Galderma เดินหน้า ‘ผสมผสานการเป็นผู้นำด้านความงามในทุกมิติ’ ชวนอัปเดตเทรนด์ความงามประจำปี 2024 พร้อมแนะแนวทางทำตลาดยุค Marketing 6.0

Share

ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ที่ผ่านมานั้น ส่งผลกระทบต่อวงการอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างกว้างขวาง แต่ทว่า มีอุตสาหกรรมหนึ่งที่ถึงแม้จะได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว นั่นก็คือ ‘อุตสาหกรรมความงาม’ เพราะการดูแลตัวเองให้ดูดี เป็นหนึ่งในสิ่งที่คนยังให้ความสำคัญอยู่เสมอ

‘Galderma’ (กัลเดอร์มา) บริษัทด้านความงามที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเกี่ยวกับการดูแลผิวหนัง โรคผิวหนัง รวมไปถึงสุขภาพความงาม โดยมีจุดยืนในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งขับเคลื่อนวิทยาการด้านความงาม เพื่อนำเสนอแนวทางในการดูแลสุขภาพความงามที่ตอบเรื่องราวของผิวที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล

Galderma ไม่เพียงรังสรรค์ผลิตภัณฑ์เป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพความงามเท่านั้น ยังมีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและธุรกิจคลินิกความงามให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดงาน ‘GAIN Business Forum’ งานสัมมนาที่นำเสนอเทรนด์ความงามที่น่าสนใจ เทรนด์การตลาด และอินไซต์พฤติกรรมผู้บริโภคด้านความงาม ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยจะมีการปรับหัวข้อให้ตรงกับเทรนด์ตลาดที่เปลี่ยนไปและเชิญผู้เชี่ยวชาญมาแชร์ความรู้และประสบการณ์ให้แก่พันธมิตรคลินิกความงามของ Galderma

โดยในปีนี้ GAIN Business Forum 2024 จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ ‘ผสมผสานมิติใหม่ของความงามไปด้วยกัน’ (Aesthetics Possibilities Shaped Together)

ในโอกาสนี้ Future Trends จึงอยากชวนทุกคนมาเจาะลึกเทรนด์การตลาดและความงามล่าสุด รวมไปถึงกลยุทธ์และเทคนิคต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างแบรนด์ให้เติบโตในตลาดความงามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลที่ธุรกิจคลินิกความงามต้องรู้ ประจำปี 2024

อัปเดตเทรนด์ความงามและการตลาดยุคใหม่ Marketing 6.0

โดย ผศ. ดร.เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด ประธานหลักสูตรปริญญาโทด้านแบรนด์และการตลาด คณะบัญชีฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โลกธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราไม่สามารถใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเดิมๆ ได้อีกต่อไป ต้องใช้เลนส์มองโลกในมุมที่ต่างจากเดิม เพราะคน Generation ใหม่ๆ จะกลายมาเป็นลูกค้าหลัก หรือแม้กระทั่งพนักงานของเราเองในอนาคต เราจึงต้องอัปเดตเรื่องราวและเทรนด์ต่างๆ อยู่เสมอ เพื่อมองหาแนวทางในการทำการตลาดที่เหมาะสมที่สุด รวมถึงต้องแยก 3 สิ่งนี้ให้ออก

What is Real?
What is Right?
What is Rule?

🌟 6 Trends of The Future of Aesthetics
จับตาเทรนด์ความงามแห่งอนาคตที่ธุรกิจคลินิกความงามควรให้ความสำคัญ

1. Proactive Beauty
เทรนด์ความงามที่มุ่งเน้นไปที่คอนเซ็ปต์ของผลลัพธ์ ‘ถ้าไม่ทำจะเกิดอะไรขึ้น’ โดยเน้นไปที่การป้องกันหรือชะลอ มากกว่าการแก้ไขหรือรักษา 

2. Cancelling Age
เทรนด์ความงามที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึก ‘Ageless’ หรือทำให้ไม่ต้องสนใจอายุ ไม่ได้ต้องการให้ดูเด็กลง เพียงแต่ต้องการให้ความงามนั้นสวยเป็นธรรมชาติ ดูดี สุขภาพดี

3. Expressionality
เทรนด์ความงามที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงตัวตน อัตลักษณ์ และความเป็นตัวเองของแต่ละบุคคล

4. Mindful Aesthetics
เทรนด์ความงามที่มองหาผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติและการดูแลตัวเองแบบพอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป รวมไปถึงมองหาผลิตภัณฑ์หรือการรักษาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับจริยธรรมอันดีของสังคม

