“อยากทำงานกับทีมดีๆ แบบนี้จัง” 5 เทคนิคสร้างทีมดาวเด่น จาก ‘Project Aristotle’ งานวิจัยของ Google

Share

หากถามว่า อะไรคือสิ่งทำให้เราทำงานที่ออฟฟิศใดออฟฟิศหนึ่งได้นานแบบคนอื่น หรือตัดสินใจลาออกแบบปุบปับ ยอมไปตายเอาดาบหน้าทั้งที่ยังไม่ได้งานใหม่ ก็คงหนีไม่พ้น ‘เรื่องคน’ อย่างแน่นอน

ว่ากันว่า ในโลกของการทำงานนั้น ทีมที่ดีนับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยประคับประคองชีวิตให้ก้าวข้ามไปได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ต่างจากปัจจัย 4 ที่เป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต เพราะไม่ว่างานจะโหดหิน ถาโถมมากแค่ไหน แต่ถ้ามีคนคอยเลเวลอัป ฟันฝ่าไปพร้อมกันก็แฮปปี้ ขอสู้ตายอยู่แล้ว

ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอาเอง ทีมก็เช่นเดียวกัน บรรดาหัวหน้าอย่างเราๆ น่าจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ไม่มีขายแบบสำเร็จรูปตามร้านสะดวกซื้อ และแน่นอนว่า ถ้าอยากได้ต้องใช้เวลาสร้าง และปั้นเองด้วย

แล้วทีมที่ดีเกิดจากอะไร อะไรคือองค์ประกอบสำคัญ? ในบทความนี้ Future Trends จะพาไปหาคำตอบผ่าน ‘โปรเจกต์อริสโตเติล (Project Aristotle)’ สุดยอดงานวิจัยจากองค์กรในฝันของคนรุ่นใหม่อย่างกูเกิล (Google) กัน

Project Aristotle คืออะไร?

เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว กูเกิลได้ทำการวิจัย เพื่อหาคำตอบว่าทีมที่ดีนั้นเกิดจากอะไร โดยจากการเก็บรวบรวมข้อมูลกลุ่มตัวอย่างผู้บริหาร หัวหน้า สมาชิกในทีมทั่วโลก ทั้ง 180 ทีม และผลงานของแต่ละทีมเป็นเวลากว่า 3 ปี พบว่า ทีมที่ดี ประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้มาจากความเก่งกาจของสมาชิกที่รวมตัวกันเพียงอย่างเดียว แต่แท้จริงแล้ว ได้เกิดมาจากการทำงานร่วมกัน และเนื้องานต่างหาก

ทั้งนี้ กูเกิลก็ได้ตั้งชื่อโปรเจกต์ให้ล้อไปกับชื่อของนักปรัชญาอริสโตเติล (Aristotle) ที่เคยกล่าวว่า “The whole is greater than the sum of it’s parts.” ส่วนทั้งหมดย่อมดีกว่าส่วนย่อยต่างๆ เพื่อสรรเสริญเขานั่นเอง

รู้จัก 5 เทคนิคสร้างทีมดาวเด่นจาก Project Aristotle

หลักๆ แล้ว ทีมที่ดี ที่เป็นสิ่งที่หลายๆ คนใฝ่ฝันถึงมักมี 5 องค์ประกอบหลักด้วยกัน ดังนี้

1. ความรู้สึกปลอดภัยในจิตใจ (Psychological Safety)

กูเกิลบอกว่า สิ่งนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญของ 4 ข้อที่เหลือเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อลูกน้องรู้สึกปลอดภัยแล้ว พวกเขาก็จะเชื่อใจ ไว้วางใจคนในทีม กล้าคิด กล้าเสนอไอเดียดีๆ กล้าตั้งคำถาม กล้าวิจารณ์ได้อย่างไม่น่าแปลกใจ

หรือพูดง่ายๆ ว่า พวกเขาอยู่กันแบบ ‘ให้ใจ’ ซึ่งกันและกัน กล้าโชว์โง่ให้คนอื่นเห็น เพื่อรีดไอเดียบรรเจิดออกมาให้ได้มากที่สุด โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า ไม่มีใครรอข้าม เหยียบซ้ำ และทำให้ขายขี้หน้าต่ออย่างแน่นอน

2. น้ำพึ่งเรือ ‘ทีมพึ่งได้’ (Dependability)

กูเกิลบอกว่า ทีมที่ดีคือทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นที่ดี ที่ทุกคนต่างรู้บทบาท หน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่การมีใครเป็นเดอะแบก แบกงาน และคนอื่นในทีมเพียงลำพัง แถมก็ไม่ต้องมีคนมาคอยทวง ตามจี้ ตามจิกงานของตัวเองด้วยเช่นกัน คนอื่นในทีมสามารถเชื่อมั่น และไว้ใจได้ว่า จะทำงานได้ออกมามีประสิทธิภาพอย่างคงเส้นคงวา

3. มีระบบ ชัดเจน (Structure and Clarity)

กูเกิลบอกว่า นอกจากทีมต้องพึ่งได้แล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลยก็คือ ‘ระบบ และความชัดเจน’ ซึ่งการที่ทุกคนในทีมเข้าใจตรงกัน มีเป้าหมายเดียวกันนั้น ความสำเร็จก็เป็นสิ่งที่ไม่ยากเกินเอื้อม ในทางกลับกัน หากต้องทำงานภายในทีมที่ไม่มีระบบ หรือต่อให้มี ก็เป็นระบบที่เละ ไม่มีความชัดเจน โอกาสที่งานจะ ‘พัง’ มากกว่าปังย่อมมีสูงกว่า

4. คุณค่า ความหมายของงาน (Meaning of Work)

กูเกิลบอกว่า หากงานที่ทำมีการใส่ความหมายลงไปด้วย ไม่ใช่งานที่ทำให้จบไปวันๆ แลกเงินเท่านั้น แน่นอนว่า ผลงานที่ออกมาจะดีกว่า โดยในที่นี้ อาจจะลองตั้งคำถามจากเรื่องง่ายๆ ว่า งานนั้นมีความหมายต่อองค์กร หรือช่วยให้โลกใบนี้ดีขึ้นได้อย่างไรบ้างก็ได้

5. งานที่ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงใน ‘ทางที่ดี’ (Impact of Work)

กูเกิลบอกว่า หากงานที่ทำมีความสำคัญ ช่วยสร้างการเปลี่ยนในทางที่ดีไม่ทางใดก็ทางหนึ่งให้กับใครสักคนบนโลกใบนี้ ก็จะช่วยกระตุ้นให้ทุกคนในทีมทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ศักยภาพออกมาอย่างดีที่สุด รวมไปถึงก็จะรู้สึกถึงคุณค่า ความสำคัญ และการมีอยู่ของความตั้งใจนั้นๆ อีกด้วย

และทั้งหมดนี้ก็คือ 5 เทคนิคสร้างทีมดาวเด่นที่เรานำมาฝากกัน ท้ายที่สุดแล้ว ทีมก็คือคน คนก็คือทีม ไม่ว่าจะคนหรือทีมต่างก็ต้องการก็ปฏิบัติอย่างเคารพในฐานะ ‘มนุษย์คนหนึ่ง’ เฉกเช่นเดียวกัน…

แล้วคุณล่ะคิดยังไงกับเรื่องนี้ ทีมของคุณตอนนี้มีครบทั้ง 5 ข้อข้างบนรึเปล่า? มาแชร์ในคอมเมนต์กัน!

Sources: https://bit.ly/3HlN8hQ

https://bit.ly/3HnckVd