ในยุคที่เต็มไปด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความกลัวเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ ได้กลายเป็นเรื่องที่เกินจริงไปมาก ความกังวลเรื่องการเข้ามาแทนที่พนักงานด้านเทคโนโลยี ดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวที่แพร่หลายไปไกล วันนี้ Future Trends จะพาไปดู 6 เหตุผลที่น่าสนใจกัน ว่าทำไมปัญญาประดิษฐ์จะไม่มีวันเข้ามาแทนที่คนทำงานสายเทคโนโลยีได้
[ 6 เหตุผล ที่ AI ไม่สามารถมาแทนที่คนทำงานสายเทคโนโลยีได้ ]
เหตุผลที่ 1: Jevons Paradox
ในทางเศรษฐศาสตร์ Jevons paradox จะเกิดขึ้นเมื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีขึ้น แต่ต้นทุนการสร้างลดลง ทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น คอมพิวเตอร์ในอดีตราคา 10,000 บาท แค่เข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตก็กระตุกแล้ว แต่ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ราคา 10,000 บาท มีประสิทธิภาพมากกว่าในอดีตหลายเท่า ความต้องการทั้งการผลิต และการซื้อจึงมากยิ่งขึ้น
หากการเขียนโปรแกรมง่ายขึ้น จากการเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ มีโอกาสที่เงินเดือนสำหรับตำแหน่งทางเทคนิคบางตำแหน่งจะลดลง และด้วยเงินเดือนที่ถูกลงกว่าเดิม นายจ้างสามารถจ้างพวกเขาได้มากขึ้นเพื่อสร้าง และบำรุงรักษาระบบปัญญาประดิษฐ์อีกทอดหนึ่ง ท้ายที่สุดแล้ว จึงเกิดเป็นภาวะ Jevons paradox ที่ปัญญาประดิษฐ์ไม่ได้มาแทนที่คนทำงานด้านนี้
เหตุผล 2: มนุษย์พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น
ในบริบทขององค์กรจะมีกระแสการใช้งานเทคโนโลยีภายในมากยิ่งขึ้น พวกเขาใช้งานปัญญาประดิษฐ์ในหน่วยงาน ถึงแม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะลดค่าใช้จ่าย และเวลาในการจัดการระบบขององค์กร แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่องค์กรจะไว้ใจ และปล่อยให้พวกมันทำงานฝ่ายเดียว
ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาต้องพึ่งมนุษย์ในการทำงานดูแล ระบบปัญญาประดิษฐ์อีกต่อหนึ่งเผื่อในกรณีฉุกเฉินที่ต้องแก้ไขความผิดพลาดของพวกมัน นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้ช่วยงานฝ่ายเทคนิคจะไม่ถูกแย่งหน้าที่งานไปจากปัญญาประดิษฐ์
เหตุผล 3: เทคโนโลยีเป็นมากกว่าการเขียนโปรแกรม
บทบาททางเทคนิคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในรูปแบบพลวัตไม่หยุดอยู่นิ่งๆ เทคโนโลยีใหม่ เกิดขึ้นมาเสมอ ด้วยเทคโนโลยี และระบบอัตโนมัติใหม่ๆ การเขียนโค้ดมักไม่จำเป็นเสมอไป บางองค์กร ก็ใช้งานรูปแบบ Low Code หรือ No Code (คือระบบที่ปฏิบัติงานได้แม้มีโค้ดน้อยหรือไม่มีเลยก็ตาม) มากขึ้น เพื่อความง่ายต่อการทำงาน
งานในส่วนที่เรากล่าวไปก็อาจจะถูกแทนที่ด้วยปัญญาประดิษฐ์จริง แต่ผู้รักษาระบบปฏิบัติการการดูแลโค้ด ก็ยังเป็นมนุษย์ที่ดูแลหน้าที่นี้อยู่ดี ดังนั้นจงอย่ากังวลไป ถึงจะจบเทคโนโลยีมาก็อาจจะไม่ต้องเขียนโค้ดแต่ไปทำงานหน้าที่อื่นแทนก็ได้
