MarTech หรือ Marketing Technology คือ ทำการตลาดรูปแบบใหม่ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาเป็นส่วนสำคัญในการทำการตลาด ทั้งช่วยจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล หรือการติดตามข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้า หรือแม้แต่คู่แข่งทางธุรกิจ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำการตลาดในยุคดิจิทัล เป็นเทรนด์ที่ผู้ประกอบการและนักการตลาดไม่ควรพลาด
โดยเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา MarTech Thailand ร่วมกับ Future Trends จัดงาน 1st Meetup Marketing Technology & Innovation ที่ Data First เพื่อนัดพบพูดคุยคนวงการ Martech ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนร่วมงานมากกว่า 200 คน ได้รับการสนับสนุนจาก Data First , PRIMO – Omnichannel Marketing Platform และ PAM Marketing Automation
ทั้งนี้ ในงานยังมีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนบนเวที อาทิ จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ Founder of Marketing Tech Thailand Group อนันฑ์ ตีระบูรณะพงษ์ Vice Executive Data & Innovation Director, Data First ณัฐพล ม่วงทำ นักการตลาดสายข้อมูล เพจการตลาดวันตอน วีร์ สิรสุนทร Co-Founder & CEO of PRIMO และ ไชยพงศ์ ลาภเลี้ยงตระกูล CEO 3DS Interactive & PAM marketing automation เนื้อหาการพูดคุยแลกเปลี่ยนเป็นไปอย่างสบายๆ และมีรายละเอียดที่เราเก็บสรุปจากภายในงานมาให้ทุกคนได้อ่านกันแบบกระชับกัน ดังต่อไปนี้
MarTech ช่วยส่งสิ่งที่ใช่ สู่ ‘คนที่ใช่’ ได้อย่างถูกต้อง
ไชยพงศ์ ลาภเลี้ยงตระกูล CEO 3DS Interactive & PAM marketing automation กล่าวถึงความน่าสนใจของ Marketing Automation ว่า ธรรมชาติเลือก Automation เพื่อให้มนุษย์อยู่รอด ร่างกายมนุษย์หลายส่วนทำงานอย่างอัตโนมัติ เช่น การหายใจเป็นไปโดยเราไม่รู้สึกตัว ไม่ต้องคิดควบคุม แต่เมื่อเราโฟกัส การหายใจจะเข้ามาอยู่ในการควบคุมของเราทันที กลายเป็นแมนนวล กลไกอัตโนมัติดังกล่าวทำให้เราทำงานเหนื่อยน้อยลง จึงเป็นที่มาของการนำมาประยุกต์ใช้ในการตลาด
Marketing Automation หรือการตลาดอัตโนมัติ สามารถช่วยนักการตลาดจัดการงานประจำวันได้ง่ายขึ้นและอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเพิ่มยอดขายรวดเร็วยิ่งขึ้น PAM จะรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และส่ง ‘ข้อความที่ใช่’ ผ่าน ‘ช่องทางที่ใช่’ ใน ‘เวลาที่ใช่’ ไปถึงลูกค้า (https://pams.ai/th)
เช่น เมื่อมีคนได้พอยต์ จะมีการส่งข้อความอัตโนมัติให้ทำการประเมินคุณภาพ ก็มีโอกาสได้คะแนนประเมินสูง เพราะคนกำลังอยู่ในโมเนต์ที่ดี เป็นตัวอย่างหนึ่งโมเมนต์ที่มีอีกมากมาย
ในแง่หนึ่ง เมื่อเราใช้เครื่องมืออะไรบ่อยๆ จะรู้สึกว่าสิ่งนั้นจำเป็น เช่น เราใช้ Google Maps เพื่อใช้ในการเดินทางบ่อยๆ เราจะรู้สึกว่าเครื่องมือนี้สำคัญต่อการเดินทาง แต่เมื่อพิจารณาลึกๆ แล้ว ที่จำเป็นคือการถึงจุดหมายปลายทางต่างหาก หรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่เราใช้ซื้อของ สิ่งที่เราต้องการจริงๆ อาจเป็นแค่ต้องการซื้อสินค้านั้นๆ ไม่ใช้ตัวกลางอย่างเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม ต้องมีข้อมูลดาต้าที่ดีเพื่อให้เข้าถึงความต้องการนั้นมากขึ้น และสามารถตอบโจทย์ทางการตลาดที่ดีขึ้นได้
ข้อมูลคือหัวใจสำคัญ
อนันฑ์ ตีระบูรณะพงษ์ Vice Executive Data & Innovation Director, Data First กล่าวว่า ข้อมูลเชิงพฤติกรรมเป็นข้อมูลที่มีคุณค่ามากที่สุด เครื่องมือ Martech ถ้าสามารถนำเอาข้อมูลพฤติกรรมเหล่านี้มาได้จะดีมากสามารถเป็นดาต้าที่ต่อยอดใช้ประโยชน์ต่อได้มากมาย เช่น ถ้าเรามีข้อมูลของคนที่ชอบดิสนีย์แลนด์ เราต้องการทราบว่า เขามีแพลนจะไปเที่ยวในช่วงนี้หรือไม่ เพื่อที่เราจะทำการตลาดให้และสร้างโอกาสที่จะขายตั๋วให้เขาได้ แต่ถ้าเขาไม่มีแพลนจะไปเที่ยวในช่วงนี้ก็มีโอกาสน้อยที่จะขายได้
