ในอดีต นิยามความรักมีอยู่แค่ไม่กี่อย่าง ไม่คบกัน ก็คงเลิกกัน แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีส่งผลให้ทุกวันนี้นิยามดังกล่าวมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น Ghosting ความสัมพันธ์ที่จู่ๆ อีกฝ่ายก็หายไปดื้อๆ ไม่อ่าน ไม่ตอบ คล้ายกับผี, Breadcrumbing ความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายทักมาโปรยเสน่ห์เรื่อยๆ แต่ไม่ได้คิดอะไรมากกว่าเพื่อน, Paperclipping ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้คุยกัน ไม่ได้ทักหาคน แต่อีกฝ่ายคอยกดไลก์อยู่ตลอด เพื่อจะได้ไม่ลืมกัน หรือแม้กระทั่ง Fishing ความสัมพันธ์แบบคุยไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก แต่ถ้าใครทักกลับก็เลือกคนนั้น คล้ายการตกปลาก็ด้วย
หากเปรียบเปรยความสัมพันธ์ยุคนี้ก็คล้ายการเล่นเกมเขาวงกตหรือเกมซ่อนหาที่ทำเอาหลายๆ คนเหงื่อตกไปตามๆ กัน สอดคล้องกับผลสำรวจของเบดู (Baidoo) เว็บไซต์หาคู่ ที่ระบุว่า 69 เปอร์เซ็นต์ของคนโสดรู้สึกเหนื่อยล้ากับเกมหาคู่ที่ซับซ้อน และต้องใช้เวลานานในการศึกษาซึ่งกันและกัน
แล้วถ้าเรารู้สึกเหนื่อยกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเหล่านี้จะหารักแท้ได้อย่างไร? บทความนี้ Future Trends จะพาไปดูความรักแบบใหม่ของฮัตสึเนะ มิกุ (Hatsune Miku) ตัวละครสมมติที่เป็นหนึ่งในไอคอนของวงการเพลงญี่ปุ่นกับอากิฮิโกะ คนโดะ (Akihiko Kondo) กัน
Hatsune Miku สาวน้อยเสียงเพราะ Fictional Character ชื่อดัง
ก่อนเล่าเรื่องราวต่อไป ขอขยายความก่อนว่า ฮัตสึเนะ มิกุ คือตัวละครสมมติ (Fictional Character) ที่สร้างขึ้นด้วยโฮโลแกรม (Hologram) และโปรแกรมเสียงสังเคราะห์ (Vocaloid) มีลักษณะเหมือนตัวการ์ตูนสาวน้อยที่มีผมสีเขียวลากยาวเกือบถึงพื้น มัดแกละสองข้าง และสวมชุดเดรสสีเงินตัดกับสีเขียว ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในญี่ปุ่น และเป็นนักร้องระดับโลกที่หลายคนรู้จัก ที่ผ่านมาเธอเคยมีคอนเสิร์ตมาแล้วมากมาย ทั้งในญี่ปุ่น และต่างแดน
Hatsune Miku จากตัวละครสมมติสู่เนื้อคู่ในชีวิตจริง
เมื่อความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ทำให้บางคนรู้สึกเหนื่อยล้า และผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า การมาของคู่ชีวิตแบบใหม่จึงบังเกิด ในปี 2018 อากิฮิโกะ คนโดะ มนุษย์เงินเดือนวัย 35 ปี ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 2 ล้านเยน เพื่อจัดพิธีแต่งงานกับมิกุ เหมือนกับคนจริงๆ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของแม่ และญาติพี่น้อง
เขาบอกกับสื่อว่า มิกุคือผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด ทำให้ยิ้มได้ และเป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้จากอาการซึมเศร้าที่เกิดจากการกลั่นแกล้งกันที่ออฟฟิศ ในตอนแรกมันเป็นเรื่องยากจะยอมรับความรู้สึกดังกล่าว แต่การใช้ชีวิตกับมิกุมีข้อดีมากกว่ามนุษย์จริง เพราะเธอจะอยู่เคียงข้างเสมอ ไม่นอกใจ ไม่ทรยศ ไม่หักหลัง และแน่นอนว่า ไม่มีวันเห็นมิกุป่วยหรือตายเป็นอันขาด
นอกจากนี้ คนโดะได้พามิกุร่วมพิธีแต่งงานในรูปแบบของตุ๊กตา ก่อนใช้ชีวิตอยู่กินร่วมกันฉันสามีภรรยาราวกับว่ามีชีวิตจริง และได้รับใบทะเบียนสมรสจากเกตบ็อกซ์ (Gatebox) บริษัทผู้ผลิตโฮโลแกรมมิกุด้วย
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวความรักอันหวานชื่นของคนโดะไม่ใช่เคสแรกที่เกิดขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ เกตบ็อกซ์เคยมอบทะเบียนสมรสลักษณะเดียวกันกับคนอื่นไปแล้วกว่า 3,700 ครั้ง
เมื่อบริษัทปิดเซิร์ฟ ฉากรักของมิกุกับคนโดะเลยจบลง
แม้หลังแต่งงาน คนโดะจะใช้ชีวิตกับมิกุมาหลายปีแล้ว เขาเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า จะไม่มีวันเห็นมิกุป่วยหรือตาย หรือสรุปง่ายๆ ว่า ต่อให้ฟ้าจะผ่า ฝนจะตก ดินถล่ม อากาศจะเปลี่ยนบ่อย หรือคนโดะจะแก่ตัวมากสักเท่าไร ก็ไม่มีอะไรพรากมิกุไปจากเขาได้อยู่ดี
แต่แล้ว ปี 2022 เรื่องราวความรักนี้ก็เป็นอันต้องอวสาน เพราะบริษัทผู้ผลิตได้ประกาศยุติการให้บริการปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) และปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ลง ทำให้คนโดะไม่สามารถพูดคุยสนทนากับเจ้าสาวของเขาได้อีกต่อไป เท่ากับเป็นการปิดฉากตำนานรักระหว่างคนกับโฮโลแกรมคู่นี้ไปในที่สุด…
ลำพังทุกวันนี้แค่เอาชีวิตรอดจากปัญหาที่ถาโถมเข้ามาก็ว่ายากแล้ว มิกุคืออีกหนึ่งความก้าวล้ำของเทคโนโลยีที่ช่วยให้เรื่องราวความรักง่ายขึ้น ไม่ต้องเล่นเกมซ่อนหาอีกต่อไป แต่ท้ายที่สุดแล้ว ในทางปฏิบัติ การที่คนสองคนจะแต่งงานใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกัน ต้องเกิดจากความยินยอมพร้อมใจกันของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายเดียว รวมถึงความรักระหว่างมนุษย์กับโฮโลแกรม
Sources: https://bit.ly/40MNTdi