‘เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่ทักษะติดตัวจะไม่มีวันหายไป’ เคล็ดลับการสร้าง Digital Talent ให้สำเร็จ ฉบับ ดร. เฟิร์น – ชนนิกานต์ แห่ง True Digital Academy (TDA) ผู้มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสามารถด้านดิจิทัลให้ทัดเทียมกับสากล
‘True Digital Academy’ สถาบันสร้างทักษะดิจิทัลชั้นนำภายใต้บริษัท True Digital Group ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับตลาดงานในอนาคต และทักษะในการก้าวเข้าสู่ Digital Transformation ให้แก่องค์กร พนักงาน ผู้ประกอบการ นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป โดยปัจจุบัน ได้จัดทำการเรียนการสอนในประเทศไทยไปแล้วกว่า 50,000 ชั่วโมงเรียน กับผู้เข้าเรียนจากองค์กรชั้นนำต่างๆ ในไทยกว่า 60,000 คน
นอกจากนี้ True Digital Academy ยังเป็นสถาบันเดียวในประเทศไทยที่ถือลิขสิทธิ์หลักสูตรมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับโลกจาก General Assembly (GA) ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ในวันนี้ Future Trends มีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับดร. ชนนิกานต์ จิรา หรือ ‘ดร. เฟิร์น’ ผู้อำนวยการ True Digital Academy (TDA) กับการเล่าสู่กันฟังถึงการสร้างคนให้มีทักษะของอนาคต ในโลกที่หมุนรอบไปด้วยดิจิทัลและเทคโนโลยีมากมายในปัจจุบัน
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามพร้อมกันได้ในบทสัมภาษณ์นี้
Digital talent ในนิยามของ True Digital Academy
ทักษะทางดิจิทัลเป็นแกนหลักของอนาคตธุรกิจที่สำคัญมาก การพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันขององค์กรในตลาดโลก
True Digital Academy เชื่อมั่นว่า การเติบโตและการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลในองค์กรเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้พนักงานมีความพร้อมต่ออนาคตอย่างยั่งยืน อยู่กับองค์กรต่อไปได้ยาวนานขึ้น มีความสุขมากขึ้น และเสริมสร้างคุณค่าให้กับประเทศไทยในการแข่งขันในระดับโลก
โดยทางดร. เฟิร์นมองว่า เราสามารถนิยามคำว่า Digital Talent ได้เป็น 2 มุม
เริ่มที่มุมแคบ ความหมาย Digital Talent คือคนที่เป็น Digital Expert ในองค์กร ที่ช่วยองค์กรผลักดันดิจิทัลต่างๆ และเสริมสร้างความสามารถขององค์กร
ในมุมกว้าง Digital Talent นั้นหมายถึงคนที่ช่วยนำพาความสำเร็จและผลักดันความสำเร็จต่างๆ ของธุรกิจในยุคของดิจิทัล ไม่ใช่ว่าคนที่มี Digital Talent ทุกคนจะต้องเชี่ยวชาญทุกอย่าง แต่เป็นคนที่ใช้บริบท ใช้ความรู้ มีคุณค่าเพื่อทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ทักษะสำคัญ ได้แก่
1. Technical Skill
การมีความรู้ในพื้นฐานของดิจิทัล และมีความรู้ตามสายงานอย่างเหมาะสม จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับบทบาท โดยเป็น Technical Skill เป็นความรู้สำคัญที่ทุกคนต้องมี
2. Business Skill
การมีทักษะและองค์ความรู้ในด้าน Business โดยต้องรู้และเข้าใจถึงบริบทขององค์กรและธุรกิจ เพื่อให้สามารถเชื่อมดิจิทัลเข้ากับองค์กรได้ดีขึ้น
3. Soft Skill & Power Skill
นอกจากจะต้องมีทักษะทางเทคนิคและธุรกิจแล้ว การมีทักษะทางสังคมก็จำเป็นเช่นกัน เพื่อใช้ในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คน เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการสร้างความสัมพันธ์ ทักษะผู้นำ เป็นต้น
เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่ทักษะจะไม่มีวันหายไป
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา Digital Transformation เป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ในปัจจุบัน เรากำลังต่อสู้กับยุคของ AI Transformation ซึ่งการเข้ามาของ AI นี้ ทำให้เกิดความตระหนักรู้ว่า คนที่มีทักษะเฉพาะทางสูงมักจะได้เปรียบกว่าผู้อื่น
