ในวันที่ต้องทำงาน เชื่อว่าหลายๆ คนคงมีอาการง่วงเหงาหาวนอนกันอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้า สาย บ่าย หรือก่อนเวลากลับบ้าน อย่างน้อยต้องได้หาวกันสักครั้ง หรือไม่ก็หาวกันทั้งวันแหละเนอะ 👀
แน่นอนว่าเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจของคนวัยทำงานในเวลาที่รู้สึกง่วงนอนก็คงหนีไม่พ้น ‘กาแฟ’ ที่ช่วยทำให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทำงานต่อไปอีกยาวๆ แต่การพึ่งพา ‘กาแฟ’ ก็อาจไม่ใช่วิธีที่ดีเสมอไปหรอกนะ
ใน 1 วัน ร่างกายของเรามีความสามารถในการรับคาเฟอีนได้ 400 มิลลิกรัม ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วกาแฟ 1 แก้ว จะมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ที่ 90 ถึง 200 มิลลิกรัม ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่า 400 มิลลิกรัม มันจะเยอะขนาดไหนกัน ก็ประมาณไปคร่าวๆ ว่าเท่ากับกาแฟดริปขนาด 8 ออนซ์ 4 แก้วก็ได้
ซึ่งเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก็ไม่ได้มีแต่กาแฟ เพราะชาเขียว ชานม ชาไทย เครื่องดื่มชูกำลัง หรือแม้แต่น้ำอัดลมก็มีคาเฟอีนด้วยเหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ปริมาณคาเฟอีนที่ร่างกายของแต่ละคนรับไหวก็ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อย่างยารักษาโรค สุขภาพ รวมไปถึงโรคประจำตัวอย่างโรคนอนไม่หลับด้วยเช่นกัน
ในบางครั้ง เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเพียง 1 แก้ว ก็ไม่ได้ช่วยให้เราหายง่วง ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณขึ้น เพื่อให้ได้ความสดชื่นกลับคืนมา ซึ่งการที่เรารับคาเฟอีนในปริมาณที่มากกว่าร่างกายจะรับไหว (Caffeine Overdose) นั้นไม่ส่งผลดีแน่ๆ เพราะทำให้ระบบในร่างกายทำงานผิดปกติ เช่น ใจสั่น กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ
อยากหายง่วงแต่ดื่มกาแฟอีกไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้จะทำยังไงดี ไม่ต้องห่วง! วันนี้ Future Trends รวบรวมวิธีที่จะช่วยให้เราตื่นโดยที่ไม่ต้องพึ่งคาเฟอีนมาฝาก จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. น้ำเปล่าและของกินเล็กๆ น้อยๆ ช่วยได้
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกง่วงนอนหรือเหนื่อยล้าคือการขาดพลังงาน การใช้คาเฟอีนจึงเป็นการแก้ปัญหาในระยะสั้นๆ เพราะฉะนั้นเราต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด การดื่มน้ำเปล่านั้นช่วยให้ร่างกายสดชื่น แถมยังช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น ทำให้เราไม่ต้องง่วงตอนทำงานอีกแล้ว
และหากต้องการเพิ่มพลังงาน ตัวเลือกที่ดีกว่าคาเฟอีนก็คือของกินเล็กๆ น้อยๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีความมัน หรือมีน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้รู้สึกง่วงกว่าเดิม
2. ขยับร่างกายเบาๆ
แทนที่จะหยิบคาเฟอีนขึ้นมาดื่ม ให้ลองลุกออกจากเก้าอี้แล้วบิดตัวไปมาสักเล็กน้อย ไม่ก็ออกไปเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอกสัก 5-10 นาทีแล้วค่อยกลับเข้าห้องมาใหม่ เพราะการออกกําลังกาย หรือการขยับตัวเบาๆ นั้นสามารถเพิ่มระดับพลังงานให้กับเรา และลดความรู้สึกเมื่อยล้าได้ดี
นอกจากนี้ การเดินที่เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด ยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้ด้วยนะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้ง 2 ตัว
3. งีบสักหน่อยก็ดีนะ
หากความเหนื่อยล้าถึงขีดจำกัด ไม่ว่าจะทำวิธีไหนก็ไม่ช่วยให้หายง่วง ก็ต้องขอบอกตรงๆ ว่า ‘การงีบ’ คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
การพักสมองด้วยการงีบหลับนั้นช่วยให้เราฟื้นฟูความเหนื่อยล้าได้ดีและเร็วโดยที่ไม่ต้องใช้เวลานาน การงีบ 10-20 นาทีนั้นส่งผลบวกต่อร่างกาย ช่วยให้สดชื่นและกระปรี้กระเปร่า
จะเห็นได้ว่าไม่มีเธอ (กาแฟ) เราก็อยู่ได้ เพราะยังมีวิธีอื่นๆ อีกที่จะช่วยให้เราตื่น สดชื่น และกระปรี้กระเปร่าขึ้นอีกตั้งเยอะ นอกจากจะช่วยให้เราหายง่วงแล้ว ยังทำให้เกิดผลดีต่อสุขภาพด้วย ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำเปล่าที่ดีต่อร่างกาย การออกกำลังกายเบาๆ อย่างการเดินที่ช่วยให้ความคิดโลดแล่น หรือจะเป็นการงีบหลับที่ช่วยฟื้นฟูสมองที่อ่อนล้าก็ตาม ดังนั้น ลองหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองดูนะ
เขียนโดย ชนัญชิดา พลอยพลาย
Sources: