เปิดฟีเจอร์ใหม่จาก ‘NocNoc’ แพลตฟอร์ม Home and Living แห่งแรกในไทย ชู ‘Customer Experience’ ครอบคลุมทุกเรื่องเพื่อคนรักบ้าน

Share

บ้านในฝันของคุณเป็นแบบไหน? ทำอย่างไรจะออกแบบพื้นที่ เลือกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน ได้อย่างที่ใจต้องการ

นี่คือ ‘Pain Point’ ตั้งต้นที่ทำให้ในเวลาต่อมา ‘NocNoc’ แพลตฟอร์ม Home and Living รายแรกในไทยถือกำเนิดขึ้น ย้อนกลับไปในปี 2562 ‘NocNoc’ เปิดตัวทำความรู้จักกับผู้ใช้งานด้วยแพลตฟอร์มเว็บไซต์ โดยอิงกับเทรนด์ผู้บริโภคที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามวิถี ‘New Normal’ จากการช้อปปิ้งออฟไลน์ สู่แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ‘NocNoc’ จึงเข้าไปตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสะดวกสบายในการจับจ่าย รวมทั้งยังมีความน่าเชื่อถือ จับมือร่วมกับพาร์ตเนอร์ร้านค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างครบถ้วน

ความน่าสนใจของ ‘NocNoc’ คือจุดยืนและเป้าหมาย ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เพียง Marketplace หรือตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการเรื่องบ้านระหว่างผู้ซื้อ (Buyer) -ผู้ขาย (Seller) แต่แอปฯ เคาะประตูบ้านแห่งนี้ต้องการเป็น ‘Ecosystem’ ให้กับคนรักบ้าน ตั้งแต่การสร้าง ‘Journey’ ในการออกแบบสไตล์แต่งบ้านที่ใช่ เลือกซื้อสินค้าตั้งแต่ เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง และทุกบริการเรื่องบ้านจากหลากหลายร้านค้าในแพลตฟอร์ม รวมถึงการบำรุงรักษาสินค้าเพื่อให้ใช้งานได้นานที่สุด ซึ่งคุณณัฐวดี วงษ์ทศรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยี บอกกับเราว่า ณ ตอนนี้ ‘NocNoc’ คือแอปพลิเคชันสัญชาติไทยหนึ่งเดียวที่วางจุดยืนเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการแต่งบ้าน ดูแลประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งานใน ‘น่านน้ำสีคราม’ ที่ยังไม่มีใครย่างกรายเข้ามา

‘Future Trends’ คุยถึงการเติบโตของ ‘NocNoc’ ในปีที่ผ่านมา ความท้าทายในการพัฒนาโปรดักต์ รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะเข้าไปช่วยเสริมทัพ-สร้างประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้บริโภคครบทุกมิติมากยิ่งขึ้น

สร้างแรงบันดาลจริง และ Empowers ผู้ใช้งานจุดยืนของ ‘NocNoc’ ที่เป็นมากกว่า Marketplace

จากเว็บไซต์ สู่แอปพลิเคชัน และการสร้าง ‘Customer Experience’ เพื่ออุดรอยรั่วให้กับผู้ใช้งานได้ครบถ้วน หากจะวางจุดยืนในฐานะ ‘Marketplace’ คงไม่สามารถแก้โจทย์ได้ทั้งหมด อยากแต่งบ้านแต่ไม่มีความรู้เรื่องดีไซน์ อยากมีบ้านที่เป็นสไตล์ของตัวเองแต่อธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ไม่เก่ง ซื้อของไปแล้วมีวิธีการดูแลรักษาอย่างไร จะปรึกษาใครได้บ้าง ฯลฯ ทั้งหมดนี้ ทำให้ ‘NocNoc’ นิยามการมีอยู่ของตัวเองไว้สองส่วน คือ สร้างแรงบันดาลจริงและ ‘Empowers’ ให้กับผู้ใช้งานได้เจอสิ่งที่เป็นตัวเองไปพร้อมๆ กัน

