งานที่ดีต้องไม่ทำให้ชีวิตแย่ลง ‘The Great Rejuvenation’ ถ้าไม่อยากเสียคนเก่งไป องค์กรต้องปรับตัว

Share

ท่ามกลางกระแสข่าวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายคนคงจะเห็นเทรนด์การทำงานใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลาออกครั้งใหญ่ (The Great Resignation), การลาออกจากการทำงานหนักแบบเงียบๆ (Quiet Quitting) หรือแม้กระทั่งการยอมรับเงินเดือนที่น้อยลงเพื่อการทำงานน้อยลง และเวลาชีวิตที่มากขึ้น (Frugality) ก็ด้วย

โดยทั้งหมดทั้งมวลนี้ต่างสะท้อนให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มุมมองของคนทำงานเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียว บางคนกลับมาตั้งคำถามว่า จะไปต่อหรือพอแค่นี้กับองค์กรนั้นๆ ในขณะที่บางคนก็กลับมาตั้งคำถามว่า ถึงที่สุดแล้ว การทำงานแบบเป็นบ้าเป็นหลังเช่นนี้นำไปสู่การมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริงรึเปล่า?

แล้วถ้าไม่อยากเสียคนเก่งให้กับเทรนด์ที่เปลี่ยนไป องค์กรต้องปรับตัวยังไง? ในบทความนี้ Future Trends จะพาไปดู ‘The Great Rejuvenation’ เทรนด์การทำงานที่คนอยากมีชีวิตที่ดี และงานจะไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตอีกต่อไปกัน

The Great Rejuvenation คืออะไร?

ผลสำรวจของลิงก์อิน (LinkedIn) ระบุว่า เมื่อเทียบปี 2021 กับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2020 พบว่า มนุษย์ออฟฟิศเปลี่ยนนายจ้างเพิ่มกว่า 26 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว โดยสาเหตุที่ทำให้พวกเขาลาออกนั้นก็มีหลายปัจจัยด้วยกัน

อย่างเช่น เพดานเงินเดือนที่เท่าเดิมมานาน, การไม่มีพื้นที่ในการเติบโต, การขาดการยอมรับ, ค่านิยมหลังโควิด-19 ที่เปลี่ยนไป, วัฒนธรรมองค์กรที่ Toxic และการขาด Work-Life Balance

The Great Rejuvenation คือเทรนด์การทำงานที่เป็นภาคต่อมาจากเทรนด์ The Great Resignation เมื่อองค์กรเห็นถึงปัญหาว่า พนักงานลาออกเป็นจำนวนมาก ก็เลยเริ่มหันมาปรับตัว ‘คืนชีวิต คืนความสุข’ เพื่อให้เกิด Win-Win Situation ทั้งสองฝ่ายกันมากขึ้น

เราจะสร้าง The Great Rejuvenation ในองค์กรด้วยวิธีไหนได้บ้าง?

Image by tirachardz on Freepik

1. สร้างวัฒนธรรมการทำงานผ่าน ‘พลังของการขอบคุณ’

อย่ามองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เวลาทำอะไรออกมาดี ทำอะไรสำเร็จ เราเองก็คงอยากได้รับการยอมรับ การยกย่อง และคำขอบคุณ ลูกน้องก็เช่นกัน

อภิชาติ ขันวิธิ เจ้าของเพจ ‘HR The Next Gen’ และบริษัท Q Gen Consultant เคยกล่าวในงาน Creative Talk Conference 2022 เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า “Reward กับ Recognition เป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กัน ตัว Reward เราให้พนักงานโดยพิจารณาจากตัว Result แต่ในหลายๆ ครั้งการทำงานไม่ได้สำเร็จหมด ดังนั้น เราต้องฟื้นฟูจิตใจ กระตุ้นพนักงานด้วยการที่เรามี Recognition และ Recognize ในทุกครั้งที่พวกเขาทุ่มเท พยายามอย่างเต็มที่”

2. ยืดหยุ่นต้องมี

ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำงานได้ดีในสถานที่เดียวกัน ความกดดันเดียวกันหมด อาจจะลองหาตรงกลางร่วมกัน ไม่ Fix ตายตัวว่า จะต้องทำงานออฟไลน์หรือออนไลน์ ทุกคนต้องเป็นแบบเดียวกันเป๊ะๆ หรือพูดง่ายๆ ว่า เน้นที่ประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ใช้ตัวเองเป็นไม้บรรทัดนั่นเอง

3. ลงทุนกับ ‘คน’

นอกเหนือจากเงินเดือนที่สูงแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญพอๆ กัน นั่นก็คือการพัฒนา การเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิมในทุกๆ วัน ลองส่งพนักงานไป Upskill Reskill ในเรื่องต่างๆ เพราะนอกจากช่วยพัฒนาองค์กรแล้ว ก็ยังทำให้พวกเขารู้สึกผูกพัน อยากอยู่ด้วยกันไปนานๆ ด้วย

4. กำหนด ‘วัตถุประสงค์’ ให้ชัด

โลกเปลี่ยนไปเร็ว ทุกวันนี้ ผลกระทบเชิงบวก จุดยืนในเรื่องความหลากหลาย การไม่แบ่งแยก และสิ่งแวดล้อมกลายมาเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาเลือกร่วมงานกับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ฉะนั้น ควรกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน และควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

แล้วคุณล่ะคิดยังไงกับเรื่องนี้? มาแชร์ในคอมเมนต์กัน!

Sources: https://bit.ly/3eCnuvq

https://bit.ly/3EU1mr8

https://bit.ly/3eBpu7p