‘Snapchat’ เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่โด่งดังมากในช่วงปี 2016 – 2017 ลักษณะของแอปพลิเคชันจะเป็น ผีน้อยสีขาว ที่ ณ ช่วงเวลานั้นมีความโดดเด่นเรื่องการส่งข้อความที่ระบุระยะเวลาในการทำลายตัวเอง พร้อมกับการใช้งานเทคโนโลยี ความจริงเสมือน หรือ Augmented Reality ที่ผสมผสานความเป็นจริงและโลกแห่งดิจิทัลไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ตัวอย่าง ฟิลเตอร์หมาแลบลิ้นแสนน่ารักอันโด่งดัง
ในปีนี้ Snapchat พยายามที่จะดึงความสนใจจากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียด้วยการสร้างแคมเปญ ‘Phantom House’ ถือเป็นความพยายามครั้งแรกของแบรนด์ที่ใช้งานซีรีส์ในการโปรโมทแคมเปญ สาเหตุที่ Snapchat เลือกลงทุนกับแคมเปญในช่วง Halloween นั้น มาจากการวิจัยและผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานแพลตฟอร์มวางแผนที่จะใช้งานกันอย่างมากในช่วงเทศกาลนี้
จึงเกิดเป็นแคมเปญนี้ขึ้นมา ด้วยความหวังที่ว่ามันจะช่วยดึงดูดผู้ลงโฆษณามากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้แพลตฟอร์มผ่านพ้นวิกฤตทางการเงินเสียที
วิธีการเข้าร่วมแคมเปญ Phantom House ผู้ใช้งานจะสามารถติดตามเนื้อหา เรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ในแต่ละสัปดาห์เพื่อช่วยเหลือให้ตัวละครเอกสามารถแก้ไขปัญหาที่พบเจอได้ และสามารถสนับสนุนแคมเปญผ่านฟีเจอร์ภายในแพลตฟอร์ม อย่าง AR Lenses และ AI Dreams selfies ได้อีกด้วย
ในตอนนี้มีการเผยออกมาแล้วว่าผู้ลงโฆษณาในช่วงแรกของซีรีส์คือ Disney+ (แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดัง) และ Maybelline (แบรนด์เครื่องสำอางชื่อดัง) โดยโฆษณาจะแสดงระหว่างเนื้อหา Phantom House กำลังดำเนินไปอยู่ นอกจากนี้ทั้งสองแบรนด์ยังได้สนับสนุนการถ่ายทำผ่านเลนซ์ AR อีกด้วย เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้งาน และสร้างการมีส่วนร่วมของตลาดนอกแพลตฟอร์มได้อีกด้วย .
แคมเปญการตลาดอย่าง Phantom House เป็นช่องทางในการสร้างความเข้าใจกับแบรนด์ที่เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้โดยตรง หลังจากที่ประกาศแคมเปญนี้ไปบน Snapchat ผลรายงานว่ามีการการรับรู้ (Brand Awareness) ถึงแบรนด์เพิ่มขึ้นกว่า 1.6 เท่า การรับรู้แคมเปญเพิ่มขึ้น 2.1 เท่า และความตั้งใจในการดำเนินการเพิ่มขึ้น 1.6 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับผลการวิจัยล่าสุด ณ ไตรมาสที่ 2 Snapchat มีผู้ใช้งาน 397 ล้านรายต่อวัน
แนวคิดของ Phantom House คือต้องการให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับแคมเปญ โดยการมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีความจริงเสมือนอย่างหนัก ซึ่งเป็นความสามารถที่ Snapchat ถนัดและใช้งานเพื่อมุ่งเน้นไปที่การเติบโตมาเป็นเวลานาน
อย่างไรก็ตาม มันยังมีอุปสรรคอยู่ การมาของ Generative AI ทำให้บริษัทต้องปิดตัวแพลตฟอร์ม Augmented Reality Services for Business (ARES) ซึ่ง CEO Evan Spiegel กล่าวว่า “ธุรกิจ Generative AI กับธุรกิจ AR ของตนนั้นมีความแตกต่างมาก และสร้างความยากในการยืนอยู่ได้ด้วยธุรกิจนี้เช่นกัน”
เขียนโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
Source: https://www.marketingdive.com/news/snapchat-phantom-house-halloween-content-maybelline-disney/695945