‘Dolce Far Niente’ แนวคิดว่าด้วยความหอมหวานของการไม่ทำอะไรเลย

Share

ในยุคใหม่ที่สังคมยุ่งอยู่กับการทำงานเพื่อตัวเอง สิ่งสำคัญคือต้องลิ้มรสแก่นแท้ของความเกียจคร้าน แม้ว่าบางคนอาจรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ แต่ความสุขที่แท้จริงคือการนั่งเฉยๆ และไม่ทำอะไร 

สังเกตได้ว่าจะมีรูปแบบเมื่อบุคคลนั้นนั่งเฉยๆ และไม่ทำอะไรเลย ในสภาพแวดล้อมที่การเป็นคนบ้างานกำลังเป็นที่นิยม ผู้คนให้แรงจูงใจมากมายในการทำงานหามรุ่งหามค่ำ วิ่งหาเงิน และแสวงหาบางอย่างให้ตัวเอง เพื่อการสร้างชีวิตของพวกเขา แต่ในชีวิตที่เร่งรีบแบบนี้ 

ผู้คนมักลืมความจริงที่ว่า ร่างกายเองก็มีขีดความสามารถของมัน และเมื่อถึงจุดนั้นคุณก็ควรที่จะหยุด

ดั่งคำที่ว่า ‘Dolce Far Niente’ เป็นวลีภาษาอิตาลีที่โด่งดังจากหนังสือ Eat, Pray, and Love รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า ‘The Sweetness Of Doing Nothing’ เข้าใจง่ายๆ ว่ามันคือ “แนวคิดว่าด้วยความหอมหวานของการไม่ทำอะไรเลย” 

ความนิยมในแนวคิดนี้ไม่ได้มาจากเพียงแค่การแปลความหมายที่น่าสนใจ 

ชาวอิตาลีเชื่อว่า Dolce Far Niente เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่คนทุกคนควรได้รับสักครั้งหนึ่งในชีวิต ความรู้สึกนามธรรมมากมายเกิดขึ้นในจิตใจของเราเมื่อเราอยู่ในสถานะนี้ ทำให้บทบาทของการพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญมาก 

มีหลายกรณีศึกษาที่พบว่า ‘ชีวิตเป็นพิษ’ ด้วยภาระงานที่หนักหน่วงอย่างต่อเนื่อง และความซ้ำซากจำเจ สามารถนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลได้ เซลล์สมองของคุณจะหยุดทำงานหากคุณทำงานบางอย่างอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้พักผ่อน

แนวคิดนี้เห็นว่า ‘เงิน’ ไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการดำรงชีวิตมันไม่สำคัญเสมอไป บางครั้งคุณอาจต้องลองนั่งใต้ต้นไม้สักชั่วโมงเพียงแค่ทานอาหารยามบ่าย สังเกตดูใบไม้ร่วงหล่น ดอกไม้เคลื่อนไหวตามแรงลมราวกับกำลังเต้นรำ ความสุขตามธรรมชาติของมนุษย์อยู่ในแง่มุมนี้ และโอกาสในการลิ้มรสความงามเช่นนี้จะได้รับก็ต่อเมื่อนั่งอยู่ใต้ต้นไม้แห่งนี้

การวิจัยชี้ให้เห็นว่าการพักผ่อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิต เพราะมีหลายครั้งที่การนั่งพักตามธรรมชาติสร้างความสำเร็จให้แก่โลก เช่น การค้นพบแรงโน้มถ่วงของโลกโดยไอแซก นิวตัน 

แนวคิดนี้จึงมีความเชื่อว่า “ความเกียจคร้านได้ชักนำให้แต่ละคนสร้างสิ่งที่แปลกใหม่ ไม่ธรรมดา หรือเป็นประวัติศาสตร์” ความเกียจคร้านจะนำพาคนไปอยู่ในจุดที่แปลกใหม่

“ถ้าหากไอแซก นิวตัน ไม่นั่งพักอยู่ที่ต้นแอปเปิล อย่างว่างเปล่าโลกของเราคงไม่ได้รูจักแรงโน้มถ่วง”

การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นจากการนั่งเฉยๆ และไม่ทำอะไรเลย นี่คือสาระสำคัญที่สร้างสภาพแวดล้อมของ ‘Dolce Far Niente’ ซึ่งเป็น “ความหวานของการไม่ทำอะไรเลย”

ในหลายกรณี เราสามารถสังเกตได้ว่าการนั่งเฉย ๆ สามารถทำหน้าที่เป็นยารักษาสุขภาพจิตของมนุษย์ได้ และมีหลายวิธีที่คุณสามารถสัมผัสความงามของความเกียจคร้าน ที่เรียกว่า ความหวานของการไม่ทำอะไรเลย ได้ดังนี้

