ผลสำรวจเผย ‘Gen Z’ มองวัฒนธรรมองค์กรมาเป็นอันดับ 1 กรณีศึกษา ‘กรุงศรีกรุ๊ป’ องค์กรในฝันที่พร้อมปรับตัวและเปลี่ยนแปลง

Share

กระแสโลกจากอดีตมาจนถึงปัจจุบันนับว่าเปลี่ยนไปมาก ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี นวัตกรรม เศรษฐกิจ รวมถึงค่านิยมของผู้คนที่ให้น้ำหนักไปที่คุณค่าความเป็นมนุษย์กันสูงขึ้น ทรัพยากรมนุษย์จึงเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้อยู่รอด แม้ว่าจะมีนวัตกรรมหลายๆ อย่างเข้ามาทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนทำงานยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร การมอบชีวิตการทำงานที่ตอบโจทย์พนักงานจึงเป็นเรื่องที่บริษัทต้องคำนึงถึง

จากงานศึกษาของ Glassdoor ระบุว่า คนทำงานกว่า 77% จะประเมินวัฒนธรรมองค์กรก่อนสมัครงาน และกว่า 56% มองว่าวัฒนธรรมองค์กรสำคัญมากกว่าค่าตอบแทนด้วยซ้ำ วัฒนธรรมองค์กรถือเป็นหนึ่งในปัจจัยใจหลักที่จะรักษาพนักงานเก่าให้อยู่ไปได้นานๆ รวมถึงยังสร้างเสน่ห์ดึงดูดคนใหม่ๆ จากภายนอกให้มาสนใจองค์กรได้อีกด้วย

สำหรับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ถือเป็นองค์กรระดับต้นๆ ในวงการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ยังคงพิสูจน์ตัวเองในด้านการมีวัฒนธรรมองค์กรอันแข็งแกร่ง ได้รับรางวัลที่เป็นเครื่องพิสูจน์มากมาย อะไรกันนะที่เป็นสิ่งยึดมั่นในวิถีการพัฒนาและบริหารในแบบของกรุงศรีกรุ๊ป วันนี้ Future Trends จะมาเล่าให้ทุกคนฟังกัน

องค์กรของคนเจนแซด ต้องเป็นองค์กรที่ ‘Resilience’ 

อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า นี่เป็นยุคที่เราอยู่บนเส้นการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา องค์กรที่ยังคงยึดติดกับแนวคิดและทัศนคติเดิมๆ จึงไม่สามารถเติบโตไปไกลกว่านี้ได้ ยิ่งช่วงนี้ที่คนเจนวายและเจนแซดเริ่มเข้ามามีบทบาทในโลกการทำงานมากขึ้น การที่พวกเขาจะดีดตัวจากองค์กรเก่าๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

การสร้างองค์กรแบบ ‘Agile’ เป็นที่นิยมสำหรับโครงสร้างองค์กรในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว โดยการปรับเปลี่ยนแนวคิดและทัศนคติในองค์กรให้มุ่งเน้นเรื่องความเท่าเทียมแก่พนักงานทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม การสนับสนุนให้พนักงานสร้างจุดแข็งลบจุดอ่อน และการมอบอำนาจให้อิสระในการทำงาน 

กรุงศรีกรุ๊ปเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบต่อการตอบสนองสถานการณ์ใหม่ๆ มาโดยตลอด และยังยึดถือค่านิยมเรื่องการทำงานเป็นทีมด้วยความคิดและจิตใจที่เปิดกว้าง ทำให้เกิดการส่งเสริมการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมถึงยังสร้างความผ่อนคลายในการทำงาน ซึ่งด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงได้สร้างความเป็น ‘Resilience’ หรือสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่นที่คนทำงานหลายๆ คน มองหา 