คุณณัฐวดี ให้ความเห็นว่า หากใครเคยทำบ้านมาก่อนจะทราบดีว่า การทำบ้านนั้นใช้พลังงานค่อนข้างมาก ‘NocNoc’ จะทำการย่นระยะในการแต่งบ้านให้สะดวกมากยิ่งขึ้น จากเดิม ที่ต้องเปิดหน้าเว็บหลายสิบแท็บ ต้องเดินไปเปรียบเทียบสินค้าที่หน้าร้านหลายๆร้าน แต่ ‘NocNoc’ รวมไว้ให้หมดทุกอย่างแล้ว ไม่ใช่แค่ตัวสินค้าเรื่องบ้านเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงทุกบริการเรื่องบ้าน ที่รวมไว้ทั้งวงกลมของการแต่งบ้าน โดยมี 4 ส่วนหลักๆ ได้แก่

– Personalized Shopping: ใช้ระบบ ‘Machine Learning’ ในการเก็บข้อมูลหลังบ้าน เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกสินค้าได้ถูกใจมากที่สุด

– Idea and Inspiration: ไม่ใช่แค่ ‘ฝันตามกรอบ’ แต่ ‘NocNoc’ ต้องการเป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้ออกแบบบ้านในเวอร์ชันที่เป็นตัวเองมากที่สุด แอปฯ จะมีฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูสินค้าได้เรื่อยๆ ถ้าชอบรูปไหน คลิกเข้าไปก็สามารถกดใส่ตะกร้า และสั่งซื้อได้ทันที

– Community: นอกจากการเป็นพื้นที่ออกแบบบ้านที่เป็นตัวเองแล้ว มากไปกว่านั้น คือ ‘NocNoc’ ต้องการสร้างพื้นที่ให้คนรักบ้านได้มาแลกเปลี่ยนกัน เป็นคอมมูนิตี้ที่มีการตั้งกระทู้ถาม-ตอบ แชร์ไอเดียหรือปัญหาที่คล้ายคลึงกัน ยกตัวอย่างเช่น บ้านที่เลี้ยงสุนัข จะจัดการพื้นที่อย่างไรให้พื้นบ้านยังคงสภาพแข็งแรง ตรงนี้ก็อาจจะมีบ้านที่เลี้ยงสุนัขเหมือนกัน เข้ามาแชร์ทริกของตัวเองกับผู้ใช้งานอื่นๆ ในคอมมูนิตี้ได้ เป็นต้น

-Services and  Installer : สินค้าบางประเภทต้องมีบริการหลังการขายอื่นๆ รองรับด้วย เช่น เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องซักผ้า ที่ต้องมีการติดตั้งใช้งานเพิ่มเติม ฉะนั้น ในหน้า ‘Check out’ จะมีฟีเจอร์ดังกล่าวให้ผู้ใช้งานเลือกอีกครั้งว่า ต้องการบริการอื่นๆ ด้วยหรือไม่ ซึ่ง NocNoc มีบริการครอบคลุมทุกปัญหาเรื่องบ้าน

กางฟีเจอร์ใหม่ ‘NocNoc’ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 ค้นหาด้วยภาพ แต่งบ้านด้วย AI สร้าง Affiliate Link ได้

นอกจากการออกแบบประสบการณ์ผ่านเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ ‘คนรักบ้าน’ จากการใช้เครื่องมือต่างๆ มากมาย ทั้ง Big Data, Social Listening และการทำ Research แล้ว ไฮไลต์ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ยังคงมุ่งเน้นไปที่การออกแบบพื้นที่ให้ผู้ใช้งานได้เป็นตัวเองมากที่สุด รวมถึงยังนำเรื่องของ ‘Affiliate’ เข้ามาปูพรมในปีนี้ด้วย โดยไฮไลต์ที่น่าสนใจ มีดังนี้

– NocNoc Connect: นอกจากการเลือกซื้อสินค้าตรงตามใจแล้ว ในหน้าการสั่งซื้อ ‘NocNoc’ ยังเพิ่มการเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานให้ครบทุกมิติมากขึ้น ด้วยตัวเลือกบริการการติดตั้ง รวมถึงยังคำนวณค่าใช้จ่ายในสัดส่วนดังกล่าวให้ผู้ใช้งานเห็นก่อนตัดสินใจกดสั่งซื้อ

-Find your style: ไม่ใช่แค่ภาพสินค้า แต่ปีนี้ ‘NocNoc’ มาพร้อมกับการค้นหาสไตล์แต่งห้อง-แต่งบ้านด้วยเอไอที่พัฒนาขึ้นจากทีม ‘NocNoc’เอง โดยที่ผู้ใช้งานสามารถนำสไตล์ที่ชอบไปพัฒนาต่อเป็นบ้านในฝันได้ทันที เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าจับตามองในปีนี้

