‘การขอสินเชื่อ มีดีมากกว่าแค่เรื่องเงิน’ เศรษฐกิจแบบนี้ เราอาจต้องมีตัวช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กระเป๋าตังค์

Share

ในปีนี้ เราจะเห็นได้ว่าสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกนั้นถูกกดดันอย่างหนักจากปัจจัยมากมาย จนทำให้เกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในหลายประเทศ โดยหลายสำนักต่างออกมาคาดการณ์กันว่า สภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบนี้จะลากยาวไปถึงปีหน้าด้วย หรืออาจเติบโตได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ทางด้านคุณกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้มุมมองในเรื่องนี้เอาไว้ว่า “แนวโน้มปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลกในจังหวะนี้เป็นช่วงที่เปราะบางมากที่สุดเมื่อเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา” และมองว่าในตอนนี้ไทยเราอยู่ในฐานะที่ต้องยอมรับสภาพมากกว่าการกำหนดทิศทาง เพื่อเตรียมพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 

แม้ว่าไทยจะมีรายได้หลักมาจากภาคการท่องเที่ยว แต่ในช่วงนี้การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวดีนัก แถมยังมีความเสี่ยงด้านการค้าโลกที่เพิ่มขึ้นชัดเจน ทำให้เราอาจจะเห็นภาพรวมส่งออกไทยตกลงในปี 2566 ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อทุกฝ่ายแม้แต่คนธรรมดาทั่วไป

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยภายในที่กดดันอยู่อีกมากมาย เช่น เรื่องค่าครองชีพที่สูง อัตราเงินเฟ้อเกินกรอบที่ยังมีให้เห็น รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มทยอยปรับขึ้นในปีหน้า

เมื่อเศรษฐกิจไม่เป็นใจ ‘การขอสินเชื่อ’ จึงได้รับความสนใจไม่น้อย

ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่สู้ดีไปอีกยาว หลายคนที่ประสบปัญหาด้านการบริหารเงิน จึงเริ่มหันมาพึ่งพาสินเชื่อประเภทต่างๆ กันมากขึ้น เพื่อนำเงินก้อนมาช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของตัวเอง

โดยการขอสินเชื่อนั้นมีอยู่หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความต้องการของตัวผู้กู้เอง แต่ทั้งนี้ต้องศึกษารายละเอียดของสินเชื่อให้ดี เพราะบางตัวนั้นต้องการผู้ค้ำประกัน หรือหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วย ซึ่งอาจเกิดปัญหาตามมาเมื่อเราไม่สามารถบริหารหนี้ได้ทัน นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องคำนึงเป็นพิเศษคือเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่มีความแตกต่างกันในสินเชื่อแต่ละตัว

แต่อย่างไรก็ตาม การขอสินเชื่อไม่ได้มีประโยชน์แค่ในด้านการเงินเท่านั้น วันนี้เราจะมาดูกันว่าเหตุผลไหนบ้างที่เราควรขอสินเชื่อกัน

รวมประโยชน์ของ ‘สินเชื่อ’ ที่ช่วยเราได้มากกว่าแค่เรื่องเงิน

1. การรวมหนี้: ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้ การเป็นหนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรเลย แต่มีอยู่หลายคนทีเดียวที่กู้ยืมเงินจากหลายแห่งที่มีอัตราดอกเบี้ยต่างกัน ยากต่อการบริหารจัดการ การขอสินเชื่อเพื่อไปจ่ายยังแหล่งกู้ยืม และรวบเป็นหนี้ก้อนเดียวกันจึงมีข้อดีที่ช่วยให้เราบริหารหนี้ได้ง่ายขึ้น และอาจได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่าด้วย

2. การปรับปรุง และซ่อมแซมบ้าน: ในวันที่บ้านของเรามีรอยรั่วซึมน้ำฝนไหลเข้าบ้าน หรือพื้นบ้านเกิดการชำรุดจนอาจเป็นอันตรายกับสมาชิกในครอบครัว เรื่องแบบนี้นั้นรอช้าไม่ได้ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นกัน โดยการขอสินเชื่อจะทำให้เราแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้ทันที

3. การขนย้าย: ในช่วงนี้ที่การแพร่ระบาดเริ่มฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น หลายคนอาจเตรียมวางแผนขยับขยายออกจากพื้นที่เดิมเพื่อไปทำมาหากินในพื้นที่อื่น ที่อาจมีโอกาสในการเติบโตมากกว่า ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงในการขนย้าย และจัดหาที่อยู่ใหม่ ไปจนถึงทำธุรกิจแห่งใหม่

4. เรื่องส่วนตัวในชีวิตที่รอไม่ได้: นอกจากเรื่องการทำธุรกิจ หรือที่อยู่อาศัยแล้ว ชีวิตเรามีอีกหลายเรื่องทีเดียวที่รอช้าไม่ได้ และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่สูง เช่น การแต่งงาน หรือเหตุฉุกเฉินต่างๆ ซึ่งการขอสินเชื่อจะช่วยให้ปัญหาเหล่านี้หมดไปได้ แต่ต้องกลับมาพิจารณาแนวทางการบริหารเงินให้ดีด้วย

เราคงได้เห็นกันแล้วว่าการขอสินเชื่อนั้น มีข้อดีอยู่หลายอย่างที่ไม่ใช่แค่เรื่องเงินอย่างเดียว โดยในตอนนี้ ธนาคารออมสินได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ‘สินเชื่อ GSB บ้านแลกเงิน’ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขอสินเชื่อให้เราได้เลือกกัน

‘GSB บ้านแลกเงิน’ สินเชื่อที่ให้เราเปลี่ยนบ้านเป็นเงิน แต่บ้านยังอยู่ครบ

สำหรับตัวสินเชื่อ ‘GSB บ้านแลกเงิน’ ทาง Future Trends ได้สรุปรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เอาไว้ให้เรียบร้อย ดังนี้เลย

1. ผ่อนต่ำเพียงแสนละ 555 บาท/เดือน (6 เดือนแรก)

2. อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3% (MRR-3.245%) ต่อปี (6 เดือนแรก)*

3. วงเงินของสินเชื่อสูงสุดถึง 10 ล้านบาท

4. ฟรี ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ รายละไม่เกิน 5,000 บาท เมื่อมีวงเงินกู้ตั้งแต่ 1.5 ลบ. ขึ้นไป

5. หลังขอสินเชื่อ สิทธิ์ในความเป็นเจ้าของบ้านยังอยู่ครบถ้วน เข้าอยู่อาศัยได้ตามเดิม

*หมายเหตุ: MRR=6.245% ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 63

โดยทุกคนสามารถยื่นขอสินเชื่อตัวนี้ ได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 – 28 กุมภาพันธ์ 2566 และสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: http:// https://bit.ly/3iuIaHv


หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาหรือ GSB Contact Center 1115 และติดตามข้อมูลข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ www.gsb.or.th หรือ Facebook: GSB Society