5. Beauty Fandom 
เทรนด์ที่หลงใหลหรือชื่นชอบในไอดอลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยทำตามกันเป็นกลุ่มย่อยๆ และทำให้ผู้บริโภคต้องการเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เป็นไปตามความหลงใหลของตนเอง

6. Fast Aesthetics
เทรนด์ความงามที่สามารถให้ผลลัพธ์ได้รวดเร็ว โดยผู้บริโภคมักติดตามเทรนด์ที่กำลังเป็นกระแส หรือเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย แล้วนำมาเป็นแบบอย่างในการปรับใช้กับตัวเอง

🌟 Marketing 6.0 
โลกธุรกิจได้ก้าวเข้าสู่ยุค Marketing 6.0 เต็มตัว หรือยุคแห่งการทำการตลาดแบบ Immersive กล่าวคือ มีการหลอมรวมประสบการณ์ระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนเข้าไว้ด้วยกัน (สิ่งที่สัมผัสได้ทางกายภาพกับสิ่งที่เป็นดิจิทัล)

ซึ่งการตลาด 1.0 จนถึงการตลาด 6.0 มีรายละเอียด ดังนี้

– Marketing 1.0 ไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงทำสินค้าให้มีคุณภาพดี เพราะของที่ดีจะสามารถขายได้ 
– Marketing 2.0 ไม่ได้มองแค่สินค้า ต้องเริ่มต้นจากลูกค้า เน้นไปที่ Customer Centric 
– Marketing 3.0 อย่าดูแลแค่ลูกค้า ต้องดูแลมมนุษย์ทุกคน (Human Centric) 
– Marketing 4.0 Digital Marketing 
– Marketing 5.0 มาจาก Marketing 3.0 + 4.0 = Human Digital Marketing เป็นยุคที่มีทั้งการตลาดจากมนุษย์และดิจิทัลอยู่ด้วยกัน 
– Marketing 6.0 Human และ Digital ไม่เพียงอยู่ด้วยกัน แต่กำลังหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

ธุรกิจคลินิกความงามในยุค Marketing 6.0 ควรมีความรู้พื้นฐานในเรื่องอะไรบ้าง

1. มีความรู้พื้นฐานด้าน IoT หรือเครือข่ายรวมของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อถึงกันและเทคโนโลยี
2. มีความรู้ในการใช้งาน AI เบื้องต้น
3. มีความรู้ในการสร้าง 3D Asset หรือการสร้างแบบจำลองสามมิติ
4. มีความเข้าใจในเรื่อง Blockchain 
5. มีความรู้ในการใช้ AR (เทคโนโลยีที่นำวัตถุ 3 มิติ มาจำลองเข้าสู่โลกจริง) และ VR (เทคโนโลยีที่จำลองสถานที่ขึ้นมาเป็นโลกเสมือน)

สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน พร้อมสร้างประสบการณ์มัดใจผู้บริโภค

โดย คุณออย-กัญชลี สำลีรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญการวางกลยุทธ์การใช้ Digital, Customer Data และ World class Technology

ตลาดความงามเป็นธุรกิจที่มีความท้าท้าย มีการแข่งขันสูง ที่สำคัญคือผู้บริโภคเปลี่ยนมุมมองและพฤติกรรมด้านความงามอย่างรวดเร็ว เราจึงต้องมองหาว่ากลยุทธ์ใดที่จะสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้ ซึ่งคำตอบนั้นก็คือ การทำ Brand และสร้าง Experience

Brand เปรียบได้กับ Branding Perception (การรับรู้) หมายถึง ลูกค้ารับรู้อย่างไรเกี่ยวกับเรา

ที่ไม่ใช่แค่เพียงสื่อสารออกไป แต่ต้องทำให้ลูกค้าเข้าใจในสิ่งที่เราสื่อสารออกไปได้จริง

Brand ที่ดีคือ แบรนด์ที่มี Positioning และสามารถตอกย้ำจุดแข็งของแบรนด์ (Value Perception) ที่ไปยังลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและเหนือกว่าคู่แข่ง เพราะไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่สามารถชิงพื้นที่ในตลาดและทำให้ลูกค้าจดจำ Positioning และจุดแข็งของแบรนด์ได้

How to Build your Brand Positioning? ศาสตร์การสร้างแบรนด์ 3 ขั้นตอน

1. เลือกกลยุทธ์ (Select Your Competitive Strategy) ให้ตรงกับตลาด

มีตลาด 2 แบบ คือ Mass Market ตลาดกลุ่มกว้าง และ Niche Market ตลาดกลุ่มแคบ

  • กลยุทธ์ใน Mass Market

– Cost Leadership Strategy (กลยุทธ์สร้างราคาต้นทุนที่ต่ำกว่า เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งในตลาด)
– Differentiation Strategy (กลยุทธ์ความแตกต่าง เพื่อพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์เกิดความแตกต่างจากคู่แข่ง)