เหตุผล 4: ความก้าวหน้าของ AI เป็นวัฏจักร
เกือบทุกวันดูเหมือนว่าจะมีโมเดลปัญญาประดิษฐ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ แต่อย่าลืมว่าตั้งแต่ปี 1950 ปัญญาประดิษฐ์ก็เคยถูกพัฒนา และพูดถึงเป็นกระแสสังคมมาแล้ว สุดท้ายมันก็หายไปตามกาลเวลา ดังนั้น ความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบัน อาจจะเป็นเพียงแค่วัฏจักรหนึ่งก่อนการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ อย่าพึ่งกังวลในสิ่งที่อาจเกิด หรือ ไม่อาจเกิดขึ้นได้จริงดีกว่า
เหตุผล 5: องค์กรใหญ่ๆ ยังไม่มีแนวโน้วในการเปลี่ยนแปลง
องค์กรขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานทางด้านเทคโยโลยี ซอฟต์แวร์ หรือแม้แต่จะปัญญาประดิษฐ์เองก็ตาม ยังไม่มีทีท่าว่าจะใช้งานปัญญาประดิษฐ์ แทนมนุษย์ อย่างจริงจัง ส่วนมากปรากฏให้เห็นในเชิงการใช้งานเพื่อลดทอนการทำงานหนักของมนุษย์
ดังนั้น ถ้าองค์กรใหญ่ๆ ยังไม่เคลื่อนไหวตัว เราอาจจะตีโพยตีพายกันไปเอง จากมายาคติที่สื่อบางเจ้าประโคมขึ้นมาเองก็ได้
เหตุผลที่ 6: ข้อ จำกัดของโมเดลภาษาขนาดใหญ่
Large Language Model หรือ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ คือจุดเด่นของปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบัน การที่มันเป็นที่นิยมได้ขนาดนี้ เพราะมันฉลาดมากในเรื่องของการใช้ภาษา แต่หากไปศึกษาลงลึงดูจริงๆ พวกมันยังอ่อนหัดในเรื่อง ‘ตรรกะ’ ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์มี ถึงแม้บางคนตรรกะจะวิบัติไปบ้างก็ตาม
แต่นี่คือสิ่งที่ โมเดลของปัญญาประดิษฐ์ไม่สามารถมาแทนที่มนุษย์ในสายงานเทคโนโลยีได้เลย ตรรกะ คือจุดที่ทำให้ปัญญาประดิษฐ์ยังก้าวข้ามมนุษย์ไม่ได้
นอกจากนี้การขาดตรรกะของมันยังทำให้ การวิเคราะห์ ข้อสรุป และการแสดงภาพมีข้อผิดพลาด ข้อสรุปที่ไม่ถูกต้อง และสมมติฐานที่ไม่ถูกต้องอยู่ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้อง คุณคิดว่าใครจะเป็นผู้ทำการตรวจสอบคุณภาพเหล่านี้?
คำตอบคือ ‘คนทำงานสายเทคโนโลยี’ เป็นการปิดจบเหตุผลที่ 6 อย่างทรงพลังว่าไม่มีทางที่ปัญญาประดิษฐ์จะอยู่ได้หากขาดมนุษย์ในตอนนี้ล่ะนะ
ท้ายที่สุดนี้ ChatGPT หรือปัญญาประดิษฐ์ตัวอื่นๆ มีความสามารถที่น่าประทับใจอย่างมากราวกับเวทมนตร์ นักพัฒนา ผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน สื่อ และคนทั่วไป ให้ความสนใจกับกระแสนี้ แม้ว่าการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ใหม่ๆ จะน่าประทับใจเพียงใด
แทนที่เราจะกลัวมัน ทำไมเราไม่ลองมองมันเป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เข้ามาทำให้ชีวิตเราง่ายยิ่งขึ้น ดียิ่งขึ้น กว่าที่เป็นอยู่ล่ะ
เขียนโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
Source: https://hackernoon.com/no-ai-will-not-be-replacing-tech-jobs