เทคโนโลยีจะเข้ามีบทบาทในด้านสุขภาพและการแพทย์อย่างไร? ส่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแพทย์ที่น่าจับตามองจาก Taiwan Excellence ในงาน Medical Fair Thailand 2023

Share

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกำลังเข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ เรื่องของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น AI (Artificial Intelligence) หรือความฉลาดของหุ่นยนต์ เป็นสิ่งที่ได้ยินกันบ่อยว่าจะเข้ามาดิสรัปหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาด การลงทุน หรืออสังหาริมทรัพย์ เช่นเดียวกัน ในเรื่องที่ใกล้ตัวเราอย่างเรื่องสุขภาพ เทคโนโลยีเหล่านี้ก็เข้ามามีบทบาทด้วย ทำให้ปัจจุบันมีเครื่องมืออัจฉริยะที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพดูแล รักษาสุขภาพเพิ่มขึ้นมากมาย

เมื่อ13-15 กันยายนที่ผ่านมา ณ ไบเทค บางนา อีเวนต์สำคัญด้านสุขภาพและการแพทย์อย่าง Taiwan Excellence “Future Telemedicine: Connecting Healthcare, Caring for the World” ที่จัดขึ้นภายในงาน “Medical Fair Thailand 2023” เป็นการรวมเอาเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ 15 บริษัทชั้นนำจากประเทศไต้หวันที่ได้รับรางวัล Taiwan Excellence มาจัดแสดงที่นี่

ในงานวันนั้น หากใครมีโอกาสเข้าร่วมคงได้ตื่นตาตื่นใจกับเทคโนโลยีทางการแพทย์สุดล้ำจากไต้หวันกันไปแล้ว แต่หากใครพลาดไป Future Trends ได้รวมเอานวัตกรรมที่น่าจับตามองมาไว้ให้

และพิเศษกว่านั้นคือ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ ‘เพ่ย หยู่ หลิน’ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเชิงกลยุทธ์ของสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) ถึงอนาคตของการนวัตกรรมการแพทย์และแนวทางในการส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมอีกด้วย ชวนมาเดินสำรวจงานนี้และอัปเดตนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพที่น่าสนใจไปด้วยกัน

เริ่มจากการพาดูภาพรวมของงานกันก่อน ในงานครั้งนี้ ทาง Taiwan Excellence ได้ขนเอานวัตกรรมด้านสุขภาพอัจฉริยะ เทคโนโลยีชีวภาพ และการแพทย์ที่ได้รับรางวัล Taiwan Excellence มาให้ผู้คนได้ทำความรู้จักกัน 15 บริษัท โดยบริษัทที่ได้รางวัลนี้ถือเป็นการการันตีว่าสิ่งประดิษฐ์ของพวกเขามีความโดดเด่นทั้งในด้านวิจัยและพัฒนา การออกแบบ คุณภาพ และการตลาด ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการจากรัฐบาลไต้หวันและผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ ทั่วโลกว่าเป็นต้นแบบที่ดีในการสร้างนวัตกรรม

เมื่อถามถึงความน่าสนใจของนวัตกรรมที่มาจัดแสดงครั้งนี้ เพ่ย หยู่ หลิน เล่ากับเราว่า

“เทคโนโลยีที่น่าจับตามองมีหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มเทคโนโลยีการแพทย์ที่ใช้ AI ในการช่วยการทำงานเรื่องความแม่นยำกลุ่มเทคโนโลยีที่ใช้หุ่นยนต์ หรือ Robotic เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ หรือส่วนสุดท้ายที่อาจไม่ได้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แต่เกิดจากการออกแบบที่ตอบโจทย์ผู้ป่วย เช่น เครื่องเอ็กซเรย์พกพา”

ต่อเนื่องจากที่เพ่ย หยู่ หลินเล่า เราขอพาไปดูตัวอย่างนวัตกรรมจาก 3 บริษัท ที่ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ (Product Launch) ในงานเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพความล้ำนำสมัยของเทคโนโลยีการแพทย์ในปัจจุบัน

[นวัตกรรม Optima Turn พื้นผิวรองรับลดแรงกดทับ จาก Wellell Inc.]

ในการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถขยับตัวด้วยตนเองได้ หมอและพยาบาลจะต้องช่วยเหลือให้ผู้ป่วยขยับตัวได้ เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ แต่การขยับตัวผู้ป่วยมีอุปสรรคอยู่ไม่น้อย ยิ่งกรณีที่ผู้ป่วยมีน้ำหนักมาก อาจทำให้ผู้ดูแลได้รับบาดเจ็บได้

บริษัท WellWell Inc. ได้เฝ้าศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมการขยับตัวของผู้ป่วยติดเตียง จึงได้ออกแบบมาเป็น ‘Optima Turn’ พื้นผิวรองรับลดแรงกดทับ ช่วยให้การพลิกตัวผู้ป่วยเป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทางคลินิก และถือเป็นการออกแบบโดยยึดเอาตัว ‘ผู้ป่วย’ เป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากการที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยสูงวัยที่ต้องนอนติดเตียงมากขึ้น

[พลิกโฉมอุตสาหกรรมทันตกรรม ต่อยอดสู่การแพทย์ทางไกลด้วยเครื่องเอ็กซเรย์มือถือ จาก ERI]

นวัตกรรมเครื่องเอ็กซเรย์มือถือ (Handheld X-ray Machine) เริ่มต้นจากการมองเห็นปัญหาในคลินิคทันตกรรมที่ผู้ป่วยต้องลุกจากเตียงบ่อยๆ เพื่อไปเอ็กเรย์ในอีกห้องหนึ่ง

