นำในเรื่องที่ถนัด กล้าถอยในเรื่องที่ไม่ถนัด Emergent Leader ผู้นำยุคใหม่ที่ Google มองหา

Share

เมื่อพูดถึงองค์กรที่คนอยากทำงานด้วยที่สุดในโลกแล้ว ‘กูเกิล (Google)’ น่าจะติด Top List ที่หลายคนนึกถึงเป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน ดินแดนที่ว่ากันว่า เป็นสวรรค์ของคนทำงาน มีแต่คนเก่ง Top talents คนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยไฟอันแรงกล้า และการทำงานที่มีความสุข

ทว่า บรรดาภาพภายนอกพวกนี้ที่ถูกนำเสนอ ผลิตซ้ำออกมานั้นกลับไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่แท้จริงแล้ว ได้ผ่านการวางแผนของฝ่ายบุคคลมาเป็นอย่างดี โดยกูเกิลก็จะมีเกณฑ์ในการมองหาคนหลักๆ อยู่ 4 ข้อด้วยกัน

ไม่ว่าจะเป็น ‘ความรู้เกี่ยวกับตำแหน่งงาน (Role-related knowledge)’ ‘ความสามารถทั่วไป (General cognitive ability)’ ของตรรกะในการแก้ปัญหาต่างๆ ‘ความเป็นกูเกิล (Googleyness)’ ที่มีลักษณะนิสัย แพชชัน และความสนใจเป็นไปในทิศทางเดียวกับองค์กร รวมไปถึง ‘ความเป็นผู้นำ (Leadership)’ ก็ด้วย

ซึ่งที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ ความเป็นที่ผู้นำที่กูเกิลมองหาไม่ใช่แบบทั่วไปที่คอยกุมอำนาจทั้งหมด รักษาความศักดิ์สิทธิ์กับทีมเหมือนอย่างที่หลายองค์กรมองหา แต่เป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘ความเป็นผู้นำตามสถานการณ์ (Emergent Leadership)’

ตามปกติ เราจะเคยชินกับภาพจำของพีระมิดระบบการทำงานลำดับขั้นจากบนลงล่าง (Top to down) แบบเดิมๆ ที่เป็นขั้วตรงข้ามของโครงสร้างองค์กรแบบราบ (Flat organization) แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า ทุกวันนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็วทำให้ทุกคนต่างต้องเร่งฝีเท้า ก้าวตามความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด

ดังนั้น Emergent Leadership ก็เลยสำคัญมาก เพราะไม่เพียงแค่จะนำได้ดีในสถานการณ์ปกติ แต่ยังนำได้ดีในสถานการณ์คับขันด้วย ลาสโลว์ บ็อก (Laszlo Bock) อดีตหัวหน้าฝ่ายบุคคลของกูเกิลได้อธิบายถึงคอนเซ็ปต์การทำงานของผู้นำแบบนี้ไว้ว่า ‘เป็นผู้นำที่ก้าวขึ้นมานำเมื่อปัญหาที่เกิดเป็นเรื่องที่ตนถนัดที่สุด ในทางกลับกัน เมื่อเรื่องราวนั้นจบลง ก็กล้าหลบทางให้คนอื่นที่ถนัดกว่าขึ้นมาแทน’

ว่ากันตามตรงแล้ว การจะเป็นผู้นำตามสถานการณ์ได้ก็ต้องอาศัยความใจกว้างอยู่พอสมควร เนื่องจาก ตั้งอยู่บนพื้นฐานกรอบความคิดแบบ Role Exchange ที่คิดถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นอันดับแรก พร้อมปรับเปลี่ยน สนับสนุนคนอื่นเสมอ ยอมลดอีโก้ลง และยอมรับว่า ‘ตนไม่ได้เก่งที่สุดในทุกเรื่อง แม้จะอยู่ในจุดของผู้ที่มีอำนาจสูงสุดก็ตาม’

โดย Emergent Leadership ก็ไม่ได้ Win-win situation กับตัวเราในฐานะผู้นำ และธุรกิจเท่านั้น แต่ยัง Win กับทีมด้วย เพราะช่วยให้การทำงานคล่องตัวกว่าเดิม ฝึกให้ทุกคนเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้น ผลักดันกระบวนการทำงาน สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ส่งเสริมกันและกันไปสู่ความสำเร็จ

ก่อนหน้านี้ Future Trends เคยพูดถึง Shared Leadership ที่เป็นการนำแบบ ‘สลับกันนำ สลับกันตาม’ ซึ่งก็คล้ายกับแนวคิดของผู้นำลักษณะนี้อยู่เหมือนกัน (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://bit.ly/3FfUCSv) ลึกๆ แล้ว ไม่มีใครชอบหัวหน้าที่บ้าอำนาจ ชี้นิ้วสั่งอย่างเดียวหรอก บางทีการยอมรับว่า ตัวเองไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่งในทุกเรื่องก็ไม่ได้เสียหายอะไร การนำตามสถานการณ์จะช่วยให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งกับเป้าหมาย แถมยังเป็นการพัฒนาทีมให้เก่งไปอีกขั้นที่เป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญของผู้นำด้วย

ท้ายที่สุด นอกจากต้องรู้จักลงให้เป็นแล้ว ก็ต้องเป็น Good team player และ Better teammate ด้วย Emergent Leader ถึงจะเป็น Potential Leader ที่ใครๆ ก็อยากร่วมงานด้วย และเติบโตต่อไปได้ไกลนั่นเอง

Sources: https://bit.ly/38Vp8W0

https://bit.ly/37eDK29

https://bit.ly/3vJSjEp

https://bit.ly/3kDgca7