Global Consumer Insights Pulse Survey ของ PwC ได้ทำการสำรวจผู้บริโภคในเดือนมิถุนายน 2564 ที่จำนวน 8,681 คนใน 22 ประเทศรวมทั้งประเทศไทย พบว่า 76% ของผู้บริโภคชาวไทยต้องการซื้อสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ถึงแม้ว่าเทรนด์รักษ์โลก จะได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงที่ผ่านมา หัวใจหลักของสินค้าก็ยังคงเป็นเรื่องคุณภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอยู่ดี
ควันเสียจากรถยนต์เอง ก็ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม แนวโน้มธุรกิจยานยนต์ในปัจจุบันจึง พยายามแก้โจทย์ปัญหานี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องคงคุณภาพด้านต่างๆ ที่เป็นหัวใจหลักของความเป็นรถยนต์ อย่างเรื่องการขับขี่ที่มีคุณภาพ อัตราความเร่งที่น่าพอใจ รวมถึงการเอื้อประโยชน์ต่อลูกค้าทั้งความประหยัด และการอำนวยความสะดวก รวมถึงประกันดีๆ การรักษาจุดเด่นของความเป็นรถยนต์ พร้อมรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วยจึงเป็นถือเป็นเรื่องสำคัญ นั่นจึงทำให้เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนแบบฟูลไฮบริดจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทในนวัตกรรมรถยนต์นั่นเอง
ที่ผ่านมาฮอนด้าได้เปิดตัว ‘The All-new Honda HR-V e:HEV’ กับมาตรฐานใหม่ของวงการรถ SUV ด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ทั้งไลน์อัป ที่มอบสมรรถนะอันทรงพลัง ตอบสนองทันใจ และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และยังสามารถตอบโจทย์เรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ ฮอนด้าเองก็ยังรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี* และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง* อีกด้วย
แน่นอนว่า ประสิทธิภาพที่โดดเด่นยังไม่ได้หยุดแค่นี้ เพราะในด้านเทคโนโลยีและด้านการขับขี่ก็ทันสมัย มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ที่ให้คุณมั่นใจในทุกเส้นทางมากยิ่งขึ้น พร้อมออปชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ยังคงครบครันเพื่อตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์คนยุคนี้
ซึ่ง The All-new Honda HR-V e:HEV จะมอบประสบการณ์และความคุ้มค่าแก่ผู้ขับขี่ในยุคนี้อย่างไร เทรนด์ของรถที่จะได้เห็นจากนี้จะแตกต่างจากเดิมอย่างไรบ้าง? มาดูกัน และให้คุณได้เปิดประสบการณ์ได้ด้วยตัวคุณเองได้ง่ายๆ
โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ขับขี่สนุก เร็วแรง แถมประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ความน่าสนใจของ The All-new Honda HR-V e:HEV ก็คือระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ให้มาในทุกรุ่นย่อย ซึ่งการทำงานจะผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบ/นาที สามารถสร้างประสบการณ์แก่ผู้ขับขี่ ด้วยอัตราเร่งรวดเร็วทันใจ แถมยังขับสนุก และประหยัดนำมันได้ถึง 25.6 กม. / ลิตร (ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฎิบัติการ)
นอกเหนือจากเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า อีกส่วนที่สำคัญคือแบตเตอรี่ ซึ่งฮอนด้าเลือกใช้ แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่ ไม่ต้องเสียบชาร์จไฟ และด้วยความที่เป็นระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV นอกจากมอบความรู้สึกที่ขับขี่ได้อย่างสนุกสนานแล้ว เอสยูวีคันนี้ก็ยังมาพร้อมอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แค่ 94 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งถือเป็นอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของรถยนต์ที่ประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ประเภทอื่น ๆ เช่น เบนซิน ที่จะกินพลังงานอยู่ที่ราว 14 ถึง 16 กิโลเมตรต่อลิตร
ในด้านของการรับประกัน ฮอนด้ารับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดที่ยาวนานถึง 10 ปี* และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบอีก 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง* พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานจากโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า 229 แห่งทั่วประเทศ จึงมั่นใจได้ว่า The All-new Honda HR-V e:HEV คันนี้ มั่นใจ หายห่วงเรื่องบริการหลังการขายได้เลย
มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSINGที่เหมือนมีเพื่อนร่วมทางไปด้วย
ทุกการขับขี่เราแทบไม่รู้เลยว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นจนเราตั้งตัวไม่ทันบ้าง The All-new Honda HR-V e:HEV จึงมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนน เพื่อคอยช่วยตรวจจับและเตือน เหตุการณ์ไม่คิด ซึ่งระบบต่างๆ จะประกอบไปด้วย
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
โดยเทคโนโลยีนี้ก็จะช่วยให้เราได้อุ่นใจกับการขับขี่ จนเหมือนเรามีเพื่อนร่วมทางด้วยในทุกๆ เส้นทาง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยแก่ทุกคน The All-new Honda HR-V e:HEV จึงได้ใส่เทคโนโลยีนี้ให้กลายเป็นระบบมาตรฐานที่มีอยู่ในทุกๆ รุ่นย่อย นั่นเอง
ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจในทุกเส้นทางบนท้องถนน
แน่นอนว่า รูปแบบการขับขี่ของผู้ใช้เองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ทางฮอนด้าจึงได้ใส่ใจในเรื่องของเทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยที่ล้ำสมัย เสริมความอุ่นใจและความสะดวกสบายในทุกเส้นทาง โดยประกอบไปด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
- ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
- ระบบ Auto Brake Hold
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front and Rear Passenger Seat Belt Reminder)
- ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม และห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัย
ความโดดเด่นอีกอย่างของ The All-new Honda HR-V e:HEV คือการดีไซน์ที่แสนสะดุดตา สปอร์ตพรีเมี่ยม ดูปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ กับกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS เพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้นกับสีภายนอกสีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน และหลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof)
นอกจากนี้ การออกแบบภายในเอง ก็ออกมาอย่างพิถีพิถันในทุกองค์ประกอบ โดยมุ่งเน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง มอบพื้นที่ที่กว้างขวาง สะดวกสบายในทุกที่นั่ง และคงไว้ซึ่งอรรถประโยชน์ กับฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิเช่น ระบบ Air Diffusion System , ช่องปรับอากาศตอนหลัง และ ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิด แบบสัมผัส อีกทั้งยังคงรักษาเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ ด้วยเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุด พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่
ความน่าหลงใหลของ The All-new Honda HR-V e:HEV ยังมีอีกมากมายให้คุณได้ไปลองสัมผัส แต่ทั้งนี้ก็รับประกันได้เลยว่า มันทั้งตอบโจทย์ในด้านความสวยงามและการใช้งานไปพร้อมๆ กัน อย่างแน่นอน
ตอบโจทย์ความเป็นสมาร์ตไลฟ์สไตล์กับฟังก์ชันล้ำสมัยระดับพรีเมียมที่จบครบในคันเดียว
ยุคดิจิทัลที่หายใจเข้าออกด้วยเทคโนโลยีแบบนี้ เพื่อตอบโจทย์ความเป็นสมาร์ตไลฟ์สไตล์ให้กับคนยุคนี้ The All-new Honda HR-V e:HEV จึงเต็มไปด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน อาทิ
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlayและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- ลำโพงสูงสุดจำนวน 8 ตำแหน่ง
- ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส
- เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
และที่อยากแนะนำคือ ฟังก์ชันใหม่กับฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) อำนวยความสะดวกมากขั้น โดยเพียงแค่สอดเท้าไปที่เซนเซอร์บริเวณใต้กันชนด้านหลัง ระบบจะเปิดฝากระโปรงท้ายโดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงกดสวิตช์ปิด พร้อมทั้งหยิบสัมภาระออกจากท้ายรถ และเดินออกห่างจากตัวรถ ระบบจะทำการปิดฝากระโปรงท้ายลงโดยอัตโนมัติ เมื่อระบบตรวจจับได้ว่ารีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ โดยขณะใช้งานจะต้องมีกุญแจรีโมทอยู่กับตัว ซึ่งระบบนี้ก็จะมีในเฉพาะรุ่น e:HEV EL และ รุ่น e:HEV RS นั่นเอง
ด้วยความเป็นไฮเทคโนโลยีแบบนี้ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า การใช้ชีวิตของคุณจะไม่มีสะดุดติดขัด และสะดวกสบายไปกับสมาร์ตไลฟ์สไตล์ ในแบบของคุณจนเหมือนอยู่ในบ้านหลังที่สองกันเลยล่ะ
เลือกสรรราคาเพื่อเป็นเจ้าของประสบการณ์ใหม่ๆ กับ The All-new Honda HR-V e:HEV
The All-new Honda HR-V e:HEV ที่มาพร้อมขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือ
- e:HEV RS ในราคา 1,179,000 บาท
- e:HEV EL ในราคา 1,079,000 บาท
- e:HEV E ในราคา 979,000 บาท
มีสีภายนอก ให้เลือกทั้งหมดถึง 5 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) พร้อมด้วย สีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) และสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) รวมทั้งสีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) ในทุกรุ่นย่อย และอย่างที่กล่าวไว้ว่า The All-new Honda HR-V e:HEV มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี* และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง* โดยมีการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานจากโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า 229 แห่งทั่วประเทศ
มาถึงตรงนี้ต้องยอมรับเลยว่า The All-new Honda HR-V e:HEV ได้ตอบโจทย์ความเป็นแนวทางกระแสหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะในด้านเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่ทันสมัย ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน การประหยัดพลังงานสร้างความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมออปชั่นที่รองรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้
เราเองก็หวังว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการขับขี่ในยุคใหม่ด้วย พลังความท้าทายที่ไร้ขีดจำกัด ที่จะขับเคลื่อนชีวิตของคุณไปข้างหน้าได้นั่นเอง
พิเศษทดลองขับ รับฟรี! You’re e:HEV Family Cup แก้วน้ำ 2 ชั้น LocknLock มูลค่า 259 บาท**
เมื่อลงทะเบียนและทดลองขับ ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 64 – 28 ก.พ. 65 ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
ลงทะเบียน คลิก https://bit.ly/3FyWm8K
#TheAllnewHondaHRVeHEV
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
**ของที่ระลึกมีจำนวนจำกัด