ขึ้นชื่อว่าเดดไลน์แล้ว สำหรับหลายๆ คน อาจเป็นคำที่ทำให้รู้สึกเครียดและไม่ดีสักเท่าไร แต่ก็มีหลายๆ ครั้ง ที่เมื่อใกล้เดดไลน์ เรากลับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด หัวแล่น คิดอะไรก็ไว อดหลับอดนอนได้ทั้งคืน จึงกลายเป็นที่สังเกตว่า สิ่งที่เรียกว่าเดดไลน์นั้น นอกเหนือจากความเครียดแล้ว อาจจะมีผลกระทบเชิงบวกในทางจิตวิทยาด้วย ซึ่งคำถามคือ ทำได้อย่างไร? และเราจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร? เพื่อที่จะทำให้การทำงานในช่วงเดดไลน์นั้นมีประสิทธิภาพที่สุด
นักจิตวิทยาสังคม Nira Liberman และเพื่อนร่วมงานของเธอที่ Tel Aviv University ได้ศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบทางจิตวิทยาของเดดไลน์ โดยให้ความสนใจไปที่ ‘การรู้ว่างานจะเสร็จเมื่อไร’ และทำการทดลองโดยใช้นักศึกษาปริญญาตรีจำนวนหนึ่ง ให้ทำแบบฝึกหัดที่ต้องใช้เวลาทำ 90 นาที โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งจะรู้ความคืบหน้าของแบบฝึกหัด ในขณะที่ทำไปด้วยว่าผ่านไปแล้วเท่าไร เหลือที่ต้องทำอีกเท่าไร ส่วนอีกกลุ่มนั้นจะไม่รู้อะไรเลย
ผลจากการสังเกตของนักศึกษาทั้ง 2 กลุ่มนั้นเห็นได้ชัดว่า กลุ่มที่รู้ถึงความคืบหน้าอยู่ตลอดเวลาสามารถทำแบบฝึกหัดได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่า และพวกเขายังบอกอีกว่า รู้สึกเหนื่อยน้อยลงอีกด้วย ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้ว่า เมื่อเรากำลังทำงานที่ไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไร เรามักจะนึกถึงกรณีที่แย่ที่สุดไว้ก่อน ดังนั้น ร่างกายจึงพยายามที่จะรักษาพลังงานเผื่อไว้ก่อน ในขณะที่เมื่อเรารู้ว่างานจะเสร็จเมื่อไร หรือเหลืออีกเท่าไร ร่างกายก็จะปลดปล่อยพลังงานออกมาได้อย่างเต็มที่ เหมือนกับนักวิ่งที่ออกแรงฮึดช่วงสุดท้ายเมื่อเห็นเส้นชัย
จากผลการทดลองครั้งนี้ ทำให้สามารถสรุปได้ว่า หัวใจหลักในการในการรีดเค้นประสิทธิภาพการทำงานออกมาให้มากที่สุด คือการที่ได้รับรู้ถึงความคืบหน้าของงานอยู่ตลอด ว่าเสร็จไปเท่าไรแล้วและเหลืออีกเท่าไร การที่ได้รับรู้ว่างานนั้นจะเสร็จสิ้นตอนไหน จะทำให้ร่างกายปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างเต็มที่ เพราะไม่จำเป็นต้องรักษาพลังงานเผื่อไว้แล้วนั่นเอง
และการมีเดดไลน์ ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้เราเห็นจุดสิ้นสุดของงาน ทำให้รู้ว่างานนั้นจะต้องเสร็จสิ้นตอนไหน ทำให้อธิบายได้ว่า ทำไมหลายๆ ครั้ง เราถึงทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในช่วงใกล้เดดไลน์
เมื่อรู้กลไกการทำงานนี้แล้ว เราก็สามารถที่จะนำเดดไลน์มาใช้ประโยชน์ในการที่รีดเค้นประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานออกมาได้ หากการที่ได้รู้จุดสิ้นสุดของงานจะทำให้ร่างกายปลดปล่อยพลังงานออกมาได้เต็มที่แล้ว นอกจากการให้เดดไลน์เป็นเหมือนกับจุดหมายปลายทาง การคอยตรวจสอบความคืบหน้าของงานที่ตัวเองทำอยู่ตลอดว่า เสร็จสิ้นไปเท่าไร และเหลืออีกเท่าไร เพื่อทำให้เรามองเห็นจุดสิ้นสุดของงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก ก็จะช่วยให้ปลดปล่อยพลังงานออกมาได้เต็มที่ยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากนี้ การนำไปพลิกแพลงปรับใช้แบบอื่น เช่น การกำหนดเดดไลน์ให้กับตัวเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในเวลาที่ต้องการโดยไม่ต้องรอให้ถึงเดดไลน์จริงๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน
Source: https://bbc.in/3yputPw