5G ยังไร้วี่แวว แต่ 6G ก็กำลังจะมา สำรวจเกมกลยุทธ์ ‘Samsung’ ตั้งเป้าใช้จริง 6G ภายในปี 2028

Share

ทุกอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา โลกของอินเทอร์เน็ตก็เช่นกัน…

จากวันที่โทรศัพท์มือถือยังทำได้แค่พูดคุยสื่อสารกัน จนมาถึงวันที่โทรศัพท์มือถือสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างในปัจจุบัน การเปลี่ยนผ่านจากยุคสู่ยุคเกิดขึ้นมาในเวลาแค่ไม่กี่สิบปี และในวันนี้ การเปลี่ยนแปลงนั้น ก็เข้าสู่ยุคที่ห้าแล้ว ซึ่งเรารู้จักกันดีในชื่อของ 5G นั่นเอง

เราได้ยินคำว่า ‘5G’ กันมานานแค่ไหนแล้ว?

ถ้าว่ากันตามความรู้สึก ก็ดูเหมือนจะไม่นาน แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะเพิ่งได้ยินมาอะไรขนาดนั้น อาจจะเป็นเพราะว่า การใช้งาน 5G อย่างจริงจัง เพิ่งเริ่มต้นมาได้แค่ 1-2 ปีนี้เอง แต่จริงๆ แล้ว คำว่า 5G อยู่กับเรามาตั้งแต่ปลายปี 2018 เลยด้วยซ้ำ ซึ่งในตอนนั้น ใครๆ ก็ต่างพูดถึง 5G ว่า มันจะเข้ามาเปลี่ยนโลกอย่างนั้น มันจะเข้ามาเปลี่ยนโลกอย่างนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว หนทางสู่ความรุ่งโรจน์ของ 5G ก็เป็นอันต้องสะดุด เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19

ถึงแม้ว่า ในตอนนี้ 5G จะสามารถฟื้นตัวจากกระแสที่ซบเซาได้แล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่า ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ในไทยยังไม่เปลี่ยนใจจาก 4G และก้าวเข้ามาใช้งาน 5G เท่าที่ควร เหมือนที่เหล่าบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือคาดหวังไว้

อย่างแรก คงเป็นเพราะการติดตั้งเสาสัญญาณให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วไทยยังทำได้ไม่ร้อย 100 เปอร์เซ็นต์ ต่อให้มีคนอยากจะใช้ 5G มากแค่ไหน แต่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี อย่างที่สอง เสียงส่วนใหญ่จากผู้ที่ก้าวเข้าไปใช้งาน 5G แล้ว บอกว่า มันไม่เห็นจะต่างจาก 4G เท่าไรเลย และดูเหมือนจะเป็น ‘ไมเนอร์เชนจ์’ (Minor Change) หรือการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจาก 4G มากกว่า ซึ่งปัจจัยนี้ ก็มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ใช้งานอยู่ไม่น้อยว่า จะหยุดอยู่ที่ 4G ไว้ก่อน หรือไปต่อกับ 5G เลยดี?

ในวันที่ 5G ยังระส่ำระสาย แต่ 6G ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว

โดยปกติแล้ว การเปลี่ยนผ่านยุคของอินเทอร์เน็ตจากยุคหนึ่งมาสู่อีกยุคหนึ่งนั้น ต้องใช้เวลาอย่างยาวนาน อย่างไอเดียของ 5G ก็เกิดขึ้นมา เมื่อราวๆ ปี 2018 ซึ่งเป็นช่วงเวลากว่า 10 ปี หลังจากที่มีการใช้ 4G กันอย่างแพร่หลาย

แต่สำหรับ 6G ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะไอเดียของ 6G ได้เริ่มต้นขึ้นราวๆ ปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับการพัฒนา 5G อย่างพอดิบพอดี โดย ‘ซัมซุง’ (Samsung) บริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกสัญชาติเกาหลีใต้ ได้ออกมาประกาศว่า ตัวเองจะเป็นหัวเรือใหญ่ในการพัฒนา 6G เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกใบนี้

และเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซัมซุงได้เผยแพร่เอกสารไวต์เปเปอร์ (white paper) เกี่ยวกับการพัฒนา 6G ออกมาฉบับหนึ่ง ซึ่งในเอกสารก็ระบุใจความสำคัญไว้ว่า 6G ที่ถูกพัฒนาขึ้นมานี้ จะมีความเร็วมากกว่า 5G ถึง 50 เท่า และยังมีการตั้งเป้าใช้งานจริงภายในปี 2028 อีกด้วย

แล้วถ้าซัมซุงสามารถพัฒนา 6G ได้สำเร็จตามกรอบเวลาที่วางไว้ มันจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทิศทางใดได้บ้าง?

