“I’m really glad when my team proves me wrong”
เป็นประโยคที่ CEO ของ Spotify อย่าง ‘Daniel Ek’ ได้ออกมาแบ่งปันประสบการณ์ที่ทำให้เขาเป็นผู้นำที่ดีขึ้นกว่าเดิม ผ่านการเผยแพร่ลงแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า ‘X’
Ek อธิบายเกี่ยวกับประโยคข้างต้นว่า เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เมื่อทีมพิสูจน์ได้ว่าเขากำลัง‘คิดผิด’ โดยได้หยิบกรณีของฟีเจอร์ ‘Discover Weekly’ ซึ่งเป็นรายการเพลย์ลิสต์ที่สร้างสรรค์ขึ้นในทุกสัปดาห์เพื่อส่งต่อเพลง 30 เพลงถึงผู้ฟัง Spotify มายกตัวอย่าง
หลายๆ คน อาจจะคิดว่า ‘ผู้ก่อตั้ง’ เป็นคนวางแผนทุกอย่างไว้ตั้งแต่แรก แต่ในความจริงไม่เป็นแบบนั้น (สำหรับเขาน่ะนะ) ฟีเจอร์ Discover Weekly ที่ทีมของเขาคิดค้นขึ้นมา ตัวของ Ek เองก็ไม่ได้เห็นด้วยสักเท่าไหร่
แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นเหนือความคาดหมายอย่างมาก เพราะมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เปิดตัวใช้งาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานก็ชื่นชอบฟีเจอร์นี้ไม่น้อยเลย จน ณ วันนี้ ‘Discover Weekly’ ได้กลายเป็นฟีเจอร์ที่เป็นจุดแข็งของ Spotify ไปเรียบร้อยแล้ว
เหตุการณ์นี้ทำให้ Ek ตระหนักได้ว่า ‘การฟัง’ เป็นทักษะสำคัญที่ถูกประเมินค่า ‘ต่ำ’ กว่าพลังจริงๆ ของมัน และได้ค้นพบอีกว่าการฟังยังมอบบทเรียนที่มีค่าให้แก่ผู้นำในด้านของความอ่อนน้อมถ่อมตนและความฉลาดทางอารมณ์อีกด้วย
‘ทักษะการฟัง’ เป็นทักษะหนึ่งที่ส่งผลต่อการทำงานซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้ทักษะในด้านอื่น แต่มักจะถูกมองข้ามอยู่เสมอ เชื่อว่าอย่างน้อยๆ ทุกคนน่าจะเคยเจอคนที่เรากำลังพูดด้วยแต่เขาก็ไม่สนใจในสิ่งที่เราพูด หรือบางครั้งก็อาจจะเป็น ‘ตัวของเรา’ เองที่กำลังทำพฤติกรรมแบบนี้ ยกตัวอย่าง
❓ เล่นโทรศัพท์ขณะที่สมาชิกในทีมกำลังพูดหรือนำเสนอข้อมูล
❓ขัดจังหวะสมาชิกในทีมขณะพูดอย่างต่อเนื่อง
❓ปฏิเสธความคิดเห็นของสมาชิกในทีมอย่างรวดเร็วด้วยการบอกว่าใช้ไม่ได้
❓ แนะนําวิธีแก้ปัญหาที่ยากต่อการเข้าใจ
แน่นอนว่าเมื่อถูก ‘ปฏิเสธ’ ที่จะรับฟังอยู่บ่อยๆ ก็อาจทำให้ทีมเกิดความเงียบ ซึ่งส่งผลให้การทำงานไม่มีความสร้างสรรค์ ไม่มีการพัฒนาได้ เพราะ ‘ไม่มีใคร’ อยากที่จะเสนอไอเดีย เพราะรู้ว่าถึงพูดอะไรไปก็ไม่มีใครฟังอยู่ดี
ถ้าทีมของเรากำลังประสบปัญหานี้อยู่ก็ไม่เป็นไร เพราะวันนี้ Future Trends จะขอพาทุกคนไปเรียนรู้ถึงการสร้างวัฒนธรรมของการฟังในองค์กรให้เกิดขึ้นจริง จะต้องทำอะไรบ้าง ไปดูกัน!
1. ทำให้ความเงียบเป็นเรื่องที่ปกติ (The rule of awkward silence)
หนึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้วัฒนธรรมการฟังเกิดขึ้นได้จริงในองค์กร คือการ ‘ทำให้ทีมคุ้นเคยกับความเงียบ’ กล่าวคือ เป็นการทำให้ทีมไตร่ตรองความคิดก่อนที่จะกระโจนเข้ามาทำลายความเงียบในทันทีทันใด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้สมาชิกในทีมสามารถแชร์ไอเดียได้อย่างเต็มที่ แม้จะเป็นคนขี้เขินก็ตาม
เมื่อทีมเริ่มพูดและแสดงความคิดเห็น ให้เราตั้งใจที่จะฟัง และถามคำถามเพื่อให้เราเข้าใจสิ่งที่ทีมจะสื่อ
2. ไม่เห็นด้วย แต่ลองดูก็ได้ (Disagree and commit)
สเตปต่อมาคือการลองดูกันสักตั้ง ‘Disagree and commit’ เป็นหลักการจัดการที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเมื่อ Jeff Bezos CEO ของ Amazon ได้เน้นย้ำถึง 3 คำนี้ในจดหมายผู้ถือหุ้น
ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นหรือไอเดียที่ทีมเสนอ แต่ถ้าหากลองทบทวนอย่างละเอียดแล้วพบว่ามันต้องมีประโยชน์ต่อองค์กรอย่างแน่นอน ก็ขอให้ ‘ลอง’ ที่จะทำให้สิ่งนั้นๆ เกิดขึ้นจริงได้
ด้วยเหตุนี้ ‘การฟัง’ นอกเหนือจากจะมีคุณค่าในด้านของความอ่อนน้อมถ่อมตนและความฉลาดทางอารมณ์แล้ว ยังมีพลังในแง่ของการช่วยพัฒนาทีมและผลงานให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เพราะทุกคนพร้อมที่จะเล่าสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับทีม เพราะมีคน ‘ตั้งใจที่จะฟัง’
เช่นเดียวกับ Daniel Ek ที่แม้จะไม่เห็นด้วยกับฟีเจอร์ Discover Weekly ใน Spotify แต่เขากับรับฟังทีมของเขา และพัฒนาฟีเจอร์จนกลายเป็นจุดแข็งของแอฟพลิเคชันได้นั่นเอง
เขียนโดย ชนัญชิดา พลอยพลาย
#FutureTrends #KnowledgeforSuccess
Sourcse: