เชื่อว่านักธุรกิจหรือนักการตลาดหลายๆ คน น่าจะรู้จักกับ “Marketing Technology” หรือ “MarTech” เทรนด์การตลาดที่จะเข้ามาพลิกโลกอนาคตต่อจากนี้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว MarTech ไม่ได้กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบันนี้ ณ ตอนนี้ต่างหาก
ข้อความข้างต้นเป็นคำพูดของคุณจิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ นักการตลาดมากประสบการณ์ ผู้เขียนหนังสือ MARKETING TECHNOLOGY TREND 2021 และเป็นผู้ก่อตั้ง Marketing Tech Thailand ที่ได้มาให้ความรู้ในงาน ‘MarTech Vision 2022‘ การตลาดแบบ MarTech และเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในโลกอนาคต ซึ่งเรามาดูกันดีกว่าว่า งานนี้จะให้ความรู้อะไรกับเราบ้าง
MarTech คืออะไร?
MarTech คือ กลุ่มซอฟต์แวร์โซลูชันต่างๆ ที่ใช้งานโดยนักการตลาดเพื่อสนับสนุนภารกิจสำคัญตามวัตถุประสงค์ของธุรกิจ และขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในองค์กร ซึ่ง MarTech Solution ส่วนมากจะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการคอนเทนต์ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า การจัดการโฆษณาต่างๆ การทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และการนำข้อมูลการตลาดมาวิเคราะห์
Scott Brinker ผู้เชี่ยวชาญด้าน MarTech และบรรณาธิการเว็บไซต์ chiefmartech.com ได้ทำการรวบรวมบริษัทที่ใช้ซอฟต์แวร์เพื่อทำงานด้าน MarTech ต่างๆ โดยผลปรากฎว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในปี 2011 มีบริษัทที่ใช้ MarTech ประมาณ 150 บริษัท และต่อมาในปี 2020 ก็ได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 8,000 บริษัท ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นที่เพิ่มขึ้นมาถึง 5,233 เปอร์เซ็นกันเลยทีเดียว
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า MarTech มีการเติบโตและเพิ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ เพราะมันทำให้นักการตลาดสามารถเร่งความเร็วในการตอบสนองต่อผู้บริโภค และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทางธุรกิจ MarTech จึงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับองค์กรธุรกิจในยุค New Normal ต่อจากนี้นี่เอง
ประโยชน์ของ MarTech
คุณจิตติพงศ์ ได้กล่าวว่า แต่ก่อนเราคงทำได้แค่ใช้โปรแกรม Excel เพื่อดูข้อมูลตามคอลัมน์ต่างๆ แต่พอเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น เราสามารถที่จะดูข้อมูลที่ออกมาเป็น Visualization ที่เข้าใจง่ายกว่า แถมยังสามารถฟิลเตอร์ข้อมูลหรือช่วงเวลาต่างๆ โดยยกตัวอย่างการใช้เครื่องมือ Google Trend
ซึ่งประโยชน์จาก MarTech ที่ช่วยให้เราอำนวยสะดวกดังกล่าว จะช่วยให้เข้าใจข้อมูลเชิงลึกได้มากขึ้น ยกตัวอย่าง หากเราจะขายอาหารสักอย่าง แต่เรายังไม่ทราบว่าจะขายอะไรดี เราก็สามารถไปดึงข้อมูลมาดูว่า เวลาคนที่เขานึกถึงอาหาร เขาจะนึกถึงอะไรมากสุด และเมื่อเราได้ข้อมูลมา เราก็จะสามารถเลือกที่จะขายอาหารอะไรได้อย่างตรงจุดและสร้างโอกาสให้เราได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลมาทำคอนเทนต์ที่การันตีว่าคนส่วนใหญ่จะสนใจได้อีกด้วย
เข้าใจข้อมูลเชิงลึกได้มากขึ้นแล้ว MarTech ยังสามารถออกแบบวิธีการสื่อสารและเชื่อมโยงกับลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อ โดยการที่เราจะสามารถวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของเราส่วนใหญ่ว่า ได้รับคอนเทนต์หรือสารจากสื่อไหน แล้วเราก็จะส่งผ่านข้อมูลผ่านสื่อนั้นๆ เพื่อสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้อย่างหลากหลาย และแน่นอนว่าด้วยความสามารถของ MarTech จะทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลเชื่อมโยงลูกค้าข้ามระบบได้อย่างรวดเร็ว โดยให้ข้อมูลต่างๆ เข้ามาในที่เดียวกันได้