‘ซัมซุง’ จะขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่งในการเป็นผู้ให้บริการ 6G

ในฐานะที่ซัมซุง เป็นผู้คิดค้นและพัฒนาระบบของ 6G จึงถือว่า ซัมซุงมีสิทธิ์ในความเจ้าของอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ซัมซุงสามารถนำ 6G ไปจำหน่ายให้กับบริษัทในอุตสาหกรรมใดก็ได้ที่มีความต้องการใช้งาน แล้วทุกคนลองคิดภาพตามเล่นๆ ว่า ในตอนนี้ มีอุตสาหกรรมอะไรบ้างที่ไม่ใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งคำตอบก็คือ ‘ไม่มี’

มิหนำซ้ำ ทุกอุตสาหกรรมยังต้องการอินเทอร์เน็ตที่ทั้ง ‘เร็ว’ และ ‘แรง’ อีกต่างหาก อย่างการทำงานผ่านระบบ Internet of Things (IoT) หรืออุตสาหกรรมเกี่ยวกับเมตาเวิร์ส (Metaverse) หรือโลกเสมือนต่างๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่า ต้องการอินเทอร์เน็ตที่เร็วและแรงขนาดไหน ซึ่ง 6G ที่ซัมซุงเคลมว่า เร็วกว่า 5G ถึง 50 เท่า ต้องกลายมาเป็นตัวเลือกแรกๆ อย่างแน่นอน และนี่ยังไม่รวมถึงโอกาสในการเข้าไปถือสัมปทาน เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือระยะยาวกับภาครัฐอีกด้วย

ทุกสิ่งตามที่กล่าวมานี้ เกิดจากการที่แค่มีเทคโนโลยี 6G อยู่ในมือ ก็สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจได้มากมาย และถ้าไม่ขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่ง ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

ถ้า 6G ที่พัฒนาขึ้นมาไม่ปังจริง มีแต่ร่วงกับร่วงอย่างแน่นอน

ด้วยความที่ในตอนนี้ เราก็ยังไม่รู้ว่า 6G ที่ถูกพัฒนาจนสำเร็จจะมีศักยภาพที่เร็วและแรงอย่างที่ซัมซุงได้คาดการณ์ไว้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ การพัฒนา 6G นั้น มีความแตกต่างจากการพัฒนา 5G โดยสิ้นเชิง เพราะต้องใช้คลื่นความถี่สูงมาก ในการส่งข้อมูลที่มีแบนด์วิดท์ (Bandwidth) ต่อเนื่องกันแบบอัลตราไวด์แบนด์ (Ultra-Wideband) และนี่อาจจะเป็นอุปสรรคชิ้นแรกที่ให้การพัฒนา 6G ไปไม่ถึงฝั่งฝันก็เป็นได้

เมื่อการพัฒนาสิ้นสุดลง จนเข้าสู่ช่วงเวลาของการใช้งานจริง หากโชคร้ายตรงที่มันไม่สามารถสร้างความประทับใจในการใช้งานกับผู้ใช้งานเท่าที่ควร อย่างเรื่องความเร็วที่ดูเผินๆ ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเดิม 6G จะมีสถานะเป็นแค่ไมเนอร์เชนจ์ของ 5G คล้ายๆ กับการที่ 5G ในไทยตอนนี้ ก็มีสถานะเป็นไมเนอร์เชนจ์ของ 4G หรือเปล่า?

ถึงแม้ว่า ทิศทางการใช้งาน 6G ในอนาคต จะยังเป็นเรื่องที่อยู่ไกลตัวมากๆ และก็ไม่มีใครรู้ว่า มันจะเปลี่ยนโลกได้จริงมากน้อยขนาดไหน แต่ถ้าซัมซุงสามารถพัฒนา 6G ได้สำเร็จตามความเร็วที่เคลมไว้ มันก็คงเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอย่างแน่นอน อาจจะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงจากการใช้งานโดยตรง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงจากอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการใช้ 6G ก็ได้เช่นกัน

Sources: https://bit.ly/3wiG5S8

https://bit.ly/39m6WFb

https://bit.ly/3Mf4EpJ