‘การเปลี่ยนงาน’ ถือเป็นหนึ่งในวัฏจักรการทำงานของมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการความท้าทายและความเปลี่ยนแปลงในชีวิต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใครสักคนจะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเดิม เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งใหม่ที่ดีกว่า
แต่บางครั้งการตัดสินใจเปลี่ยนงานกลับมีประเด็น 1 2 3 4 ให้คิดวนไปวนมาเต็มไปหมด โดยเฉพาะการสร้างโปรไฟล์ให้น่าสนใจ และเตะตา HR ของบริษัทใหม่ เพราะเป็นด่านสำคัญที่ชี้ชะตาว่า เราจะได้ร่วมงานกับบริษัทใหม่อย่างที่ตั้งใจหรือไม่?
แล้วการสร้างโปรไฟล์ให้โดดเด่นและสะดุดตา HR สามารถทำอย่างไรได้บ้าง?
Future Trends จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครื่องมือที่ช่วยสร้างโปรไฟล์ปังๆ จนทำให้คุณกลายเป็นพนักงานเนื้อหอมที่ใครๆ ก็ต้องการอย่าง ‘LinkedIn’ ให้มากขึ้นกัน
หลายคนน่าจะรู้จัก LinkedIn ในฐานะโซเชียลมีเดียด้านธุรกิจที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความสำเร็จของผู้บริหารและองค์กรอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยลองใช้งาน เพราะรู้สึกว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ยาก และมีความทางการสูง ทำให้การสร้างคอนเนกชันกับคนในวงการกลายเป็น ‘ขุมทรัพย์’ ของ LinkedIn ที่น้อยคนจะเข้าถึง
เจน ไฮเฟตซ์ (Jane Heifetz) คอลัมนิสต์ของ Harvard Business Review บอกว่า พลังของ LinkedIn จะช่วยให้คุณพบงานที่ใช่ และสร้างเครือข่ายที่น่าสนใจได้ หากโปรไฟล์ของคุณมีความชัดเจนมากพอ โดยเจนแนะนำวิธีการสร้างโปรไฟล์บน LinkedIn ให้โดดเด่นผ่าน 4 องค์ประกอบ ดังนี้
1. พาดหัว (Headline)
พาดหัวเป็นส่วนสำคัญของหน้าโปรไฟล์บน LinkedIn เพราะนอกจากจะเป็นข้อความที่ทำให้ชื่อของคุณสะดุดตาแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ HR ทราบว่า คุณคือใครและกำลังทำงานตำแหน่งอะไร ได้จากการสแกนหน้าโปรไฟล์อย่างรวดเร็ว
ดังนั้น อย่าลืมที่จะตั้งพาดหัวให้สะดุดตา และเพิ่มกิมมิกที่แตกต่างจากคนอื่น เพื่อดึงความสนใจของ HR ให้คลิกเข้ามาชมหน้าโปรไฟล์ของคุณ
2. สรุป (Summary)
สรุปหรือข้อความที่ปรากฏในช่อง About เป็นส่วนที่ HR จะเริ่มสานสัมพันธ์กับคุณผ่านตัวอักษร และรู้จักคุณมากขึ้นจากประสบการณ์การทำงานฉบับย่อ ทำให้คุณต้องให้ความสำคัญกับการลำดับเนื้อหาที่ต้องการจะเล่าในรูปแบบความเรียงสั้นๆ โดยย่อหน้าแรกเป็นการพูดถึงภาพรวมว่า เคยทำงานด้านใดมาบ้าง และย่อหน้าถัดไปค่อยพูดถึงรายละเอียดแบบสรุป
3. ประสบการณ์ (Experience)
LinkedIn มีฟีเจอร์ Experience ที่ให้ผู้ใช้งานระบุประสบการณ์การทำงานของตัวเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถแนบรูปภาพและตัวอย่างผลงานให้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมโปรไฟล์สามารถคลิกเข้าไปดูเพิ่มได้ ถือเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยรวม Resume และ Portfolio ไว้ในที่เดียว
4. การใช้รูปภาพและสื่อประกอบ
นอกจากผู้ใช้งานจะต้องให้ความสำคัญกับรูปโปรไฟล์ที่เป็นหน้าเป็นตาของตัวเองแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับรูปและสื่อที่จะโพสต์ลงหน้าโปรไฟล์ด้วย เพราะเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงภาพลักษณ์และตัวตนที่มีผลต่อการคัดสรรบุคลากรของ HR
ถึงแม้การใช้งาน LinkedIn จะเป็นสิ่งที่หลายคนยังไม่คุ้นเคย แต่ถ้าได้ลองเปิดใจใช้แล้ว อาจจะพบกับโอกาสในการเปลี่ยนงานอย่างที่ไม่คาดฝันมาก่อนก็เป็นได้
Sources: http://bit.ly/3Wp4obU