เครื่องมือ ที่ Data First นำมาวิเคราะห์เพื่อทำการตลาด ยกตัวอย่างเช่น นำมาทำ Digital Marketing Strategy Planning และ facebook Ads, Google Ads, LINE Ads Platform ในการทำโฆษณา Digital Communication และใช้เครื่องมือ Dashboard ต่างๆ ในการ Optimize แคมเปญ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายอย่างหนึ่ง คือพฤติกรรมลูกค้าที่ออฟไลน์-ออนไลน์สลับกัน เช่น การที่ลูกค้าเลือกไปสัมผัสสินค้าจริงที่หน้าร้าน (ออฟไลน์) แต่กลับไปซื้อสินค้าทางออนไลน์ เพราะราคาอาจจะถูกกว่า หรือดูในออนไลน์แล้วไปซื้อออฟไลน์ จึงเป็นความท้าทายในการทำการตลาดว่าเราจะทำอย่างไร เราจะจับพฤติกรรมอย่างไร ซึ่ง Data First มี 2 เครื่องมือ ที่ช่วยเรื่องจับพฤติกรรมผู้คนเพื่อนำเป็นดาต้าไปต่อยอดทำการตลาดต่อไป คือ 1. C-First ที่จะจับดูว่า คนคลิกหรือเข้าไปดูอะไรบ้าง สำหรับลูกค้าที่มาทางออนไลน์ และ 2. Labelling ที่จับพฤติกรรมลูกค้าที่มาในรูปแบบใบเสร็จ สำหรับลูกค้าที่มาทางออฟไลน์ช่วงนี้ Data First มีทดลองให้ใช้ฟรี 90 วัน สนใจคลิกได้ที่ลิงก์ https://shorturl.asia/y6zng
ไม่ต้องซับซ้อน แต่ต้องตรงจุด
ด้าน ณัฐพล ม่วงทำ นักการตลาดสายข้อมูล เพจการตลาดวันตอน มาแบ่งปันเกี่ยวกับเรื่องการตลาด เรื่องแรกคือ อยากให้บริษัทเทคฯ หรือเอเจซี่ทั้งหลาย ใส่ใจในการทำการตลาดและแบรนดิ้งของตัวเอง ลูกค้าจะเลือกเราเมื่อเขารู้สึกว่าเราสามารถช่วยเขาได้ เครื่องมือในตลาดตอนนี้มีความคล้ายคลึงกัน แตกต่างกันไม่มาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะดึงดูดลูกค้าด้วยการทำการตลาด ซึ่งผมพบว่า สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ภาพลักษณ์ดีคือ การแบ่งปันความรู้ของคุณออกไป เมื่อลูกค้าเห็นจะรู้สึกว่าเรารู้จริงในเรื่องนั้น และเชื่อว่าเราน่าจะช่วยแก้ปัญหาของเขาได้
เรื่องที่สองคือ ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในขั้นเริ่มต้น ซึ่งมีตลาดกลุ่มนี้เยอะมาก ฉะนั้น อยากให้เริ่มต้นช่วยลูกค้าจากอะไรง่ายๆ ไม่ซับซ้อนก่อน แล้วค่อยเพิ่มความซับซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆ ตัวอย่าง ในงาน DSME 2022 ที่ผ่านมา ผมทำเครื่องมือง่ายๆ ตัวหนึ่งชื่อว่า CTM Guidline Canvas เป็นเครื่องมือการตลาดอย่างง่ายๆ แต่ผลปรากฏว่า ได้รับผลตอบรับดี หลายคนชอบ เราอาจเริ่มต้นง่ายๆ อย่างนี้
เรื่องสุดท้ายคือ เราต้องเริ่มเก็บดาต้าเป็นของเราได้แล้ว เพราะบ่อยครั้งการที่เราจะเข้าถึงข้อมูลภายของลูกค้านั้นยากมาก แม้แต่หน่วยงานภายในองค์กรด้วยกันเองบางครั้งก็ยาก บางครั้งอาจจะต้องรอนาน เมื่อไม่มีดาต้าก็เหมือนเชฟที่มีเครื่องครัวแต่ไร้วัตถุดิบก็ไม่สามารถทำงานได้ แต่เมื่อเรามีข้อมูลเป็นของตัวเองจะช่วยได้มาก ซึ่งบางอย่างเป็นข้อมูลที่ลูกค้าไม่มี
ทั้งหมดคือเนื้อหาในบรรยากาศเป็นกันเองที่ผู้เชี่ยวชาญได้มาร่วมแลกเปลี่ยนในงาน 1st Meetup Marketing Technology & Innovation ในครั้งนี้ และในช่วง Q1 ของปี 2023 ที่ใกล้จะถึงนี้ MarTech Thailand ได้จับมือ Future Trends อีกครั้ง ร่วมกันจัดงาน Marketing Technology & Innovation Expo มหกรรมนวัตกรรมการตลาดชั้นนำของประเทศไทย เพื่อร่วมพบปะผู้ประกอบการ พร้อมชมบูธแสดงสินค้าและพูดคุยกับตัวแทนจากองค์กรชั้นนำต่างๆ ที่จะมาช่วยเสริมสร้างและยกระดับองค์กรของคุณให้ก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีการตลาดที่ทันสมัย อีกทั้ง เต็มอิ่มกับความรู้มากมายจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้าของเมืองไทย ที่พร้อมแนะนำแนวทางใหม่ๆ ที่น่าสนใจให้กับคุณตลอดทั้งวัน
หากสนใจเข้าร่วมงาน รวมถึงสนใจเป็นสปอนเซอร์ (Sponsor) ออกบูธแสดงสินค้า (Exhibition) หรือ อาสาสมัคร (Volunteer) สามารถลงทะเบียนได้ที่ลิงก์ https://bit.ly/3WiJxIs และติดตามความเคลื่อนไหวและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ @Marketing Technology & Innovation Expo