ในด้านของการทำโฆษณาหรือแคมเปญ แต่เดิมทุกคนที่ใช้วิธีในการยิง Ads Facebook, Google, YouTube ฯลฯ ที่เราจะไปหาข้อมูลหลังบ้านกันมาก่อน ในยุคของ MarTech จะทำให้เราวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายและเห็นภาพได้ชัดยิ่งกว่าเดิม ยกตัวอย่างโปรแกรมหนึ่งที่ชื่อ Google Data Studio เครื่องมือสำหรับใช้ดึงข้อมูลต่างๆ เพื่อมาสร้าง Dashboard ดูข้อมูลได้ในที่เดียว ทั้งข้อมูลเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม ที่ช่วยให้เราดูข้อมูลได้ง่าย และเห็นภาพรวมได้ชัดเจน โดย Data Source ที่ Data Studio สามารถดึงมาไว้ได้ ก็มีตั้งแต่แพลตฟอร์มและเครื่องมือของ Google เอง เช่น Google Ads, YouTube, Google Analytics เป็นต้น ซึ่งเครื่องมือที่กล่าวถึงเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ได้ฟรี เพียงแค่มี Gmail หรือ Google Account
ด้วยความเข้าถึงง่ายของ MarTech ทำให้ประโยชน์ของมันไม่ได้หยุดอยู่แค่กับคนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจ แต่มันยังเข้ามามีส่วนในการอำนวยความสะดวกสำหรับทุกสายอาชีพ ที่จะค่อยๆ กลายเป็นเทรนด์เครื่องมือที่เรานำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
MarTech สำคัญที่ควรไปศึกษาเพิ่มเติม
นอกจากที่เราจะได้รู้ความหมายและประโยชน์ของ MarTech แล้ว คุณจิตติพงศ์ ก็ยังได้แนะนำหมวดหมู่ของ MarTech สำคัญที่ควรไปศึกษาเพิ่มเติมไว้ดังนี้
1. Marketing Analytics – เทคโนโลยีประเภทวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลลูกค้า ข้อมูลการใช้สื่อ รวมถึงการติดตามคู่แข่ง
2. Cloud/Data Integration Platform – MarTech ยุคใหม่นั้นมักอยู่บน Cloud ฉะนั้นจึงต้องมีเทคโนโลยีประเภทอินทิเกรทกับ Data
3. Data Visualization – เครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลดิบให้แสดงออกมาเป็นภาพ เช่น กราฟ พล็อต แผนที่ หรือตารางได้
4. Advertising Technology – เทคโนโลยีประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์ด้านการโฆษณา เพื่อประโยชน์ทั้งด้านประสิทธิภาพแคมเปญ ทั้งด้านการวัดผลที่แม่นยำ รวมถึงการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรง
5. Content Marketing Tools – เครื่องมือช่วยสร้างคอนเทนท์ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการ research หา Idea, Topic การเขียนคอนเทนต์ใหม่ๆ ทั้งการหาจากเทรนด์ และการหาจากคู่แข่งในธุรกิจคล้ายคลึงกัน
6. Search Marketing Technology – เครื่องมือที่ช่วยในการทำ Search Marketing ซึ่งหมายรวมทั้ง Search advertising (Google Adword) หรือ Organic Search (SEO)
7. Social Media Marketing – เครื่องมือ MarTech ที่เอาไว้ใช้จัดการกับ Social Media ต่างๆ รวมถึงการดึงข้อมูลจาก Social Media ขึ้นมาทำ Visualization
8. CDP, CRM Marketing Automation – เครื่องมือต่างๆ ที่เอาไว้เพื่อสื่อสารกับลูกค้าต่างๆ นั้นเอง
9. Marketing Cloud Suites – ซอฟต์แวร์จากเทคโนโลยีบริษัทใหญ่ๆ ที่เอามารวบรวมกันเป็น Suites เช่น Salesforce หรือ Adobe ที่จะมีหลายๆ ซอฟต์แวร์รวมให้ใช้ในนั้นเพื่อความสะดวก
โดยสุดท้ายเครื่องมือต่างๆ ดังกล่าว จะสามารถนำใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้นั้น ก็จะขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ในแต่ละคนที่แตกต่างธุรกิจและกลยุทธ์ที่แตกต่างกันไป