  •  กลยุทธ์ใน Niche Market

– Focus Strategy (กลยุทธ์การมุ่งจุดสนใจ เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดที่เฉพาะเจาะจง)

2. ค้นหา Brand Positioning ที่เหมาะสม

สิ่งที่ทำให้เกิด Brand Positioning มีด้วยกัน 3 ส่วน ได้แก่

  • Credibility มีความน่าเชื่อถือ (ความน่าเชื่อถือช่วยมอบ Value สู่ลูกค้าได้ดี) 
  • Relevant มีความเกี่ยวข้อง (เมื่อลูกค้ารับรู้ได้ถึงความเชื่อมโยง จะทำให้เกิด Value และยินดีที่จะจ่ายเงิน)
  • Differentiation มีความแตกต่าง (ความแตกต่างจากคู่แข่งมอบ Value ให้กับแบรนด์)

3. เมื่อเลือก Positioning ของแบรนด์ได้แล้ว ให้ส่งมอบ Value ผ่าน 5Ps Marketing เพื่อสร้าง Customer Experience ได้แก่

  • Product – ผลิตภัณฑ์หรือบริการ (สินค้าหรือบริการของเรานั้นมีไว้เพื่ออะไร)
  • Price – ราคา (ราคาของสินค้าและบริการของเรามีความเหมาะสมหรือไม่)
  • Place – สถานที่ (สถานที่วางจำหน่ายสินค้าและบริการมีความเหมาะสมหรือไม่)
  • Promotion (Including Communication) – โปรโมชัน (การวางแผนการขายสินค้าและบริการมีอะไรบ้าง)
  • People – ผู้คน (คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของสินค้าและบริการของเราเป็นตัวจริงหรือไม่)

เทคนิคใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือการตลาด โดยคุณวรัญญา คงดำเนิน LINE Certified Coach 2024

คาดการณ์ว่าตลาดศัลยกรรมและความงามประเทศไทยในปี 2573 มีแนวโน้มเติบโตสูงถึง 131,000 พันล้านบาท นับเป็นโอกาสในการสร้างเติบโตของธุรกิจคลินิกความงาม แต่โอกาสดังกล่าวนั้นมาพร้อมกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันสูง ดึงดูดลูกค้าใหม่ยาก รักษาฐานลูกค้าเดิมไม่ได้ และไม่รู้วิธีนำข้อมูลของลูกค้าไปใช้ เจ้าของคลินิกความงามและนักการตลาดต้องหาเครื่องมือที่ใช่และใช้ให้เป็น เพื่อดึงดูดลูกค้า พร้อมสร้างยอดขาย

แนะนำ B.E.A.U.T.Y. Framwork กลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าระดับ High Value ผ่านเครื่องมือ LINE

  • B – Build Target Audience สร้างและแบ่งกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
  • E – Engage สร้างคอนเทนต์ที่เข้าใจลูกค้า พร้อมแก้ปัญหาได้ตรงจุด
  • A – Acquire สร้างความแตกต่างเพื่อโน้มน้าวใจลูกค้า
  • U – Upsell ต่อยอดการขาย-ซื้อเพิ่ม-ซื้อซ้ำ
  • T – Track and Optimize วัดผล-ติดตามผล-ปรับปรุง 
  • Y – Your Customer เปลี่ยนลูกค้าขาจรเป็นขาประจำและบอกต่อ 

โดยนักการตลาดและเจ้าของคลินิกสามารถนำ Framwork นี้ไปใช้กับเครื่องมือต่างๆ ของ LINE ได้

เรียกได้ว่า ‘GAIN Business Forum’ โดย Galderma นั้น เป็นงานที่มอบความรู้และคำแนะนำให้กับพันธมิตรคลินิกได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งกิจกรรมดังกล่าว ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Galderma ที่ต้องการเสริมความแข็งแกร่งและขับเคลื่อนธุรกิจคลินิกความงามให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

ทั้งนี้ Galderma ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้มีความก้าวหน้าอยู่เสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ยา (Prescription) ผลิตภัณฑ์ด้านความงาม (Aesthetics) และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิว (Consumer Solutions) รวมไปถึงการให้การสนับสนุนพันธมิตรคลินิกต่างๆ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค

#GAINBusiness #SoMuchToGAIN #PremiumiseYourLife #AestheticsByGaldermaThailand #AestheticsPossibilitiesShapedTogether

© Aesthetics By Galderma Thailand.