้าย ปัดขวาคุยกับคนที่น่าจะใช่ไปพลางๆ ได้ และต่อให้ไหว้เสร็จแล้ว ก็สามารถที่จะปัดซ้าย ปัดขวาต่อได้อีก เพราะแน่นอนว่า ลานตรงนั้นเป็นสถานที่ที่ผู้คนที่มีความต้องการแบบเดียวกัน (อยากสมหวังในความรัก) มารวมตัวกัน ซึ่งเมื่อระบบใช้อัลกอรึทึม (Algorithm) ตรวจจับผู้ใช้งานที่อยู่ใกล้เคียงแล้ว โอกาสที่น่าจะเจอคนที่ใช่ก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

เรียกได้ว่า กิจกรรมการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคด้วยความเชื่อ (Engagement with Faith) และการตลาดสายมู (Muketing) นี้สร้างสีสัน ความฮือฮาเป็นอย่างมากแก่ผู้คนที่แวะเวียนไปสักการะบูชา ช่วยสร้างการรับรู้ (Awareness) ฉวยโอกาสจากบริบทรอบตัวมาทำการตลาดแบบเรียลไทม์ (Contextual Marketing) แถมยังเป็นการมอบประสบการณ์สุดพิเศษ (Exclusive experience) จากออนไลน์ (Online) สู่ออฟไลน์​ (Offline) และคุณค่าทางด้านอารมณ์ความรู้สึก (Emotional benefit) ให้กับลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม

ซึ่งถ้ามองอีกมุมหนึ่ง สามารถตีความสิ่งที่ทินเดอร์ต้องการจะสื่อสารได้ว่า การเอาแต่ภาวนาอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวอาจไม่พออีกต่อไป สุดท้ายแล้ว สิ่งที่แม่นที่สุดก็คือ ‘การลงมือทำ’ ไม่ต้องรอให้สมหวังในอนาคต แต่คุณสามารถทำได้ตั้งแต่เวลานี้ และตอนนี้เลย!

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการใช้การตลาดความศรัทธา (Faith Marketing) ล้อไปกับความเชื่อของสังคมที่มีอยู่เดิม แต่แอปพลิเคชันหาคู่ระดับโลกนี้ก็ยังคงรักษาภาพลักษณ์ได้อย่างดี ความน่าเชื่อถือยังคงอยู่ ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้กลายเป็นธุรกิจที่ดูงมงายจนเกินไป

รวมไปถึงการนำสติกเกอร์โลโก้ธุรกิจไปแปะบนพื้นลานสักการะพระตรีมูรติ ก็เป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้ที่สัญจรผ่านไปมาแถวนั้น และเป็นการสร้างการจดจำแก่ลูกค้าที่ชาญฉลาดอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเซลฟี่ โพสท่าถ่ายรูปสุดคูลกับโฟโต้บูธ โฟโต้สปอต (Photo Spot) ที่สอดรับกับเทรนด์การตลาดย้อนยุค (Nostalgia Marketing) ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน การที่ไม่ว่าใครก็สามารถเป็น Content Creator ก็ได้ บวกกับพฤติกรรมคนไทยที่ชอบถ่ายรูปอัปลงบนโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สิ่งของ หรือแม้กระทั่งรูปถ่ายตัวเอง ทำให้ทางผู้จัดจัดกิจกรรมเพิ่มเติมขึ้นมา ก็คือ หากผู้ร่วมกิจกรรมท่านไหนถ่ายรูปได้ปั๊วะปัง ก็จะมีการแจกโปรโมชันส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์สำหรับใช้ซื้อแพ็คเกจทินเดอร์โกลด์ (Tinder Gold) ให้

อ่านมาถึงตรงนี้ คงจะเห็นแล้วว่า แคมเปญนี้มีการหยิบเอาความเชื่อกับธุรกิจมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว แต่นี่ยังไม่พอ เพราะเขายังมีการชูไฮไลท์ ส่งต่อความเชื่อ ความศรัทธา พลิกโฉมวงการมูเตลูของไทยตามกระแสเมตาเวิร์สที่มาแรงตอนนี้

โดยก็ได้มีการจัดกิจกรรม Meta-Luck การวาร์ปไหว้ขอพรพระตรีมูรติแบบ 4.0 นำเอาเทคโนโลยีจำลองโลกเสมือน 360 องศา (Virtual Reality 360หรือ VR 360) มาใช้กับแว่น VR ทำให้ผู้ที่ไม่สะดวกเรื่องการเดินทางสามารถสักการะผ่านร่างอวทาร์ ณ 5 สาขาทั่วไทย ได้แก่ เซ็นทรัลเวสต์เกต, เซ็นทรัลเชียงใหม่, เซ็นทรัลชลบุรี, เซ็นทรัลขอนแก่น และเซ็นทรัลหาดใหญ่ นับเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ล้ำไปอีกขั้น สร้างมิติใหม่ของการไหว้พระขอพรเทพเจ้าที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน และทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกเสมือนนั่งอยู่หน้าลานสักการะนั้นจริงๆ

และถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปมากแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยเลยก็คือความเชื่อ ความศรัทธาในเรื่องโชคลาง และสิ่งเหนือธรรมชาติที่ยังคงอยู่ไปอีกตราบนานเท่านาน…

ว่าแล้ววันนี้ตรงกับวันวาเลนไทน์พอดี เขียนจบก็ต้องขอตัวไปเซ็นทรัลเวิลด์ก่อน

สุขสันต์วันวาเลนไทน์ ขอให้พบเจอแต่รักที่ดีกันทุกคนนะคะ

Sources: https://bit.ly/3jVZbrw

https://bit.ly/3Omeckp

https://bit.ly/3xR5THc

https://bit.ly/3v2STwr