“ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีวันหมดอายุ ปลากระป๋องหมดอายุ ซอสเนื้อหมดอายุ แม้แต่ห่อพลาสติกก็หมดอายุ มีอะไรบนโลกนี้ที่ไม่มีวันหมดอายุบ้าง”
นายตำรวจ 223
ประโยคเด็ดจาก ‘Chungking Express’ ภาพยนตร์ในตำนานของ ‘หว่องกาไว’ ที่ชวนตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์เหงาๆ และเปรียบเปรย ‘ความรัก’ กับสิ่งของรอบตัวที่ระบุ ‘วันหมดอายุ’ อย่างชัดเจน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความรักและความสัมพันธ์หลายรูปแบบมีวันหมดอายุจริง โดยเฉพาะความรักกับ ‘งาน’ ที่ในอดีตเป็นความสัมพันธ์หวานชื่น พร้อมสู้กับทุกอุปสรรคเพื่อแลกกับ ‘งานที่ใฝ่ฝัน’ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์กลับขมขื่น งานที่ทำไม่สนุกเท่าเดิม ความรักเริ่มแปรเปลี่ยนเป็น ‘ความชัง’ จนวันหมดอายุของความสัมพันธ์เดินทางมาถึงในที่สุด
นอกจากความสัมพันธ์ที่หมดอายุ จะทำให้ใครสักคนตัดสินใจแยกทางกับงานที่เคยรัก และเริ่มต้นใหม่กับงานที่ทำให้ใจเต้นแรงกว่า ยังมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของทีมที่เริ่มเปลี่ยนไป เพราะสัมผัสได้ถึงความหมดใจในการทำงานของเพื่อนร่วมทีมบางคน จนกลายเป็นความห่างเหิน และห่วงใยกันน้อยลงโดยไม่รู้ตัว
การที่ความสัมพันธ์ของทีมเริ่มสั่นคลอน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานในภาพรวมเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นอุปสรรคต่อการบริหารทีมของหัวหน้าด้วย ทำให้หน้าที่สำคัญที่หัวหน้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือการดูแลใจของทุกคน และทำหน้าที่เป็น ‘น้ำผึ้ง’ คอยเติมความหวานให้กับทีมอยู่เสมอ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น
แล้วหัวหน้าจะออกแบบวิธีการทำงานเพื่อเติมความหวานและรักษาความสัมพันธ์ของทีมได้อย่างไรบ้าง?
คริสทีน โพราธ (Cristine Porath) อาจารย์จากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ (Georgetown University) แนะนำ 3 แบบฝึกหัดการสร้าง ‘Empathy’ หรือ ‘ความเข้าอกเข้าใจ’ ที่จะเป็นอาวุธลับในการรักษาความสัมพันธ์ของทีม ดังนี้
1. ให้กำลังใจผ่านข้อความน่ารักๆ
ถึงแม้การส่งข้อความถึงกันจะเป็นวิธีการสื่อสารสุดคลาสสิก แต่ข้อความสั้นๆ กลับมีอิทธิพลต่อใจของคนอ่านเป็นอย่างมาก แค่คำว่า ‘สู้ๆ’ คำเดียว ก็มีพลังในการชุบชูใจมหาศาล เมื่อทีมกำลังเผชิญกับความยากลำบาก หัวหน้าสามารถส่งกำลังใจผ่านข้อความสั้นๆ ได้ อาจพิมพ์ข้อความผ่านแชต หรือเขียนโน้ตน่ารักๆ แล้วมอบให้ทีมเวลาที่เจอกัน
2. ใช้วาทศิลป์พัฒนาความสัมพันธ์
หัวหน้าเป็นตำแหน่งที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันรอบตัวทั้งเป้าหมายจากผู้บริหารระดับสูงและเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากการทำงานของทีม ทำให้เกิดความเครียดตลอดเวลา ซึ่งบางคนไม่สามารถจัดการความเครียดของตัวเองได้ จนกลายเป็นหัวหน้าเจ้าอารมณ์ที่ไม่มีใครต้องการทำงานด้วย
ดังนั้น หัวหน้าควรเปลี่ยนแรงกดดันเป็นแรงผลักดันในการทำงาน และหาวิธีจัดการความเครียดของตัวเอง เพื่อไม่ให้อารมณ์เชิงลบปะปนไปกับการพูดคุย รวมถึงออกแบบวิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ให้ทีมทำงานด้วยกันไปนานๆ
3. สร้างโมเมนต์ที่น่าจดจำ
ความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้ากับลูกทีม ไม่ได้ยึดโยงกันด้วยเรื่องงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังยึดโยงกันด้วยความสัมพันธ์ทางใจ ทำให้การรักษาความสัมพันธ์ของทีมต้องอาศัยการสร้าง ‘magic moment’ ที่เกิดจากการใช้เวลาร่วมกันในกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากการทำงาน เช่น กินเลี้ยงหลังเลิกงาน outing ที่ต่างจังหวัด ปาร์ตี้ของบริษัท เป็นต้น
จริงๆ แล้ว การทำงานเป็นทีมไม่ได้ต่างกับความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่นเลยแม้แต่น้อย ถ้าต้องการรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาว ก็ต้องหมั่นเติมเต็มความรักให้กันโดยที่ไม่ต้องรอให้ถึงเทศกาลพิเศษหรือวันวาเลนไทน์ ซึ่งความรักที่หัวหน้ามอบให้ทีมไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แค่แสดง ‘ความเข้าอกเข้าใจ’ ให้ทีมรับรู้ก็พอ
Sources: http://bit.ly/3ImmVSF