MarTech Vision 2022 เทรนด์การตลาดใน 2 ปีจากนี้จะมีอะไรบ้าง
8 เรื่องที่คุณจิตติพงศ์ คาดการณ์ไว้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ที่ทุกควรควรรู้ไว้
1. Customer Experience Shift
ทุกวันนี้สังคมกำลังผลักดันในเรื่องของสังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society ด้วยโลกที่รับผลวิกฤตโควิด 19 เทคโนโลยีเงินดิจิทัลจึงกำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่ธุรกิจต้องคำนึงและเปลี่ยนแปลงในอนาคต นอกจากนี้ Customer Experience ที่เปลี่ยนไป ลูกค้าคาดหวังที่จะใช้งานแอพพลิเคชั่นเพียงแอพเดียวที่สร้างความสะดวกได้หลากหลายองค์ประกอบ หรือจบในแอพเดียว นั่นทำให้เกิดการเติบโตของ Super Application อย่าง Grab ที่ทำได้หลายอย่าง รวมถึงจ่ายเงินใน wallet ผ่านแอพของตัวเอง แนวโน้มของแบรนด์แอพพลิเคชั่นต่างๆ จึงจะไปในทางนี้ ที่ไมได้แค่ Change ตามลูกค้า แต่ Shift หรือกลายเป็นการใช้งานรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกๆ ทาง
2. MarTech Explosion
ตอนนี้เครื่องมือ MarTech มีมากมาย แต่ส่วนหนึ่งที่ทำขึ้นมานั้นใช้ไม่ได้จริง ซึ่งอาจจะเกิดจาก Start-Up ที่ทำโดยขาดประสบการณ์ ส่วนบางตัวอาจมีความสามารถมาก แต่เราอาจกลับไม่รู้จัก หรือบางเครื่องมือที่เรารู้จักและมีความสามารถมาก แต่ก็อาจไม่เข้ากับองค์กรธุรกิจที่เราทำอยู่ วิธีการเลือก MarTech เพื่อนำมาใช้งานจึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่องค์กรต้องเห็นความสำคัญในการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะกับลูกค้า และแนวทางการทำธุรกิจและการขายขององค์กรนั้นๆ
3. Platform & Direct to Consumer
แบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ เริ่มอยากจะสร้างช่องทางขาย และการจัดส่งในแบบของตนเองมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางใดๆ เทรนด์ที่ทุกองค์กรธุรกิจที่คนอยากจะมีแพลตฟอร์มเป็นของตัวเองจึงเป็นเรื่องที่กำลังมาแรง โดยที่มันจะมีประโยชน์ในการสร้าง Connection กับลูกค้าได้โดยตรง นอกจากนี้ Data ของลูกค้าเป็นอะไรที่สำคัญมากที่องค์กรอยากจะเก็บเอง เพื่อนำมาวางกลยุทธ์วางแผนการขายต่อๆ ไป
4. CDP go to mainstream
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า CDP คือ โปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อนักการตลาดโดยเฉพาะ โดยจะไม่ใช่แค่เก็บข้อมูลลูกค้าแต่สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูล จนทำให้นักการตลาดรู้ลึกถึง Customer Insight ทำให้ Brand สามารถทำการตลาดแบบ Personalized Marketing ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งการมี CDP นั้นก็เพื่อแก้ปัญหาของธุรกิจส่วนใหญ่คือข้อมูลที่ว่ามาจากหลายๆแหล่ง มีรูปแบบที่ต่างกันจนไม่สามารถจัดเก็บและประมวลผลได้ในรูปแบบและที่ๆ เดียว ด้วยเหตุนี้ทำให้ทุกองค์กรธุรกิจจะใช้ระบบ CDP จนมันกลายเป็น mainstream แน่นอน
5. Practical Personalization
Personalization marketing คือ การสร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย ทั้งการสื่อสารข้อความแบบ Dynamic การปรับรูปแบบบริการ ให้เหมาะสมกับ segmentation ต่างๆ ของลูกค้า โดยหลังจากนี้ Personalization จะเป็นที่นิยมและเป็นสิ่งที่สามารถนำมาปรับประยุกต์ใช้จริงได้มากขึ้น โดยการดึง Data จากเครื่องมือ MarTech ต่างๆ ที่มากมาย
6. Customer Data Moral & Ethical