ในขณะที่เทคโนโลยีต่างเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการ ณ ขณะนั้น แต่ทักษะที่เป็นคุณค่าติดตัว หรือทักษะทางความคิดที่เป็นที่ต้องการอย่าง Critical Thinking, Creativity, Judgement นั้นจะไม่หายไป การเรียนรู้ตลอดเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เหมือนกับเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ซึ่งการเลือกเรียนรู้และพัฒนาตัวเองในยุคที่มีการเข้าถึงข้อมูลและแหล่งเรียนรู้มากมายนี้ ดร.เฟิร์น เผยว่า เราต้องจัดลำดับความสำคัญและพิจารณาตัวเลือกที่เหมาะสม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ที่มีความสอดคล้องกับความสนใจและความสามารถของเราเอง ดังนั้น จึงมีปัจจัยหลักๆ 3 ประการที่ควรพิจารณา ได้แก่
1. การรู้จักจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเรา เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตนเอง เมื่อเราเทียบกับบทบาทที่ต้องการเป็น เราควรจะพัฒนาส่วนใดมากที่สุด
2. การรู้จักแรงจูงใจในการเรียนรู้และวิธีการเรียนที่เหมาะสมกับตนเอง เป็นสิ่งสำคัญเพื่อทำให้เราสามารถเลือกวิธีการเรียนที่เหมาะสมที่สุดได้ โดยอาจจะแตกต่างกับคนอื่นได้
3. การสร้าง ‘ระบบ’ หรือวินัยที่ดีในการเรียนรู้ของตัวเราเอง ตามคำกล่าวของ James Clear ผู้เขียนหนังสือชื่อดังอย่าง Atomic Habits ที่ว่า “You do not rise to the level of your goals. You fall to the level of your systems.” ต่อให้เราตั้งเป้าหมายสูงไว้แค่ไหน เราจะไปถึงมันไม่ได้ ถ้ากระบวนการของเราไม่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลง
หลายๆ ครั้ง เรามักจะติดอยู่กับคำว่า ‘ไม่มีเวลา’ ซึ่งเชื่อว่า จริงๆแล้ว การที่เราไม่มีเวลาทำสิ่งที่ต้องการอาจเกิดจากการไม่รู้จักแรงจูงใจของเราอย่างชัดเจน ดังนั้นเราควรทำความเข้าใจตนเองเพื่อหาเหตุผลและแรงจูงใจที่เป็นไปได้ในการทำสิ่งต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถหาเวลาทำสิ่งที่เราต้องการได้แม้ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม
คนในทีมต้องเป็น Digital Talent ก่อนออกไปเป็นคู่คิดให้ลูกค้า
ด้วยความที่ True Digital Academy เป็นองค์กรที่ให้คำแนะนำองค์กรอื่นในการวางแผนความพร้อมของอนาคต โจทย์หลักของเราจึงต้องทำให้หน่วยงานของเรา เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เป็นองค์กรที่รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับดิจิทัล ก่อนที่จะไปเป็น ‘คู่คิด’ กับลูกค้าและพาร์ตเนอร์ในการพัฒนาทักษะทางด้านดิจิทัลได้
แม้ True Digital Academy จะเป็นองค์กรที่สอนด้านดิจิทัล แต่ก็ใช่ว่าทุกคนในองค์กรจะมาจากพื้นฐานการเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านดิจิทัลหรือเทคโนโลยีทั้งหมด เพราะแต่ละแผนกก็มีการใช้องค์ความรู้ที่แตกต่างกันไป เช่น ฝั่งการสร้างประสบการณ์เรียนรู้ ฝั่งปฏิบัติการ ฝั่งการขายและดูแลลูกค้า โดยแต่ละแผนกก็จะได้รับความคาดหวังในการใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป
การรู้เท่าทันเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อเราต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อ AI เข้ามาเป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลง สำหรับ True Digital Academy การรับมือกับที่มานี้ไม่เพียงแค่เป็นเรื่องของการปรับตัว แต่เป็นเรื่องของการสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนและเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้สิ่งใหม่อย่างไม่มีวันสิ้นสุด ด้วยการสร้างบรรยากาศที่เปิดโอกาสให้การเรียนรู้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติในชีวิตประจำวัน ดร.เฟิร์น เผยว่า ทุกวันนี้สมาชิกในทีมจะสามารถเดินเข้ามาบอกความต้องการในการเรียนรู้ทักษะที่เจ้าตัวคิดว่าสำคัญแก่การทำงานเองได้โดยตรง รวมถึงระบุว่าต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องใด จากบุคคลใด และสามารถช่วยเหลือในการทำงานที่มีในด้านไหนได้ด้วย
ซึ่งหากพิจารณาแล้วว่าเป็นประโยชน์แก่คนทั้งทีม ทีมงาน True Digital Academy ก็จะมีการเชิญชวนกันเองเพื่อนัดกันเรียนรู้ ถือเป็น dynamic ที่ดีของวัฒนธรรมของการเรียนรู้ไม่รู้จบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลดีให้เราสามารถเป็นคู่คิดได้อย่างดี เนื่องจากทุกคนเข้าใจทั้งทักษะด้านดิจิทัลและวิธีการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง
อย่างตัว ดร. เฟิร์นเอง นอกเหนือจากการเรียนทักษะใหม่ๆแล้ว ในการทำงานก็มีการนำเอาเทคโนโลยีหลายๆ อย่างมาปรับใช้ในการทำงาน เช่น ใช้ ChatGPT, Copilot, Gemini เพื่อช่วยในการหาข้อมูลและเพิ่ม productivity ในการทำงาน ซึ่งการเลือกใช้เทคโนโลยีเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เข้ากับระบบความคิดและการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เท่าทันเทคโนโลยีในยุคของ AI Transformation
- SC Asset จับมือ LH Bank ลงนามสินเชื่อ Sustainability-Linked Loan ครั้งแรก ตั้งเป้าลด GHG มากกว่า 35,000 ตันคาร์บอน ด้วยการจัดซื้อวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากขึ้น 5% ทุกปี
- 🌱AGROWTH 2024 AgTech Accelerator โครงการเร่งสร้างสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีเชิงลึกด้านการเกษตร🌱
- เมื่อเงินไม่ใด้ตอบโจทย์ทุกอย่างของชีวิต แต่คือ ‘การได้ทำงานที่มีความหมาย’ YOLO เทรนด์การใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่มาจากโควิด
“ทุกคนควรมีพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น หรือลองทำอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็ตาม” เคล็ดลับเรื่องคนของ TDA
True Digital Academy เกิดขึ้นด้วยความเข้าใจว่า การพัฒนาทักษะดิจิทัลและการเรียนรู้ในสถานที่ทำงานมีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีก้าวขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยภารกิจในการเป็นแหล่งความรู้และการสนับสนุนทักษะดิจิทัลให้แก่องค์กรชั้นนำต่างๆ จนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการธุรกิจ
ดร. เฟิร์น จึงเชื่อว่าจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในการสร้าง Digital Talent ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม สามารถเกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ
1. วิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่สามารถสร้างแรงกระตุ้น
การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและมุ่งมั่นในการพัฒนา Digital Talent จากผู้บริหารสามารถเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางดิจิทัลในองค์กร
2. พนักงานทุกคนสามารถเสนอความคิดเห็นเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงได้
การเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการเสนอและนำเสนอความคิดเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในองค์กร
ซึ่งการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็นและการทดลองสร้างสิ่งใหม่ๆ ในที่ทำงานเป็นสิ่งที่เราเห็นว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการพัฒนาและสร้างองค์ความรู้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงตัวคนเดียว เราต้องมีความร่วมมือและความมุ่งมั่นจากทุกฝ่ายร่วมกัน
True Digital Academy สนับสนุนให้คนในทีมมอบฟีดแบ็กซึ่งกันและกัน โดยทุกคนควรมีพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น หรือลองทำอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็ตาม
นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ ‘True Digital Academy’ องค์กรที่มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการสร้างความเข้าใจและทักษะดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับอนาคตของตลาดงาน ได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายองค์กรชั้นนำ ในการช่วยเหลือและสร้างคุณค่าให้กับการพัฒนาทักษะดิจิทัลของพนักงาน และสร้าง Digital Talent ให้แก่หลากหลายองค์กร
ในขณะเดียวกัน ก็ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นตัวอย่างและแรงผลักดันในการพัฒนาทักษะและความรู้ให้กับคนในทีมทุกคน เพื่อสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืนต่อไป