ผู้ผลิตอย่าง ERI Energy Resources International Co., Ltd. จึงได้พัฒนาเครื่องเอ็กซเรย์ทันตกรรมมือถือที่สามารถพกพาและเคลื่อนย้ายได้ มาช่วยให้การเอ็กซเรย์ในทันตกรรมสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดไปใช้ในการรักษาทางไกลได้อีกด้วย

ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ ERI เล่าว่า เมื่อคนนำเครื่องมือนี้ไปใช้ในพื้นที่ห่างไกล มันเป็นข้อดีที่พวกเขาได้เข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ แต่การออกแบบเครื่องมือแพทย์ให้คนทั่วไปใช้งานได้เองนั้นมีความท้าทายไม่น้อย เนื่องจากผู้ใช้ขาดความรู้ ความเชี่ยวชาญในการใช้อุปกรณ์ อย่างไรก็ตาม ERI ก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้คนมากยิ่งขึ้น

[โซลูชันหุ่นยนต์เพื่อการผ่าตัดที่แม่นยำ จาก HIWIN]

ในงานนี้ HIWIN TECHNOLOGIES CORP. ผู้ผลิตระบบควบคุมการเคลื่อนที่เชิงเส้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ได้นำเสนอ MTG H100 โซลูชันหุ่นยนต์สำหรับบริการทางการแพทย์ที่เป็นเหมือนผู้ช่วยผ่าตัดของศัลแพทย์ ด้วยความสามารถในการเคลื่อนไหวอย่างไหลลื่น และการวางตำแหน่งกล้องเอนโดสโคปที่แม่นยำ ทำให้เจ้าหุ่นยนต์นี้ได้รับความไว้วางใจทั้งจากแพทย์และผู้ป่วย

นอกจากนี้ยังมี MRG P100 ที่ช่วยให้ผู้ป่วยฝึกเดินได้เอง ลดภาระงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์ได้มาก ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะ HIWIN เสริมว่าในอนาคตไม่ใช่แค่หุ่นยนต์ทั่วไปที่จะทำมาใช้ทางการแพทย์ ทั้งการนำข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์มาใช้ร่วมกับหุ่นยนต์มากขึ้น จะยิ่งทำให้เกิดนวัตกรรมและเครื่องมือใหม่ๆ อีกเป็นจำนวนมาก

จากตัวอย่างนวัตกรรมจากทั้ง 3 บริษัทที่เล่าไปจะเห็นได้ว่าการออกแบบสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เพียงแค่การนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ แต่ทุกผลิตภัณฑ์ล้วนออกแบบจากโจทย์ของ ‘คน’ ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้ป่วย แพทย์หรือพยาบาล

เมื่อนำความต้องการหรือปัญหาของคนมาเป็นตัวตั้งต้น พร้อมกับเสริมเทคโนโลยีเข้าไปจึงกลายเป็นนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้คนได้จริง ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนวัตกรรมและเทคโนโลยีในงานนี้ที่เราหยิบยกมาเท่านั้น เพราะภายในงานยังเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์จากบริษัทอื่นๆ ที่น่าสนใจอีก

[จะเกิดนวัตกรรมได้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน]

การเกิดนวัตกรรมเหล่านี้ขึ้นได้จำเป็นจะต้องได้รับการผลักดัน เราถามเรื่องนี้กับเพ่ย หยู่ หลิน ในฐานะผู้นำองค์กรที่คอยซับพอร์ตเรื่องนี้ เธอเล่าถึงแนวทางการส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแพทย์ของ TAITRA และ Taiwan Excellence ว่า

“เราทำงานร่วมกันในการพัฒนาและส่งเสริมให้เกิด นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ ด้วยกลยุทธ์และวิธีการหลายอย่าง เช่น สนับสนุนเงินทุน เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัย ท้ังยังเปิดพื้นที่ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและนักพัฒนา ได้นำผลงานมานำเสนอต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ในงานวันนี้ ที่เราสนับสนุนโอกาสให้กับทุกบริษัทที่ได้รับเลือก รวมถึงสนับสนุนให้เกิดการอบรม จากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ”

และเมื่อถามต่อไปถึงเป้าหมายของ Taiwan Excellence เธอแบ่งปันกับเราว่า “เป้าหมายระยะสั้นของเราในตอนนี้ คือการสร้างพื้นที่ให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการแพทย์ของไต้หวันให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดไทย เพราะตลาดของไทยนั้นเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าไต้หวันมาก และมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก”

“ส่วนเป้าหมายในระยะยาวของเรา คืออยากเห็นการลงทุนของผู้ประกอบการในอุตสากรรมนี้ มาลงทุนในประเทศต่างๆ มากขึ้นใน เราหวังว่าการทำงานร่วมกันในส่วนของภาครัฐและเอกชน จะมีการสร้างความร่วมมือรู้แบบต่างๆ มากขึ้นด้วย”

จากงานครั้งนี้ เราได้เห็นว่าอุตสาหกรรมการแพทย์กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ด้วยปัจจัยด้านเทคโนโลยี รวมถึงการให้ความสำคัญและสนับสนุนจากหน่วยงานอย่าง TAITRA และ Taiwan Excellence ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตอันใกล้ของเทคโนโลยีการแพทย์ เมื่อเครื่องมือและระบบการวิเคราะห์ทำงานได้แม่นยำขึ้น

สิ่งนี้จะสามารถยกระดับการรักษาและการดูแลสุขภาพของผู้คนได้มากขึ้นไปอีก และสุดท้ายเทคโนโลยีเหล่านี้จะไม่ได้ส่งผลกระทบทางบวกแค่กับตัวผู้ป่วย แต่ยังส่งผลไปยังกับผู้ดูแล ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือบุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและสังคมให้ดียิ่งขึ้น