เรื่องของคุณธรรมจริยธรรม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ที่ตอนนี้เหล่าลูกค้ารู้กันมากขึ้น ถึงการดึงข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาไปใช้ในการทำการขาย จากเดิมที่เคยดู Cookie ผ่านการใช้งานซอฟต์แวร์ต่างๆ ของลูกค้า จะถูกบล็อก เพราะลูกค้าเริ่มรู้ว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้มีความเสี่ยงมากกว่าแบรนด์ต่างๆ ที่จะให้ประโยชน์แก่พวกเขา นี่จึงเป็นอีกเรื่องสำคัญที่นักการตลาดต้องเรียนรู้ และหากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อไม่ละเมิดกฎหมาย
7. Low Code Platform
แนวธุรกิจเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเราคิด Business Model ออกมาได้ หรือหาโปรดักที่จะขายได้ แต่โดนใจหรือเปล่าล่ะ? Low Code Platform จึงถือกำเนิดมาเพื่อที่จะช่วยให้การออกแบบและพัฒนา Software Application ที่เป็นไปได้อย่างรวดเร็วโดยมีการเขียนโค้ดเองเกิดขึ้นน้อยที่สุด โดยสิ่งพวกนี้ก็จะเข้ามาช่วยให้ความสะดวกแก่ผู้ขายสามารถใช้ Business Idea ของตนเองให้เกิดขึ้นจริงได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้มันยังสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของ Business ได้อย่างรวดเร็วกว่าการพัฒนาแบบเดิมอย่างมาก นักขายหน้าใหม่ๆ จึงมีพื้นที่ให้ทดลองไอเดียโดยที่ความเสี่ยงน้อยลง
8. Rising of The Marketing Technologist
ความต้องการของตลาดแรงงาน ที่ต้องการคนที่มีความสามารถด้าน Marketing และ Technologist ในตัว
Chief Marketing Technologist เทรนด์สกิลที่สร้างโอกาสในอนาคต
อย่างที่กล่าวไปว่าในอนาคต ผู้ที่มีความสามารถในด้าน Marketing และ Technologist กำลังจะกลายเป็นที่ต้องการในอนาคต คุณจิตติพงศ์ จึงได้ค้นพบความเป็น ‘Chief Marketing Technologist’ หรือ ‘CMT’ บุคคลกรสำคัญที่จะสามารถมีสกิลครบองค์ประกอบที่ควรเข้าใจด้านการทำธุรกิจขาย การเข้าขาย เทคโนโลยี ความเข้าใจในลูกค้า และการจัดการองค์กรได้
คุณจิตติพงศ์ ที่เชื่อว่าในยุคที่ผู้คนเห็นความสำคัญของ Marketing และ Technology จะต้องมีคนที่มีแรงงานที่มีความเป็น CMT ซึ่งหลายๆ คนที่คุณจิติพงศ์ ได้ร่วมงานก็พบว่า มีบุคลากรมากมายหลายคน ที่จะสามารถพัฒนาไปเป็น CMT ได้ ด้วยเหตุนี้ Marketing Tech Thailand จึงได้ร่วมมือกับ Future Class สถาบันฝึกอบรมทักษะในอนาคต เกิดเป็นหลักสูตรที่ต้องการจะผลัดดันให้บุคลากรที่เป็น Chief Marketing Technologist คนแรกเข้าสู่ตลาด เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกการตลาดในเมืองไทย
โดยรายละเอียดหลักสูตรจะเป็น 12 สัปดาห์ของการเรียน 11 Modules โดยจะมีแกนการเรียนรู้ 3 แกนได้แก่ Marketing Technology, Customer Technology, Organization Transformation ที่จะนำพาไปสู่ความเป็น Marketing Technologist นั่นเอง
เมื่อก่อนเรารู้จัก “Digital Marketing” ต่อมาเราก็ได้รู้จักกับยุค Big Data และ AI ซึ่งพอมาในวันนี้เราก็ข้ามไปสู่อีกขั้นนั่นคือ MarTech ที่สะท้อนให้เห็นว่าคนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจ และการตลาดต่างต้องคอยปรับตัวตลอดเวลา
สุดท้าย หากใครสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับ Marketing Technology เร็วๆ กำลังจะมีงาน
“ MarTech Consult Clinic 2022 ” ครั้งแรกที่คุณจิตติพงศ์ จะนำทีม MarTech Leader ของไทย
จะมาตอบคำถามการทำ Marketing Technology กันแบบสดๆ พร้อมขยี้ทุกประเด็นที่หลายคนสงสัยกันแบบจุใจ ลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ https://bit.ly/3fddF4n
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับหลักสูตร CMT
Website : https://bit.ly/3hYnS6y
Facebook : https://bit.ly/3Ci3uWa
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับในวงการ Marketing Technology
Facebook : https://bit.ly/3ioZUSa