ในช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา มีผู้เชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจและการลงทุน รวมถึงสื่ออีกหลายๆ สำนัก ได้ออกมาคาดการณ์ถึง ‘เมกะเทรนด์ (Mega Trend)’ ที่มีแนวโน้มมาแรงในปี 2022 ซึ่งก็สามารถสร้างความตื่นตัวให้กับนักลงทุนทั้งรายเล็กรายใหญ่ได้เป็นอย่างดี
แต่ว่าในตอนนี้ ปี 2022 ก็กำลังจะเดินทางเข้าสู่ไตรมาสที่สองอย่างเต็มตัวในอีกไม่ช้า แล้วเมกะเทรนด์ที่เคยคาดการณ์กันไว้มาแรง จะยังอยู่ในปี 2022 ได้จริงหรือเปล่า?
ก่อนอื่น เราคงต้องขยายความของคำว่า ‘เมกะเทรนด์’ ให้ทุกคนเข้าใจตรงกันก่อนว่า จริงๆ แล้ว เมกะเทรนด์ที่ได้ยินกันบ่อยๆ ตามสื่อต่างๆ มันคืออะไรกันแน่?
เมกะเทรนด์ (Mega Trend) คือแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจ สังคม ธุรกิจ วัฒนธรรม รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมด้วย ดังนั้น การที่เราคอยศึกษา และตามข่าวเกี่ยวกับเมกะเทรนด์อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เราสามารถรับมือ และปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างทันท่วงที
โดยในวันนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลจาก BlackRock และ Schroders บริษัทบริหารจัดการการลงทุนระดับโลก จากนั้น นำมาสรุปเป็น 5 เมกะเทรนด์มาแรงในปี 2022 ที่ยังมีโอกาสเติบโตในอนาคตได้อีกเรื่อยๆ มาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1. เทคโนโลยีพลังงานสะอาด (Clean Energy Technology)
ด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ประกอบกับเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา มีรายงานจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ ‘IPCC’ ที่บ่งบอกว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ไม่อาจจะแก้ไขได้ในเร็ววันนี้
ดังนั้น ในตอนนี้ หลายๆ บริษัทจึงได้มีการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับพลังงานสะอาดให้กลายเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการบรรลุเป้าหมายในการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2050
2. สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG)
ในตอนนี้ หลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่า ESG ยังเป็นเรื่องที่ไกลตัวอยู่ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น เพราะ ESG ได้กลายมาเป็นแนวคิดสำคัญในการดำเนินธุรกิจของหลายๆ บริษัท ด้วยความมุ่งหวังที่จะทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
อีกทั้ง ESG ยังเป็นแนวคิดที่มีความสอดคล้องกับกระแสสังคมที่ผู้บริโภคมีความตื่นตัวกับประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในสังคม และปัญหาการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม
ทำให้หลายๆ บริษัทที่มีการผนวกแนวคิด ESG เข้ากับแผนกลยุทธ์ของบริษัท จะสามารถสร้างกลยุทธ์ เพื่อพิชิตใจผู้บริโภคได้มากขึ้นด้วยนั่นเอง
3. เมตาเวิร์ส (Metaverse)
ถึงแม้ว่า ทุกคนจะได้ยินคำนี้กันมาบ่อยแล้ว แต่ก็อย่าเพิ่งเบื่อกันไปค่ะ เพราะในตอนนี้ บทบาทของเมตาเวิร์สที่มีต่อภาคธุรกิจต่างๆ ก็เริ่มชัดเจนขึ้นทุกที อย่างเช่น ด้านการศึกษาที่เริ่มมีการเรียนการสอนโดยใช้ห้องเรียนเสมือนจริง (Virtual Classroom) มากขึ้น หรืออย่างในกลุ่มสินค้าแฟชันก็ได้มีการจับมือกับบริษัทที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเมตาเวิร์ส เพื่อบุกตลาดในโลกเสมือนจริงอีกด้วย
และในอนาคต คงมีการนำเมตาเวิร์สไปใช้ภาคธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้เกิดอาชีพใหม่ๆ ได้อย่างแน่นอน
4. ความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ (Cybersecurity)
ในปัจจุบัน ธุรกรรมทุกอย่างถูกทำผ่านสิ่งที่เรียกว่า ‘อินเทอร์เน็ต’ ไม่ว่าจะการโอนเงิน เทรดหุ้น ซื้อของ ก็ล้วนแต่ทำบนอินเทอร์เน็ตทั้งนั้น และแน่นอนว่า ต้องมีผู้ที่ไม่หวังดีพยายามจะนำข้อมูลของผู้ใช้งานไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง จึงต้องทำให้มีการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตขึ้นมา เพื่อจัดการปัญหาเหล่านี้
ทั้งนี้ ไม่ว่าในอนาคตจะมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ เข้ามา ก็ยังต้องมีการใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่ดี ดังนั้น ระบบรักษาความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตก็ต้องได้รับการพัฒนาตามไปด้วยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
5. จีโนมิกส์ (Genomics)
ด้วยเหตุผลที่ว่า การที่คนเราเจ็บไข้ได้ป่วย และมีลักษณะแบบที่เห็นกันในทุกวันนี้ ก็ล้วนมาจากการกำหนดไว้ของพันธุกรรมแล้วทั้งนั้น ดังนั้น การศึกษาเกี่ยวกับการถอดรหัสพันธุกรรมและการตัดต่อยีนส์ จึงถือเป็นความหวังใหม่ของวงการสาธารณสุข
เพราะนอกจากการตัดแต่งพันธุกรรมจะช่วยพัฒนาเกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ยังมีโอกาสที่จะทำให้โรครักษายากที่มีสาเหตุจากพันธุกรรมถูกกำจัดไปด้วย นอกจากนี้ หากนักวิจัยสามารถทำการวิจัยเกี่ยวกับจีโนมิกส์ได้สำเร็จ จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อย่างพืชและสัตว์ได้เช่นกัน
จาก 5 เมกะเทรนด์ที่เราได้หยิบยกมาเล่าให้ฟังในวันนี้ ล้วนแต่มีความน่าสนใจ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคตได้อย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าในขณะนี้ ESG อาจจะยังไม่ใช่เมกะเทรนด์ที่มีความหวือหวาเท่ากับเมกะเทรนด์อื่นๆ แต่ว่า ‘ESG’ ก็ได้กลายมาเป็นตัวชี้วัดสำคัญของนักลงทุนในการพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น หากบริษัทใดมีการนำแนวคิด ESG มาผนวกเข้ากับการดำเนินงานภายในบริษัทของตนเอง ก็น่าจะสามารถการันตีการเติบโตของบริษัทในระยะยาวได้ในระดับหนึ่ง
Sources: https://bit.ly/37Axu4L