[ การทำสมาธิ ]

การทำสมาธิมักจะช่วยให้คุณสงบจิตใจ และมุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายของคุณ ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อคุณไม่สามารถจดจ่อกับบางสิ่งได้ ในกรณีนี้ การทำสมาธิมีบทบาทสำคัญในการทำให้จิตใจของคุณสงบและช่วยให้คุณหยุดความคิดที่ไม่สำคัญ

[ กำหนดเวลาสำหรับการฝันกลางวัน ]

ครั้งสุดท้ายที่คุณนั่งปล่อยให้จิตใจให้ล่องลอยไปโดยไม่มีความคิดเรื่องใดๆ ในใจคือเมื่อไหร่กัน? เช่นเดียวกับการทำสมาธิ การฝันกลางวันมักเป็นเรื่องยาก ในชีวิตที่วุ่นวายของมนุษย์ จิตใจของคนเราโดยเฉลี่ยมีความคิดมากกว่าหกพันเรื่องในแต่ละวัน 

ลองดูสักวันหนึ่งตั้งตารางไว้สำหรับการ ‘ฝันกลางวัน’ หลีกหนีจากความวุ่นวายของมนุษย์ ปล่อยใจไปตามธรรมชาติ ลิ้มรสความหวานของการไม่ทำอะไรเลย

[ เปลี่ยนเป็นเชิงรุก ]

เมื่อคุณใช้ความคิดของคุณทำงานอย่างต่อเนื่อง คุณจะทำให้เซลล์สมองของคุณล้า และสิ่งนี้จะนำไปสู่ความโกลาหลซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม มีหลายวิธีที่เราสามารถทำตัวเป็น ‘เชิงรุกได้’

รายการสิ่งที่ต้องทำของเรากำหนดขึ้นจากอีเมลที่เข้ามา ตามระยะเวลา ลองกำหนดดูสิว่าเราจะทำอะไรโดยไม่ต้องรอเวลา ด้วยการเริ่มต้นกำหนดรายการสิ่งที่เราต้องทำในคืนก่อนหน้าทั้งหมด

ถ้าทำได้สำเร็จคุณจะไม่ต้องมานั่งเช็คอีเมลก่อนทานอาหารเที่ยง เปิดเสียงโทรศัทพ์เพื่อรอการแจ้งเตือน คุณจะมีเวลาเหลือ 5-10 นาทีในการนั่งเฉยๆ เป็นโอกาสในการเข้ามาของสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่คุณไม่คาดฝัน

[ เปลี่ยนความคิดของคุณ ]

มันคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดหากคุณยังมีความคิดที่ว่าการนั่งอยู่เฉยๆ เป็นเรื่องของความเกียจคร้าน แนวคิด ‘Dolce Far Niente’ ก็ไร้ประโยชน์สำหรับคุณ

เรารู้ว่าเป็นเรื่องยาก ที่จะจินตนาการว่าการไม่ทำอะไรเลย จะได้ผลเท่ากับการใช้เวลาทำงานเพิ่มขึ้นชั่วโมงหนึ่ง เราถูกกำหนดให้คิดว่าการทำงานหนักขึ้นเท่ากับผลลัพธ์ที่มากขึ้น 

นั่นไม่เป็นความจริงเลย เราต้องเปลี่ยนความคิดเพื่อรับรู้ถึงความสำคัญของการพักผ่อน มันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว และสุขภาพจิตของคุณ

การนั่งเฉยๆ บนโซฟาทั้งวันไม่ได้ทำให้คุณกลายเป็นอัจฉริยะ ถึงกระนั้น การนั่งเฉยๆ การฝันกลางวันก็เป็นกิจกรรมเสริมที่สมบูรณ์แบบสำหรับวันที่ยุ่งเหยิงของคุณ เพื่อสุขภาพสมองที่ดี และมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น

หากคุณเหนื่อยเกินไปแล้วกับการทำงานที่หนักหนาตลอดทั้งวัน ลองหยิบแนวคิด ‘Dolce Far Niente’ ‘The Sweetness Of Doing Nothing’ หรือ “แนวคิดว่าด้วยความหอมหวานของการไม่ทำอะไรเลย” ไปใช้ดูสักครั้งสิ คุณอาจจะได้พบกับความหวานที่เปลี่ยนแปลงคุณไปตลอดกาลเลยก็ได้

เขียนโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์

Source: https://timesofindia.indiatimes.com/readersblog/talesofwisdom/dolce-far-niente-the-sweetness-of-doing-nothing-54416/