รักโรแมนติก…หาเอาจากแชตบ็อตก็ได้

Share

คอลัมน์: My Heart Is In The Cloud
เขียน: (ซู่ชิง) จิตต์สุภา ฉิน

การตกลงจับมือใครสักคนแล้วเดินเข้าสู่ความสัมพันธ์รักโรแมนติกย่อมต้องตามมาด้วยการเสียสละอะไรบางอย่างเสมอ หนึ่งในนั้นก็คือ “เวลา” ที่จะต้องมาจัดสรรปันส่วนใหม่ จากเดิมที่เวลาเป็นของเรา 100 เปอร์เซ็นต์ จะแบ่งให้คนรักแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัย ข้อตกลง และรูปแบบความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละคน แต่เมื่อไหร่ที่สมดุลเวลาตรงนี้เสียไป ความสัมพันธ์ก็จะเริ่มง่อนแง่นและตามมาด้วยประโยครำพันสุดคลาสสิคว่า “ทำไมเธอไม่มีเวลาให้ฉันเลย” จนฝ่ายที่ได้รับคำตัดพ้อต้องวางทุกอย่างตรงหน้าเพื่อรีบไปหาและกอบกู้สถานการณ์ก่อนที่จะสายเกินไป

ในยุคดิจิทัล นั่นอาจจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเพียงวิธีเดียวอีกต่อไป ขอเพียงแค่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์สักนิด ความฉลาดแกมโกงสักหน่อย ก็อาจจะสามารถต่อรองเวลาส่วนตัวที่แสนหวงแหนนั้นให้ยังเป็นของตัวเองต่อไปได้พร้อมๆ กับการไม่เสียคนข้างๆ ไปด้วย

ข่าวเล่าว่า หลี่ ไค เซียง โปรแกรมเมอร์จีนคนหนึ่งที่ทำงานให้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังประสบปัญหาแบบเดียวกับที่ว่ามาเป๊ะๆ คือแฟนกระเง้ากระงอดว่าเขามักจะเพิกเฉยข้อความที่เธอส่งมาให้ทางแอปพลิเคชัน WeChat อยู่บ่อยๆ เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน แทนที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตารางเวลาเสียใหม่เหมือนที่คนอื่นๆ ทั้งโลกเขาทำกัน ชายชาวจีนคนนี้กลับเลือกวิธีแก้ปัญหาในแบบที่เขาถนัด ก็คือการหยิบเอาแชตบ็อตมาปลอมเป็นตัวเองเพื่อส่งข้อความหาแฟนเสียเลย

ธรรมชาติของแชตบ็อต (ซึ่งก็เป็นจุดแข็งที่ทำให้มันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ) ก็คือการที่มันสามารถตอบกลับได้ทันที แก้ปัญหาที่แฟนบ่นว่าเขาตอบข้อความช้าได้อย่างตรงจุด 

หากต้องให้เดา เราก็คงจะพนันกันได้ว่าแฟนของเขาจะต้องจับได้ทันที เพราะแม้ว่าแชตบ็อตจะเก่งและเป็นธรรมชาติแค่ไหนแต่มันก็คงจะไม่มีทางมาทดแทนแฟนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันได้แน่ๆ แต่หลี่ไค เซียง เองก็ต้องแปลกใจที่พอทำงานเสร็จปุ๊บ หันกลับมาดูอีกที แฟนสาวก็แลกเปลี่ยนข้อความกับแชตบ็อตไปแล้วมากกว่า 300 ข้อความ อาจจะด้วยความทึ่งปนขำ เขาก็เลยแคปเจอร์บทสนทนาออกมาทวีตให้คนบนอินเทอร์เน็ตได้เห็นว่าแฟนตัวเองคุยอะไรกับแชตบ็อตไปบ้าง 

Chat bot robot welcomes android robotic character. Creative design toys on yellow background.

เริ่มจากแชตบ็อตส่งไปหาเธอว่า “ที่รัก วันนี้ครบรอบ 618 วันที่เราคบกัน หวังว่าเธอคงจะรู้สึกสดใสเหมือนแสงอาทิตย์เลยนะ” 

ข้อความโรแมนติกนี้ก็คงจะดูสมบูรณ์แบบและทำให้เขินอายจนแก้มเป็นสีเลือดฝาดได้ถ้าหากว่าสิ่งที่ตามมาไม่ใช่ข้อมูลมีประโยชน์ที่แฟนสาวไม่ได้ร้องขอ อย่าง “วันนี้อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศา สูงสุด34 องศา แรงลม ระดับ 3 คุณภาพอากาศ 42.0” 

แต่นั่นยังไม่พอที่จะทำให้เธอจับไต๋ได้ว่าที่กำลังคุยอยู่ไม่ใช่แฟนของตัวเอง แถมไม่ใช่มนุษย์เสียด้วยซ้ำ

“เธอทำได้ยังไง” แฟนสาวถาม

“ทำอะไรล่ะ” 

“นี่ออกแบบมายังไง”

“หมายความว่ายังไง”

“ทำไมเธอถึงตอบข้อความได้เร็วขนาดนี้” 

“จะให้ผมตอบยังไงดีล่ะในเมื่อนี่มันไม่ใช่ปัญหาเลย” 

“(ส่งภาพอีโมจิ)”

“นี่ใช้อีโมจิมาซ่อนความอับอายของตัวเองใช่ไหม!” 

ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้จบลงอย่างไร หรือมันมีความจริงแท้อยู่แค่ไหนตั้งแต่ต้น เพราะหลังจากนั้นเขาก็ลบบัญชีทวิตเตอร์ของตัวเองทิ้งไปเลย แต่ก่อนหน้าที่เขาจะอันตรธานไปจากโลกทวิตเตอร์ เพื่อนร่วมโลกเพศชายอีกจำนวนไม่น้อยก็กระหน่ำส่งข้อความไปหาว่าช่วยส่งซอร์สโค้ดมาให้หน่อยได้ไหม จะได้เอามาสร้างบ็อตของตัวเองไว้ใช้กับแฟนบ้าง 

จากหลักฐานที่พอจะมีอยู่ สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดน่าจะเป็นการที่เราคบกับใครสักคนมาเกือบสองปี แต่กลับไม่สามารถบอกได้ภายในตั้งแต่ 10 ประโยคแรกของการแลกเปลี่ยนข้อความกันว่าคนที่คุยอยู่อีกฝั่งน่าจะไม่ใช่คนรักของเรา

Caucasian woman chatting on mobile phone

แต่สิ่งที่ไม่ค่อยน่าแปลกใจสักเท่าไหร่ก็คือการที่หลังจากนี้เราจะมีปฏิสัมพันธ์กับแชตบ็อตในหลากหลายรูปแบบมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทต่างๆ ทั่วโลกนำแชตบ็อตมาใช้ให้บริการลูกค้าในยุคที่ผู้บริโภคคาดหวังให้ฝ่ายบริการหลังการขายตอบกลับภายในหลักวินาที แชตบ็อตถูกหยิบมาทำหน้าที่เป็นผู้รับแจ้งเหตุด่วนสำหรับกรณีที่ทั้งต้องการความรวดเร็วและต้องการคงไว้ซึ่งความนิรนามของผู้แจ้ง ดังนั้นการที่ใครสักคนจะหยิบแชตบ็อตมาใช้แก้ปัญหาชีวิตส่วนตัวบ้างก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดการณ์ไปสักเท่าไหร่ 

สักวันหนึ่ง หากเราส่งข้อความคุยกับคนรักของเราและรู้สึกมีอะไรบางอย่างขาดหรือเกินจากปกติ อย่างเช่น จู่ๆ เขาหรือเธอก็ส่งข้อความที่เป็นประโยคเต็มๆ ใช้คำที่ร้อยเรียงอย่างเป็นระเบียบ ไม่มีตัวย่อไม่พิมพ์ผิด สะกดทุกอย่างถูกต้องเป๊ะๆ ใช้ภาษาเปลี่ยนไปจากเดิม พิมพ์ข้อความเดิมซ้ำๆ ตอบกลับรวดเร็วฟ้าผ่าชนิดที่ไม่รู้ว่าเอาเวลาไหนไปพิมพ์ ฯลฯ ก็อาจจะเริ่มเอะใจขึ้นมาสักหน่อยว่าเป็นไปได้หรือเปล่าที่คนรักของเรากำลังเลือกแก้ปัญหาเวลาไม่พอด้วยการหันไปใช้แชตบ็อต 

หรือถ้าหากว่าเรารู้ทั้งรู้ แต่แชตบ็อตที่ว่ากลับทำหน้าที่ได้ดีกว่าแฟนเรา เป็นเพื่อนให้เราพูดคุยด้วยได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่บ่น ไม่รำคาญ ตอบกลับทันที แถมยังโรแมนติกพอจะนับจำนวนวันที่คบกันมาได้ บางทีนี่อาจจะตอบโจทย์ทุกอย่างที่เราต้องการในความสัมพันธ์ยุคดิจิทัลที่เราอยากให้มีใครสักคนคอยตอบกลับข้อความของเราอยู่เสมอ ไม่ว่าปลายทางอีกด้านหนึ่งจะใช่หรือไม่ใช่คนก็ตาม 

ท้ายที่สุดคนทำแชตบ็อตอาจจะไม่จำเป็นอีกแล้วก็ได้