นอกจากโครงสร้างองค์กรที่มีการรีวิวเพื่อให้เหมาะสมและทันต่อสถานการณ์แล้ว กรุงศรีกรุ๊ปยังมุ่งเน้นพัฒนาในด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อนำมาปรับประยุกต์ใช้ในการจัดการและสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจ ทำให้การทำงานมีความรวดเร็วและคล่องตัวสูงขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนให้ทันยุคทันสมัย จึงไม่น่าแปลกใจที่แม้องค์กรจะมีอายุย่างเข้าปีที่ 77 แล้ว จะติด 1 ใน 50 องค์กรในฝันที่คนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุด ปี 2565 จาก WorkVenture มาเป็นเวลา 2 ปีซ้อน

ไม่ใช่แค่การทำงาน แต่ยังดูแลถึงความเป็นอยู่ด้วย

ภาพลักษณ์เรื่องการแสดงความห่วงใยที่พร้อมดูแลทุกปัญหาด้านการเงิน ทำให้เรื่องเงินเป็นเรื่องง่าย ผ่านทางบุคลากรที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยองค์ความรู้ที่ทันสมัย เป็นค่านิยมที่กรุงศรีกรุ๊ปยึดมั่น ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่สร้างความน่าเข้าหาและน่าไว้วางใจที่ไม่แค่ส่งผลต่อลูกค้า แต่ยังดึงดูดคนทำงานหลายๆ คนให้อยากร่วมงานมาโดยตลอด

จึงต้องยอมรับว่า แบรนด์ขององค์กรเช่น กรุงศรีกรุ๊ปทำหน้าที่ไม่ต่างจากแบรนด์สินค้าที่ช่วยให้ผู้คนรู้จัก จดจำ และสร้างอิทธิพลต่อการตัดสินใจ การจะสร้างแบรนด์องค์กรให้คนรู้จักต้องเกิดจากการรับรู้ผ่านภาพลักษณ์และวัฒนธรรมขององค์กร การมี Employer Brand ที่แข็งแกร่งและความโดดเด่น จึงสร้างความเป็นองค์กรในฝันที่ทำให้ผู้สมัครหรือพนักงานในองค์กรอยากร่วมงานด้วยในระยะยาวนั่นเอง

จากที่ผ่านมาเราจะเห็นว่า ทั้งการให้บริการและการทำงานของคนในองค์กร จะมีการพึ่งพาเทคโนโลยีได้เข้ากับยุคดิจิทัลในสมัยนี้อย่างมาก นั่นทำให้กรุงศรีกรุ๊ป มีภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัยและก้าวหน้ามาโดยตลอด แต่ถึงอย่างไรภาพลักษณ์ที่แสดงความห่วงใยที่กล่าวไว้ข้างต้น ก็ยังเป็นสิ่งที่คงความเป็นจุดยืนของกรุงศรีกรุ๊ป มาตลอดหลายช่วงอายุที่ผ่านมา 

สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้ส่งผ่านความรู้สึกให้แต่เพียงลูกค้าที่ใช้บริการ แต่ยังรวมไปถึงพนักงานที่องค์กรพร้อมให้ความช่วยเหลือ อย่างช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา บริษัทก็อำนวยความสะดวกให้กับพนักงานที่ตรวจพบเชื้อและมีความเสี่ยงทันที ความจริงใจที่ผ่านออกมาจากการปฏิบัติถือเป็นภาพลักษณ์ร่วมสมัยอันเป็นที่มาของรางวัลต่างๆ ที่กรุงศรีกรุ๊ป ได้รับ

ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Thailand Best Employer Brand Awards กับ Global Best Employer Brand ประจำปี 2021 จาก Global Best Employer Brand และรางวัล Employer of the Year – Bronze กับ Excellence in Employer Branding – Silver จาก HR Excellence Award 2021

ปรับให้องค์กรเป็นมากกว่าที่ทำงาน คือ ส่งเสริมการเติบโตของคนทำงานด้วย

จะสังเกตเห็นได้ว่า การมุ่งเน้นให้พนักงานเติบโตและก้าวหน้าในสายอาชีพ ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยกำหนดทิศทางและความสำเร็จขององค์กรให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไปในอนาคต ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่กรุงศรีกรุ๊ป ใช้ในการพัฒนาก็จะเป็นโปรแกรมการเรียนรู้ต่างๆ ที่ครอบคลุมและมีไว้สำหรับทุกๆ ตำแหน่งในองค์กร อาทิ