– Image search: ฟีเจอร์เสิชหาของที่ใช่ด้วยรูปที่ชอบ โดยใช้ ‘Machine Learning’ เป็นตัวช่วยในการค้นหาสไตล์ที่แมตช์กับผู้ใช้งาน

– Affiliate: การทำ Affiliate ใน ‘NocNoc’ ไม่ได้ตั้งต้นจากการรีวิวด้วยอินฟลูเอนเซอร์ หรือคนมีชื่อเสียง แต่เกิดจากความต้องการขยายคอมมูนิตี้ผู้ใช้งานจริง เมื่อซื้อไปแล้ว ได้ใช้งานแล้วเกิดชอบสินค้านั้นจนอยากบอกต่อ ผู้ใช้งานสามารถชวนเพื่อนมาซื้อสินค้าดังกล่าวได้ ถ้าเพื่อนถูกใจและกดสั่งซื้อ ทางแอปฯ ก็จะมีค่าคอมมิชชันให้กับผู้ใช้งานกลับไปด้วย

นอกจากนี้ ในปีนี้ยังมี ‘Loyalty Program’ สำหรับแฟนพันธุ์แท้ของ ‘NocNoc’ โดยเฉพาะ โดยผู้ใช้งานที่เข้ามาแชร์ทริกการแต่งบ้าน เลือกซื้อสินค้าแต่งบ้าน จะมีโปรแกรมสะสมแต้ม เพื่อรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ ต่อไป ซึ่งหากมองโดยภาพรวมแล้วจะพบว่า ทุกฟีเจอร์ ทุกการใช้งาน มีปลายทางไปที่การสร้างพื้นที่พูดคุย-แลกเปลี่ยน เพื่อให้เกิดคอมมูนิตี้ของคนรักบ้านในระยะยาวนั่นเอง

ไม่หยุดสร้าง Customer Experience ถ้านึกถึง ‘บ้าน’ ต้อง ‘NocNoc’ เท่านั้น

เมื่อถามถึงเป้าหมายในอนาคต คุณณัฐวดีให้ความเห็นว่า ‘NocNoc’ ต้องการเป็นแพลตฟอร์มที่ทุกคนนึกถึงเมื่อคิดถึงเรื่องบ้าน ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การซื้อของตกแต่งหรืองานก่อสร้าง แต่ในทุกๆ ‘Journey’ ของคำว่าบ้าน ต้องมี ‘NocNoc’ อยู่ในสมการด้วยเสมอ ตั้งแต่บ้านมีปัญหา หลังคารั่ว พื้นบ้านร้าว กระทั่งวางแผนซื้อบ้านหลังใหม่ ‘NocNoc’ ต้องการเป็นหมุดแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงเสมอ

“สิ่งที่เราพยายามจะเข้าใจลูกค้า ก็คือ เมื่อเขายังไม่ตัดสินใจซื้อ เป็นเพราะอะไรนะ เขายังไม่มั่นใจในสินค้ารึเปล่า แล้วทำไมถึงไม่มั่นใจ เพราะยังไม่ได้สัมผัสสินค้าใช่ไหม เราก็เลยได้เจอว่า จริงๆ แล้วปัญหาหลัก คือคนไม่เห็นสินค้าเลยยังซื้อไม่ได้ ทำยังไงจะมีฟีเจอร์ที่ช่วยอุดรูรั่วตรงนี้ แล้วทำให้ลูกค้าวางใจได้ ฉะนั้น อะไรที่ทำให้เขาเกิดความไม่สบายใจที่จะมาซื้อของกับเรา เราก็จะเข้าไปแก้สิ่งนั้น ทั้งขา Reactive Feedback และ Proactive

“เราพยายามครอบคลุมประสบการณ์ของผู้ใช้งานทุกด้าน หลายคนอาจจะมองว่า โปรดักต์ หรือการสร้างประสบการณ์จบแค่ในแอปพลิเคชันรึเปล่า แต่เรามองว่าไม่ใช่ ‘Experience’ คือทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะบนแอปฯ นอกแอปฯ หรือซื้อของเสร็จแล้วก็ตาม ตรงนั้นคือ ‘Customer Experience’  หมดเลย โจทย์คือจะทำยังไงให้ทั้ง ‘Journey’ ดีกับผู้ใช้งานจริงๆ นี่คือสิ่งที่ ‘NocNoc’ ตั้งเป้าไว้”