ในวันที่ความแน่นอนกลายเป็นความไม่แน่นอน ไม่มีใครทำนายได้แม่น 100 เปอร์เซ็นต์ว่า วันพรุ่งนี้หรืออีกกี่ชั่วโมงต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ตื่นมาแล้วจะมีหายนะครั้งใหม่ไหม สิ่งที่ไม่คาดฝันจะเกิดขึ้นรึเปล่า? ปรากฏการณ์ในใจความข้างต้นคือสิ่งที่เรียกว่า ‘Black Swan Theory’ หรือ ‘Black Swan Event’
แล้วทฤษฎีนี้คืออะไร ใครเป็นคนคิดค้น เคยเกิดขึ้นที่ไหน และในแง่มุมของการทำงานควรระวังยังไงบ้าง? ในบทความนี้ Future Trends จะพาไปดูกัน
Black Swan Theory คืออะไร?
‘Black Swan Theory’ หรือ ‘Black Swan Event’ คือทฤษฎีหรือปรากฏการณ์ที่ใช้อธิบายในโลกการเงิน ถูกคิดค้นโดยนาซิม นิโคลัส ทาเล็บ (Nassim Nicholas Taleb) นักเทรดในตำนาน ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์พันล้าน Empirica Capital LLC ผู้แต่งหนังสือขายดี และทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกนับตั้งแต่ World War II จบลง อย่างหนังสือ The Black Swan: The Impact of the Highly Improbable
โดยมีที่มาจากในโลกยุคก่อนที่เชื่อว่า ‘หงส์ทุกตัวมีสีขาวเท่านั้น’ แต่พอเวลาผ่านไป ความเชื่อนี้ก็ถูกทำลายลง เนื่องจาก ในปี 1697 มีคนค้นพบหงส์สีดำที่ทวีปออสเตรเลีย ด้วยเหตุนี้ หงส์สีดำเลยกลายเป็นตัวแทนของ ‘สิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน’ เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่สุดท้ายก็เป็นไปแล้วนั่นเอง
นาซิมเล่าว่า สิ่งที่จะเข้าข่ายทฤษฎี Black Swan มักมี 3 องค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
1. เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน คาดเดาไม่ได้
2. เมื่อเกิดขึ้น ผลกระทบของเหตุการณ์จะส่งผลร้ายแรง และมหาศาล
3. หลังเหตุการณ์จบ จะมีเหตุผลมาอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ไหนเข้าข่าย Black Swan Theory บ้าง?
จริงๆ แล้ว ทฤษฎีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นกับเหตุการณ์อื่นมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมของเศรษฐกิจ สงคราม สังคม และการเมือง อย่างเช่น เหตุวินาศกรรม 9/11 การพลีชีพด้วยการขับเครื่องบิน 2 ลำ พุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์, วิกฤติสินเชื่อซับไพรม์, คลื่นสึนามิที่คร่าชีวิตผู้คนมานักต่อนัก, การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) หรือแม้กระทั่งภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ดอตคอมในช่วงยุคทองของบริษัทเทคโนโลยีก็ด้วย
Black Swan Theory เอาไปใช้กับชีวิตการทำงานได้ยังไง?
แม้ทฤษฎีหงส์ดำจะเป็นเรื่องราวที่เลวร้าย และเป็นสิ่งย้ำเตือนถึงประวัติศาสตร์อันขมขื่น แต่ถ้าเรารู้จักรับมือให้ดี หมั่นท้าทายมุมมอง ความคิด ความเชื่อของตัวเองอยู่เสมอ รู้ในสิ่งที่รู้ และรู้ทันใน ‘สิ่งที่ไม่รู้’ มีสติ ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท มีแผน B สำรอง และฝึกมองด้านลบของเรื่องต่างๆ ล่วงหน้า ไม่ว่าจะวิกฤตไหนๆ ใหญ่โตสักเท่าไร ก็ย่อมเปลี่ยนจากด้านลบให้กลายเป็นด้านบวกได้ไม่ยาก และต่อให้จะเจ็บตัว เรากับทีมก็คงจะเจ็บน้อยกว่าคนอื่นๆ อยู่ดี
ไม่เกิดไม่ได้แปลว่าไม่มีอยู่จริง
ยังไม่มีไม่ได้แปลว่าในอนาคตจะไม่มีตลอดไป
แล้วคุณล่ะคิดยังไงกับเรื่องนี้ เคยเจอหงส์ดำที่ไหนไหม ตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง? มาแชร์ในคอมเมนต์กัน!
Sources: https://bit.ly/3MzALS8