– แผนการพัฒนาบุคลากร สำหรับผู้บริหาร ประกอบด้วยกิจกรรมการเรียนรู้และพัฒนาหลากหลาย เช่น การวางแผนกลยุทธ์ การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และการแสวงหานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อนำมาต่อยอด

– โปรแกรมการเรียนรู้ Getting Ready for Future เพื่อเตรียมความพร้อมให้บุคลากรสำหรับการทำงานในอนาคต และให้พนักงานได้เติบโตในสายอาชีพ ในยุคที่เต็มไปด้วยความท้าทายทางธุรกิจ และการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว 

– โปรแกรมการเรียนรู้ Growing Expertise ที่มีไว้สำหรับการพัฒนาความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงสร้างความเป็นมืออาชีพในการทำงานและการบริการ สำหรับพนักงานเฉพาะกลุ่ม 

– โปรแกรมการเรียนรู้ Leading to the NEXT Level เพื่อพัฒนาผู้บริหารระดับสูงขององค์กร รวมทั้งพนักงานที่มีศักยภาพสูงหรือผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะสืบทอดตำแหน่ง เพื่อเตรียมความพร้อมและนำพาองค์กรสู่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และการเติบโตทางธุรกิจ

– โปรแกรมการเรียนรู้และส่งเสริมการเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม ที่กำหนดเป็นหลักสูตรบังคับสำหรับผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญและนำไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล รวมทั้งการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของธนาคารในประเทศไทย

โปรแกรมการเรียนรู้ที่ยกตัวอย่างมา น่าจะแสดงให้เห็นถึงการบริหารพัฒนาที่ให้ความสำคัญกับบุคลากรในทุกๆ ระดับได้มากพอสมควร นี่จึงอาจเรียกได้ว่า ทุกๆ ความสำเร็จและการเติบโตเป็นเพราะกรุงศรีกรุ๊ปมีความสามารถที่ช่วยให้ผู้อื่นเติบโตไปพร้อมๆ กับองค์กร และด้วยกลไกด้านการพัฒนาศักยภาพของพนักงานแบบนี้ ก็ถูกตอกย้ำด้วยรางวัล Excellence in HR Communication Strategy (Krungsri Consumer) – Gold จาก HR Excellence Award 2021 นั่นเอง

สิ่งสำคัญที่ทำให้กรุงศรีกรุ๊ปขึ้นแท่นรับรางวัลบนเวที HR อย่างมากมาย คงเป็นการที่กรุงศรีกรุ๊ปมีทัศนคติในการเลือกที่จะสนับสนุนให้ธุรกิจขับเคลื่อน โดยการสร้างผลิตผลที่ไม่ใช้วิธีลดจำนวนพนักงาน แต่เป็นการคิดที่จะออกแบบกระบวนการทำงานให้แก่พนักงานอย่างไรมากกว่า แล้วทำอย่างไรให้คนเติบโตไปพร้อมองค์กรอย่างยั่งยืน

“ทั้งนี้ ไม่ว่าจะได้รับรางวัลใด กรุงศรีกรุ๊ปยังคงแสดงจุดยืน และมุ่งมั่นที่จะ พัฒนาบุคคลากรให้แข็งแกร่งจากภายใน และ ยังคงดึงดูดคนเก่งในหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี งานบริการทางการเงิน และ งานในน่วยงานสนับสนุน พร้อมทั้งเปิดรับคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเติบโต ไปพร้อมกับองค์กรที่มีความเป็นสากล และ ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง”  

ซึ่งอีกสิ่งหนึ่งที่เราเล็งเห็น คือการที่กรุงศรีกรุ๊ปยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ และด้วยเหตุผลที่ยึดโยงกับความเป็นส่วนรวมนี้เองที่ทำให้พนักงานในองค์กรยังคงเติบโตและมีคุณภาพชีวิตที่ดี แม้จะอยู่ในยุควิกฤตที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงก็ตาม