กาลครั้งหนึ่ง ไม่นานเท่าไร เราล้วนเคยเป็นคนสำคัญของใครบางคนเสมอ
หลายคนในที่นี้น่าจะเข้าใจว่า ความรู้สึกดีของการเป็นคนสำคัญพิเศษมากแค่ไหน ในทางกลับกัน ก็คงจะเข้าใจว่า การถูกเปลี่ยนสถานะให้เป็นคนไร้ค่า ไร้ตัวตน กลายเป็นส่วนเกินนั้นแย่อย่างไร
บรูซ วาย ลี (Brue Y. Lee) ศาสตราจารย์ และกรรมการบริหารของ Center for Advanced Technology and Communication in Health (CATCH) ได้ให้คำจำกัดความสภาวะทำนองนี้ของบรรดามนุษย์ออฟฟิศไว้บนเว็บไซต์ Psychologytoday ว่าเป็นเหมือนกับ ‘Stealth Demotion’
Stealth Demotion คือสภาวะการที่ในอดีตเคยเป็นคนสำคัญ เคยมีสิทธิมากมายในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ แต่พอเวลาผ่านไป วันหนึ่งก็ถูกลดอำนาจลง ทั้งที่ก็ยังคงทำงานอยู่ในตำแหน่งเดิม แถมบางทีก็อาจจะไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย
หรือพูดง่ายๆ ว่า ‘จากอดีตที่เคยสำคัญ แต่ปัจจุบันกลายเป็นคนไร้ตัวตน’ พูดไปก็ไม่มีใครฟัง ถูกดองหรือแช่แข็งเอาไว้ คล้ายการบีบให้ลาออกไปเองแบบเงียบๆ (Quiet Firing) เพื่อที่บริษัทจะได้ไม่ต้อง Layoff ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยนั่นเอง
บรูซแนะนำวิธีรับมือกับ Stealth Demotion ไว้อย่างน่าสนใจว่า ให้เริ่มจากการเช็กบทบาทของตัวเองก่อนว่า ยังคงมีอำนาจตัดสินใจเหมือนเดิมอยู่หรือไม่? ถ้าไม่แน่ใจ ก็มีความเป็นไปได้ว่า คุณอาจกำลังถูกลดอำนาจอยู่
ถัดมา ให้ทำความใจถึงสิ่งที่เกิด ไม่ก่นด่า โทษฟ้าโทษดินทันที ย้อนกลับมามองว่า ที่ถูกลดความสำคัญ ลดบทบาทลงนั้นเกิดจากอะไร เรื่องนี้ Make Sense รึเปล่า และทุกวันนี้เราทำหน้าที่ได้ดีพอแล้วหรือยัง? เพื่อปรับปรุงพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ขั้นที่สาม ให้ลองหาทางออกร่วมกัน จับเข่าคุยกันตรงๆ ไม่โอเค ไม่แฮปปี้ตรงไหน ทำความเข้าใจต้นตอที่แท้จริงว่า เกิดจากความคิด ความเชื่อที่ไม่ match กัน ความคาดหวังที่สวนทางกัน หรือเราเผลอทำอะไรบางอย่างไม่เข้าตาพวกเขารึเปล่า?
และสุดท้าย บรูซแนะนำว่า กลับมาคุยกับตัวเองว่า ไม่มีความสุขจริงไหม เผลอคิดมากไปเองหรือไม่? แต่ถ้าหาทางออกร่วมกันแล้วยังไม่เวิร์ก ก็ถึงเวลาแล้วที่จะเปิดโอกาสให้ตัวเองไปเติบโตที่อื่น
อย่าปล่อยให้ตัวเองจมกับความรู้สึกแย่ๆ แบบนี้ไปนานๆ เปลี่ยนกระถาง เปลี่ยนดิน ย้ายตัวเองไปในที่ที่เหมาะสมกับความสามารถ ที่อยู่กับสิ่งที่คุณคู่ควรดีกว่านะ 🙂
Source: https://bit.ly/3sFsWB2